กทม.ติดป้ายรณรงค์ ‘ไม่ทิ้ง ไม่ท่วม’แก้ปัญหาขยะ

กทม.1 มิ.ย.-ผู้ว่าฯ กทม.กำชับทุกเขตติดป้ายประกาศ “ไม่ทิ้ง ไม่ท่วม” เน้นขอความร่วมมือ ประชาชนงดทิ้งขยะ พร้อมเดินหน้าสร้างอุโมงค์ยักษ์เปรมประชากร ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี


พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานการประชุมหัวหน้าหน่วยงาน กทม.ครั้งที่ 6 ประจำปี 2560                   โดยมีวาระที่สำคัญเรื่องการรณรงค์จัดเก็บขยะในแม่น้ำ ลำคลอง ตลอดจนติดตามการตรวจสอบความแข็งแรง และดูแลบำรุงรักษาต้นไม้ใหญ่ในพื้นที่ กทม. 


ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ได้กำชับสำนักงานเขตทั้ง 50เขต ติดป้ายประกาศ “ไม่ทิ้ง ไม่ท่วม” ขอความร่วมมือจากประชาชน งดทิ้งขยะลงแม่น้ำ ลำคลอง เพราะขยะเป็นอุปสรรคขวางทางน้ำไหล ส่งผลต่อการระบาย ทำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ  ส่วนปัญหาขยะชิ้นใหญ่ ทุกสำนักงานเขต มีการจัดเก็บขยะชิ้นใหญ่เป็นประจำทุกวันอาทิตย์ แต่ขาดการประชาสัมพันธ์  หลังจากนี้ได้สั่งการให้ทุกเขตเร่งสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนในพื้นที่ นำขยะมาทิ้งตามจุดต่างๆ ที่แต่ละเขตกำหนด แม้จะมีกฎหมายสามารถบังคับใช้เอาผิดกับผู้ทิ้งขยะไม่ถูกที่ แต่ กทม.เห็นว่า การสร้างจิตสำนึก เป็นหนทางแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน


พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีช่วงฝนตกที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ต้นไม้ใหญ่ล้มทับสร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชน ผ่านไปกว่า 1สัปดาห์แล้วได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจต้นไม้ หากพบต้นไม้มีลักษณะเอนให้รีบดำเนินการล้อม ค้ำยันทันที และหากต้นไม้อยู่ในพื้นที่ของเอกชนต้องรีบประสานให้ดำเนินการแก้ไขทันทีเช่นกัน อย่างไรตามช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีฝนตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง จนมีน้ำท่วมขังรอการระบายสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน สัญจรลำบาก ขณะที่วันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมามีน้ำท่วมขังรอระบายบนถนนสายหลักหลายจุด และสามารถเร่งระบายจนกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ เวลาประมาณ 15.00น. แต่บางสื่อนำภาพช่วงเช้ามานำเสนอ อาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดเกิดความสับสน

พล.ต.อ.อัศวิน ยังกล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ติดตามแก้ปัญหาน้ำท่วมเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ว่า นายกรัฐมนตรีมีความพึงพอใจระดับหนึ่ง ในการแก้ปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ อยากให้ กทม.มีการแก้ปัญหาน้ำท่วมขังอย่างถาวร ตนจึงได้กำชับผู้รับเหมาอุโมงค์ยักษ์บางซื่อ ให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ  คาดว่าสามารถเปิดใช้อุโมงค์ยักษ์บางซื่อได้ภายในเดือน ก.ค.นี้  พร้อมศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างอุโมงค์ยักษ์เปรมประชากรเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้อีกทางหนึ่ง

รายงานข่าวแจ้งว่าขณะนี้สำนักการระบายน้ำ อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดอีกครั้งในการก่อสร้างอุโมงค์ยักษ์คลองเปรมประชากร เพื่อเสนอของบประมาณจากรัฐบาล ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการศึกษาไว้เรียบร้อยแล้ว  เบื้องต้นโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองเปรมประชากรจากคลองบางบัวลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่โครงการ จะเริ่มจากคลองบางบัวลอดใต้คลองวัดหลักสี่  คลองเปรมประชากร  ถนนรัชดาภิเษก  ถนนวงศ์สว่าง ไปออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณใต้สะพานพระราม 7  โดยอุโมงค์ มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5.70 เมตร ยาวประมาณ 13.50 กม.ก่อสร้างสถานีสูบน้ำ ตอนปลายอุโมงค์กำลังสูบ 60 ลบ.ม./วินาที ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 109 ตารางกิโลเมตร ได้แก่ ดอนเมือง สายไหม บางเขน หลักสี่ และจตุจักร คาดว่าจะระยะเวลาการก่อสร้าง 4 ปี งบประมาณการก่อสร้างเบื้องต้น 6,000 ล้านบาท .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ. เผยกัมพูชาโจมตีตั้งแต่ 5 ทุ่มถึงรุ่งสาง

กทม. 28 ก.ค.-ทบ. เผยกัมพูชาโจมตีตั้งแต่ 5 ทุ่มถึงรุ่งสาง ขณะ ทภ.2 เตือนอย่าเชื่อข่าวปลอม กองทัพไม่สนทางรัฐบาลเจรจา กร้าวเดินหน้ารบ-ประกาศอัยการศึก พร้อมชวนกดรีพอร์ทโพสต์-คอมเมนต์ผู้ไม่หวังดีโจมตีสื่อทางการไทย กองทัพบกทันกระแส รายงานว่าเข้าวันที่ 5 ของสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา ตั้งแต่ 5 ทุ่ม เที่ยงคืน ตี 1 ตี 3 จนฟ้าเริ่มสาง ทหารไทยยังไม่ได้พักมีทุกแบบ ทั้งคืน นอกจากนี้ กองทัพภาคที่2 ยังได้ขอความร่วมมือ ชาวโซเชียลไทย กดรีพอร์ท Report โพสต์หรือคอมเม้นต์ของผู้ไม่หวังดี ที่ต้องการเข้ามา กลั่นแกล้ง ก่อกวน และโจมตี สื่อทางการไทย พร้อนเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม กรณีที่มีข่าวว่า “กองทัพแข็งกร้าว! ลั่นเดินหน้ารบ ซัดรบ.อย่าหวังเจรจา ขณะเขมรยึดพื้นที่ไทย จ่อใช้กฎอัยการศึกทั่วประเทศ”.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่

กทม. 28 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ […]

กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา

กทม. 28 ก.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา พบฝ่ายกัมพูชาตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งโจมตีพื้นที่พลเรือนฝ่ายไทย ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงกรณีมีภาพการระเบิดที่อาคารร้างฝั่งกัมพูชา ตามที่ปรากฏข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ เหตุการณ์การระเบิดบริเวณอาคารร้างฝั่งกัมพูชาซึ่งอยู่ใกล้แนวชายแดนไทย ฝ่ายไทยมีการตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้ตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งไว้บริเวณพื้นที่พลเรือน และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับภารกิจทางทหารในหลายพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมากัมพูชาใช้อาวุธดังกล่าวในการโจมตีพื้นที่พลเรือนของฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง นำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย อันถือเป็นการกระทำที่เข้าข่าย “ใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์” (Human Shield) ซึ่งเป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรมสากล ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 จึงขอยืนยันว่า การใช้กำลังทางทหารของกองทัพไทยมุ่งเป้าเฉพาะไปยังเป้าหมายทางทหารที่ตรวจพบว่ามีการโจมตี หรือคุกคามต่อความมั่นคงของชาติไทย เท่านั้น ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ยังคงยึดมั่นในหลักสันติวิธี การเคารพในอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน และไม่ใช้ความรุนแรงกับพลเรือนทุกกรณี แต่ต้องดำเนินมาตรการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ และอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย