ดีเอสไอ 1 มิ.ย.- ดีเอสไอ เตรียมแฉข้อมูลรถโจรกรรมจากอังกฤษสัปดาห์หน้า เผยรู้ข้อมูลแล้ว 38 จาก 42 คัน
พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบขบวนการนำเข้ารถยนต์หรูสำแดงเท็จ ว่า วานนี้ (31พ.ค.)มีตัวแทนบริษัทผู้นำเข้ารถยนต์มาขอพบเพื่อชี้แจงหลักฐานการนำเข้ารถ โดยในชั้นการตรวจสอบยืนยันว่าดีเอสไอจะดำเนินการตามหลักฐาน และพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เช่นเดียวกับรถของนายปกรณ์ ลัม หรือโดม นักร้องนักแสดงชื่อดัง ที่ถูกอายัดไว้ เนื่องจากจอดในโชว์รูม รวมกับรถที่มีข้อมูลว่าสำแดงราคาต่ำกว่าความจริงและรถที่ถูกโจรกรรมมา ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าขั้นตอนการนำเข้ารถถูกต้องหรือไม่ ต้องรอความชัดเจนจากการตรวจสอบเอกสารที่ผู้นำเข้ารถจะนำมาชี้แจงก่อน
ด้าน พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า วานนี้ มีบริษัทตัวแทนนำเข้ารถหรู มาขอเข้าพบ เพื่อต้องการแสดงความบริสุทธิ์ แต่ตนบอกถ้าหากบริสุทธิ์ใจและต้องการชี้แจง ขอให้ทำหนังสือมาแทน และให้ฝ่ายเลขาดีเอสไอเป็นผู้รับเรื่องแทน และในสัปดาห์หน้า ดีเอสไอ จะแถลงความคืบหน้าคดีรถที่โจรกรรมมาจากประเทศอังกฤษตามที่ได้รับข้อมูลมา 42 คัน
ทั้งนี้ ขณะนี้มีข้อมูลแล้ว 38 คัน รวมทั้งจะนำข้อมูลเรื่องบริษัทนำเข้ารถหรู นอกจากจะสำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริงแล้ว ยังแสดงข้อมูลว่าเป็นรถนำเข้าจดประกอบ ทำให้เสียภาษีแค่ร้อยละ 80 ของราคาสำแดง แทนที่จะ ต้องจ่ายร้อยละ 328 ซึ่งพบว่ามีจำนวนมากอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล
ขณะที่แหล่งข่าวจาก ดีเอสไป เปิดเผยว่า หลังดีเอสไออายัดรถที่สำแดงราคาเท็จ166 คันและมีรถที่ถูกโจรกรรมไว้ 13 คัน ปรากฎว่ามีผู้ครอบครองรถยนต์ ซึ่งมีหมายเลขเครื่องยนต์และตัวถังตรงกับรถที่ถูกโจรกรรมติดต่อมายังชุดสอบสวนแจ้งว่าเป็นผู้ครอบครองรถที่ถูกโจรกรรมมา โดยระบุว่าซื้อรถคันดังกล่าวมาอย่างถูกกฎหมายและจ่ายเงินถูกต้อง และจะขอครอบครองรถไว้ใช้งานต่อไป แต่ชุดสอบสวนยืนยันว่า ผู้ครอบครองต้องส่งมอบรถให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อรอส่งคืนให้กับประเทศอังกฤษ เนื่องจากเป็นรถที่ถูกโจรกรรมมาอย่างชัดเจน ทำให้ผู้ที่ระบุว่าเป็นเจ้าของรถเกิดความไม่พอใจ อ้างว่าเป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่แห่งหนึ่ง และขู่จะฟ้องพนักงานสอบสวนทั้งชุด
ล่าสุดดีเอสไอได้ประสานกรมศุลกากรขอเข้าสำรวจรถที่จอดในเขตปลอดภาษีของกรมศุลกากรว่ามีรถยนต์เลี่ยงภาษีจอดในโกดังผู้นำเข้ารายใด บ้าง และสัปดาห์หน้าอาจจะเข้าตรวจสอบเขตปลอดภาษีที่ท่าเรือแหลมฉบัง.-สำนักข่าวไทย