ป.ป.ช.-อุดมเดช แถลงปิดคดีถอดถอนสลับร่าง รธน.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

3-11-2559 13-12-49รัฐสภา 4 พ.ย.-  ป.ป.ช.แถลงปิดคดีถอดถอน  อุดมเดช  ย้ำ ศาลรัฐธรรมนูญชี้ การสลับร่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขณะที่  อุดมเดช ยืนยัน ทำตามรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับสภา การปรับแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญทำได้ ก่อนประธานจะบรรจุระเบียบวาระ  ขณะที่ ประธานนัดลงมติถอดถอนหรือไม่ วันพรุ่งนี้


การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้ (3 พ.ย.)  พิจารณาเรื่องด่วน แถลงปิดสำนวนคดีถอดถอน นายอุดมเดช รัตนสเถียร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนนทบุรี ภายหลังถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  ชี้มูลความผิด จากกรณีสลับร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ประเด็นที่มาสมาชิกวุฒิสภา

น.ส.สุภา ปิยะจิตติ  กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะผู้กล่าวหา กล่าวว่า การที่นายอุดมเดชอ้างว่า ได้สอบถามจากอดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและเจ้าหน้าที่ว่า การนำร่างรัฐธรรมนูญที่เสนอและลงเลขรับแล้ว กลับไปแก้ไขอีกครั้ง สามารถทำได้  ตราบใดที่ประธานรัฐสภายังไม่บรรจุเข้าสู่วาระการประชุมนั้น  เป็นเหตุผลที่นำมาอ้างไม่ได้


น.ส.สุภา กล่าวว่า  หลักการดังกล่าวใช้ได้กับร่างพระราชบัญญัติเท่านั้น แต่ใช้กับการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้ เพราะการเสนอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญถูกบรรจุไว้ในข้อบังคับการประชุม ว่าจะต้องระมัดระวัง เพื่อคุ้มครองไม่ให้มีการแอบแฝง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การให้ข้อมูลของเจ้าหน้าที่ขัดกับหลักกฎหมาย ดังนั้น บุคคลที่นายอุดมเดชนำมากล่าวอ้าง ควรได้รับโทษด้วยหรือไม่

น.ส.สุภา กล่าวว่า  นอกจากนี้ คดีดังกล่าวศาลรัฐธรรมนูญยังได้วินิจฉัยแล้วว่า การสับเปลี่ยนร่างรัฐธรรมนูญในครั้งนั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะร่างที่นายอุดมเดชนำกลับมาแก้ไข เรื่องที่วุฒิสภา ไม่มีสมาชิกลงชื่อรับรอง พร้อมย้ำว่า ความผิดของนายอุดมเดช  ไม่สามารถนำไปเปรียบกับคดีของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธาน ส.ส. และคดีของอดีต ส.ส./ส.ว. ที่ สนช. เคยมีมติไม่ถอดถอนไปก่อนหน้านี้ได้ เพราะเป็นความผิดเฉพาะตัว ถือเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง

ขณะที่ นายอุดมเดช แถลงปิดคดีชี้แจงว่า หลังยื่นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแล้ว ได้มี ส.ส.ทักท้วงว่า เนื้อหาสาระไม่ครบถ้วน และบกพร่อง จึงย้อนกลับไปดูตัวร่าง เห็นว่าไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ เพราะตอนนั้นตั้งใจให้ ส.ว.มาจากการเลือกตั้ง 200 คน และไม่ตัดสิทธิส.ว.ในขณะนั้น ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของ ส.ส.ที่ร่วมลงชื่อ นอกจากนี้ ในการประชุมวิปรัฐบาล ได้แจ้งให้วิปไปประสานกับ ส.ส. ที่ร่วมลงลายมือชื่อ


นายอุดมเดช กล่าวว่า  ต่อมามีผู้ร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ 3 มี.ค.2557 และตนได้ชี้แจงข้อกล่าวหาเป็นลายลักษณ์อักษร ยืนยันดำเนินการตามขั้นตอนทุกอย่าง โดยไม่ได้ขัดต่อหลักการและเหตุผล รวมทั้ง ไม่มีเจตนาทุจริตซ่อนเร้นใดๆ และยืนยันว่า การปรับแก้ไขร่างใดๆ ตราบใดที่ประธานยังไม่ได้บรรจุระเบียบวาระการประชุม เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ จากที่ข้าราชการรัฐสภาจำนวนไม่น้อยกว่า 9-10 คน ยืนยันทั้งหมด

“รัฐธรรมนูญได้กำหนดให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมได้ โดยตัวของรัฐธรรมนูญเอง และผมได้ใช้ความเป็น ส.ส. ร่วมกับ ส.ว.เสนอขอแก้ไข โดยมีผู้เห็นด้วยไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้า จึงขอยืนยันว่า ใช้อำนาจหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ทุกประการ และศาลรัฐธรรมนูญยังมีคำแนะนำไว้ว่า สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ โดยแก้เป็นรายมาตรา ดังนั้น ผมจึงไม่ได้ทำผิดรัฐธรรมนูญ และไม่ได้ทำผิดข้อบังคับการประชุมรัฐสภา” นายอุดมเดช กล่าว

สำหรับข้อกล่าวหาว่า มีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่นั้น นายอุดมเดช กล่าวว่า เรื่องนี้ สนช.ได้เคยใช้ดุลยพินิจไม่ถอดถอนนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา  จากกรณีนี้แล้ว เพราะการเปิดให้ ส.ว.ขณะนั้นลงสมัครรับเลือกตั้งได้ ไม่ได้หมายความว่า ส.ว.เหล่านั้นจะลงสมัครหรือไม่ และไม่ได้หมายความว่า คนเหล่านั้นจะได้รับเลือกหรือไม่ แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีตัวเลือกมากขึ้น

จากนั้น ประธานได้นัดลงมติถอดถอน หรือไม่ถอดถอนนายอุดมเดชในวันพรุ่งนี้ (4 พ.ย.) เวลา10.00 น.        .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” โชว์ตัวว่าที่ รมต.ทีมเศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “อนุทิน” โชว์ตัว ว่าที่ 3 รมต.ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ล้อมวงกินเค้กส้ม “เอกนิติ” นั่งขุนคลัง เตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ “สีหศักดิ์” เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ “อรรถพล” อดีต CEO ปตท. นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย ยอมรับเก้าอี้กลาโหม ต้องมีความรู้ในวิชาชีพ ปัดตอบชิงดำ “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกันที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกันที่บริเวณชั้นบน ทั้งนี้ คาดว่านายสีหศักดิ์ ถูกทาบทาม […]

รัฐมนตรีส่ง จนท.ทยอยขนของออกจากทำเนียบ

ทำเนียบ 6 ก.ย. – รัฐมนตรีในรัฐบาลชุดเดิม ส่งเจ้าหน้าที่ทยอยขนของออกจากทำเนียบรัฐบาล​ หลัง​สภาฯ โหวตเลือก “อนุทิน​” นั่งนายกรัฐมนตรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เริ่มมีการทยอยขนของออกจากทำเนียบรัฐบาล หลังสภาฯ มีมติโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ บรรดารัฐมนตรีและทีมงานของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ส่งทีมงานทยอยเก็บของ ก่อนเวลาประมาณ​ 10.00 น.​ พบรถบรรทุก​ 6 ล้อ​ คลุมผ้าใบทึบ ออกจากบริเวณหลังตึกไทยคู่ฟ้า​ รวมไปถึงมีเจ้าหน้าที่มาล้างทำความสะอาดและเปลี่ยนน้ำยาเครื่องปรับอากาศใหม่ ทั้งตึกไทยคู่ฟ้า และตึกบัญชาการ 1 และมีการขนภาพวาดติดฝาผนังออกจากห้องทำงานของนางสาวหทัย ทิวไผ่งาม​ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ แม้ว่าจะเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์​ มีการแจ้งเตรียมขนของของรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดเดิมออก ทั้งวันเสาร์และอาทิตย์.-314-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” สุดชิล ใส่เสื้อฮาวาย เข้าพรรคประชุมแกนนำ

ภูมิใจไทย 6 ก.ย. – “อนุทิน” ว่าที่นายกฯ สุดชิล ใส่เสื้อฮาวายลายใบไม้ เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ประชุมแกนนำในวันหยุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ด้วยท่าทีผ่อนคลาย สีหน้ายิ้มแย้ม สวมเสื้อฮาวายลายใบไม้ เมื่อมาถึงผู้สื่อข่าวพยายามขอสัมภาษณ์ แต่นายอนุทิน ขอตัวขึ้นไปประชุมก่อน และระบุว่าขณะนี้ยังไม่มีข่าว ขณะที่พรรคภูมิใจไทย เตรียมความพร้อมในการจัดงานพิธีสำคัญ ภายหลังมีแกนนำพรรค และว่าที่รัฐมนตรีตามโผ ครม.อนุทิน 1 เช่น นายภราดร ปริศนานันทกุล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ส่งช่อดอกไม้มาแสดงความยินดี รวมไปถึงต้นกล้วยไม้สีขาวก้านยาว ในกระถางพลาสติกสีเขียวอ่อนขนาดใหญ่ ประมาณ 1 คนโอบ ติดนามบัตรมีชื่อของนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด.-314-สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย