นักลงทุนญี่ปุ่นสนใจลงทุนอีอีซี

กรุงเทพฯ  2 มิ.ย. – เจโทรเผยผลสำรวจบริษัทญี่ปุ่นในไทยเกี่ยวกับอีอีซี พบว่า 24 บริษัทลงทุนแล้ว อีก 10 บริษัท เตรียมขยายการลงทุน  รัฐบาลเตรียมชี้แจงนโยบายอีอีซี 7 มิ.ย.นี้


นายฮิโรคิ มิทสึมะตะ ประธาน องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุน (เจโทร) กรุงเทพฯ เปิดเผยว่า เจโทร กรุงเทพฯ ร่วมกับสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยสอบถามสมาชิกหอการค้าญี่ปุ่น (JCC) เรื่อง “ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ” โดยส่งอีเมลส่งแบบสอบถามไปยังบริษัทขนาดใหญ่ที่อยู่ในคณะกรรมการบริหารของ JCC รวม 48 บริษัท ผลสำรวจเบื้องต้นพบว่าตอบกลับ 28 บริษัท หรือคิดเป็นร้อยละ 58.3 ในจำนวน 28 บริษัท ระบุว่าขยายธุรกิจไปยังเขตอีอีซีเรียบร้อยแล้วถึง 24 บริษัท อุตสาหกรรมที่เข้าไปลงทุน เช่น อุตสาหกรรมยานรถยนต์ เคมีภัณฑ์ เหล็ก ค้าปลีก ธนาคารและประกันภัย และในจำนวนนี้ให้ความสำคัญต่อการลงทุนในอีอีซีมากถึง 9 บริษัท โดยวัดจากการมีพนักงานในเขตอีอีซีเกินกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนพนักงานทั้งหมดในประเทศไทย และยังพบด้วยว่าอีก 15 บริษัทตั้งสำนักงานภายในอีอีซีแล้ว โดยมองว่าเป็นการวางตำแหน่งที่สำคัญเชิงกลยุทธ์ในภูมิภาคที่กว้างขึ้น และในจำนวน 28 บริษัท กำลังพิจารณาจะขยายการลงทุน 10 บริษัทหลายรูปแบบ เช่น ขยายผลิตภัณฑ์ หรือเริ่มสายการผลิตใหม่เพิ่ม และอีก 18 บริษัทไม่มีแผนลงทุนในอีอีซี

บริษัทที่ตอบแบบสอบถามกลับมายังระบุว่ามาตรการส่งเสริมการลงทุนโดยให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุด 15 ปี และการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลร้อยละ 50 เป็นเวลา 5 ปีหลังจากลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานตามที่รัฐบาลไทยประกาศออกมา มีประสิทธิภาพรวมถึงการอนุญาตให้การชำระเงินสกุลเงินต่างประเทศได้ ล้วนเป็นประโยชน์ โดยภาพรวมแล้ว บริษัทญี่ปุ่นเห็นว่ามาตรการส่งเสริมการลงทุนในอีอีซีเมื่อเทียบกับประเทศอื่นแล้ว นับว่าค่อนข้างมีอิมแพคน่าสนใจ 


สำหรับความคาดหวังบริษัทญี่ปุ่นต่ออีอีซี 5 หมวดสำคัญ ได้แก่ หมวด 1 เรื่อง คำมั่นสัญญาที่หนักแน่นของรัฐบาลไทย ซึ่งในส่วนโครงการด้านสาธารณูปโภคด้านคมนาคม ทราบว่า มีวิธีการทบทวนแผน PPP เป็นจุดที่สำคัญอย่างยิ่ง อยากให้รัฐบาลเป็นผู้ลงทุนมากกว่า หมวด 2 การพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพสูง  หมวด 3 การจัดเตรียมสภาพแวดล้อมเพื่อนำเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ามาใช้ หมวด 4 การปรับปรุงระบบกฎหมายและประเด็นปัญหาของหน่วยงานภาครัฐ และหมวด 5 การปรับปรุงด้านโลจิสติกส์และการเตรียมสาธารณูปโภคอื่น ๆ 

ปัจจุบันมีบริษัทญี่ปุ่นลงทุนในไทยกว่า 5,000 บริษัท  ในจำนวนนี้เป็นสมาชิกหอการค้าญี่ปุ่น กรุงเทพฯ 1,700 บริษัท 24 บริษัทลงทุนในอีอีซีแล้ว อย่างไรก็ตาม บริษัทที่เหลือจะลงทุนหรือไม่  ขึ้นกับการพิจารณาของบริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่น และทางเจโทรกรุงเทพฯ จะร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จัดงานสัมมนาเรื่องการลงทุนในประเทศไทย พร้อมทั้งการชี้แจงจากรัฐบาลไทยเรื่องนโยบายอีอีซีแก่นักลงทุนญี่ปุ่นวันที่ 7 มิถุนายนนี้ โดยเชิญนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องร่วมงาน ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบการญี่ปุ่นตอบรับเข้าร่วมงานสัมมนาแล้วกว่า 1,000 ราย

ส่วนการที่รัฐบาลไทยเลื่อนการออกพระราชกำหนดระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกอีก 3 เดือนนั้น ได้ติดตามภาพรวมอีอีซีและหารือรัฐบาลไทยตลอด แน่นอนว่าไม่สามารถแสดงความเห็นได้ แต่อยากจะเห็นความชัดเจนของภาพทั้งหมดและรออยู่


นอกจากนี้ทาง เจโทร กรุงเทพฯ ยังร่วมกับ JCC สำรวจความเห็นบริษัทญี่ปุ่นที่ลงทุนในไทยถึงความคิดเห็นต่อเศรษฐกิจไทยเดือนกุมภาพันธ์ 2560 โดยล่าสุดความมั่นคงปลอดภัยความหว่งใยของนักลงทุนญี่ปุ่น อยู่ในอันดับที่ 4 ไม่ใช่อันดับแรก อันดับ 1 ที่ต้องการเห็น คือ เสถียรภาพเศรษฐกิจ อันดับ 2 ขั้นตอนศุลกากร และอันดับ 3 สภาวะการจราจรในกรุงเทพฯ และปริมณฑล แนวโน้มเศรษฐกิจไทย แต่เศรษฐกิจไทยยังมีความไม่แน่นอนจากการส่งออก.-สำนักข่าวไทย

   

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา

ไทยรับคำเชิญ “อันวาร์” ถกปัญหาชายแดน “ภูมิธรรม” นำทีมไทยแลนด์เจรจา

ทำเนียบรัฐบาล 27 ก.ค. – รัฐบาลยืนยัน “อันวาร์” ประธานอาเซียน เชิญผู้นำไทยถกปัญหาไทย-กัมพูชา “ภูมิธรรม” นำทีมไทยแลนด์เจรจา ย้ำไม่มีการเจรจาเรื่องแผนที่ ยืนยันการรักษาอธิปไตยของประเทศแม้ตารางนิ้วเดียวก็ให้ใครไม่ได้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ. ทก.) เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยได้รับคำเชิญจากนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเชีย ในฐานะประธานอาเชียน ให้เดินทางไปร่วมหารือ แนวทางสันติภาพในภูมิภาคนี้ ในวันพรุ่งนี้ (จันทร์ที่ 28 กรกฎาคม 2568) ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยคณะจะออกเดินทางจากกองทัพอากาศเวลาประมาณ 10.30น และเข้าหารือ เวลา 15.00 น.ตามเวลาประเทศมาเลเซีย คณะของทีมไทยแลนด์นำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีและตนในฐานะกรรมการ ศบ.ทก. ทั้งนี้ ได้รับแจ้งว่า […]

แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจ

มุกดาหาร 27 ก.ค. – แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุปะทะไทย-กัมพูชา เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายที่ได้รับใช้ชาติ ที่จังหวัดมุกดาหาร ผู้ว่าราชการจังหวัด เชิญสิ่งของพระราชทานมอบให้ครอบครัว จ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา หรือ จ่าโต๋ ซึ่งเสียชีวิตบริเวณฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น (เขาสัตตะโสม) อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จากเหตุปะทะและการยิงถล่มของกัมพูชาบริเวณเนิน 333 แม่ของ จ.ส.อ.ธวัชชัย บอกว่าตอนนี้ตนได้เปลี่ยนจากความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายในการรับใช้ชาติ อีกทั้งครอบครัวได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นบุญของลูกชายและครอบครัว ส่วนน้องชายที่เป็นทหารพรานอยู่ตอนนี้ก็ไม่ถอดใจ ส่วนที่ศาลาประชาคมชาวบ้านห้วยเตย ตำบลศรีสุขสำราญ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาพร้อมใจกันร้องเพลงชาติไทยดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังและส่งกำลังใจให้ทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องรักษาชายแดนไทยและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมเปิดจุดรับบริจาคสิ่งของเพื่อนำส่งความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และผู้ประสบภัย.-สำนักข่าวไทย

ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก แม้ “ทรัมป์” เสนอเจรจาหยุดยิง

สุรินทร์ 27 ก.ค.-ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก กัมพูชาเปิดฉากยิงใส่แต่เช้ามืด กระสุนบางส่วนตกใส่หมู่บ้านฝั่งไทย ขยายรัศมีไกลขึ้นเรื่อยๆ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เสนอเจรจาหยุดยิง แม้จะมีการเจรจาหยุดยิงผ่านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา แต่ขณะที่ยังไม่มีการเจรจาทวิภาคี ระหว่างไทย-กัมพูชา เช้ามืดวันนี้ ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ ก็ยังมีการปะทะกันอย่างหนัก จนกระสุนมาตกสร้างความเสียหายให้ราษฎรไทยอย่างที่เห็น“ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาควายและตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เริ่มเปิดฉากปะทะกันตั้งแต่ช่วงตี 4 กระสุนจากการประทะบางส่วนเข้ามาตกในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งปรากฏกระสุนรุกล้ำดินแดนไทยลึกเข้ามาเรื่อยๆ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง และมีไฟลุกไหม้ เศษสังกะสี ซีเมนต์ วัสดุโครงสร้างบ้านปลิวกระจัดกระจาย เคราะห์ยังดี ที่เจ้าของบ้านอพยพออกนอกพื้นที่หมดแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ขอร้องให้อพยพออกไปเมื่อวานนี้ จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต บางจุดลงฟาร์มวัววากิว ทำให้วัวตายไป 6 ตัว เจ้าของวัวเล่าว่า ตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงลูกปืนใหญ่ของ 2 ฝ่าย และสังเกตเห็นจรวด BM-21 พุ่งเข้ามาที่คอกวัว จึงได้หลบหาที่กำบัง พอเสียงเงียบ ตนก็รีบออกมาดู ก็พบว่า วัวของตนถูกกระสุนตายไป […]