สอบเครียด 2 ผู้ต้องหาคดีฆ่า “น้องแอ๋ม” คุมทำแผนฯ จุดฝังร่าง 11.00 น.วันนี้

ขอนแก่น 31 พ.ค.-สอบเครียด “วศิน-เบนซ์” 2 ผู้ต้องหาคดีฆ่า “น้องแอ๋ม” นานกว่า 4 ชั่วโมง คุมทำแผนฯ จุดฝังร่าง 11.00 น.วันนี้ เตรียมขอหมายจับเพิ่ม “แจ้” เพื่อน “เปรี้ยว” ร่วมทีมด้วย


หลังจากที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายวศิน นามพรหม อายุ 22 ปี มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (30 พ.ค.) ก็ได้ควบคุมตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่กองกำกับการ 3 กองบังคับตำรวจสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 โดยตำรวจได้ควบคุมตัว น.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณ หรือเบนซ์ ผู้ต้องหาคดีเดียวกันมาร่วมสอบปากคำ หลังจากถูกจับกุมตัวได้ที่ จ.อุบลราชธานี  


จากนั้นในเวลา 22.45 น. ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเขาสวนกวางได้นำตัวนายวศิน พรหมคุณ และ น.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณ ขึ้นรถยนต์ เพื่อไปคุมขังที่สถานีตำรวจภูธรเขาสวนกวาง

พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ คงศิริสมบัติ ผู้กำกับการกองบังคับการ 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า หลังจากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสองคน ทำให้คดีนี้มีความคืบหน้าไปมาก ทำให้ทราบสาเหตุถึงการฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม

ด้าน พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ผู้กำกับการ สภ.เขาสวนกวาง เปิดเผยว่า หลังการสอบสวนนายวศิน ซึ่งทำหน้าที่ขับรถยนต์ ให้การซัดทอด น.ส.อภิวันท์ สัตยบัณฑิต หรือ แจ้ อายุ 28 ปี เป็นผู้ร่วมก่อเหตุ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อขอให้ศาลอนุมัติหมายจับในข้อหาเดียวกัน โดยนางสาวแจ้ เป็นผู้ต้องหาคนที่ 5 ที่ร่วมกันก่อเหตุฆาตกรรม 


ทั้งนี้ น.ส.แจ้ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว ผู้ต้องหาที่ยังคงหลบหนี ได้มานั่งรับประทานอาหารร่วมกัน ที่ร้านลาบลอฟท์ บริเวณริมถนนรื่นรมย์ เขตเทศบาลนครขอนแก่น ในคืนวันที่ 22 พฤษภาคม เพื่อวางแผนล่อลวงผู้ตายและคุมตัวผู้ตายในรถ จนกระทั่งสิ้นใจ และนำไปหั่นศพที่รีสอร์ต

ขณะที่ น.ส.จิดารัตน์ เตรียมยื่นขอประกันตัว เนื่องจากรับสารภาพว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการลงมือฆ่าและหั่นศพ โดยคนที่ลงมือฆ่า คือ น.ส.เปรี้ยว โดยช่วงลงมือหั่นศพ มี น.ส.กวิตา ราชดา หรือเอิร์น เป็นคนที่ช่วยหั่นศพ ซึ่งในเรื่องนี้พนักงานสอบสวนจะพิจารณาว่า จะคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนหรือไม่ และในวันนี้ (31 พ.ค.) จะนำตัวนายวศิน นามพรหม และ น.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณบ้านโคกสง่า ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นจุดฝังร่างน้องแอ๋ม ในเวลาประมาณ 11.00 น.

และเมื่อวานนี้ พ.ต.อ.ภาคภูมิ ผู้กำกับการตำรวจภูธรเขาสวนกวาง ได้เชิญนางสาคร ภาษี อายุ 62 ปี และนายอู้ด โนนวังชัย อายุ 52 ปี และนางประภาศิริ สมศรี พ่อ-แม่-และพี่สาวของ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว ผู้ต้องหาร่วมกันฆาตกรรมน้องแอ๋ม เข้าให้ข้อมูล ทำให้ทราบว่า เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา น.ส.ปรียานุช คุยผ่านบีทอล์กและโทรศัพท์หาพี่สาว ยอมรับว่าลงมือฆ่าน้องแอ๋ม โดยน้องสาวและเพื่อนรวม 4 คน ลวงน้องแอ๋มจากร้านคาราโอเกะ เพื่อเอาตัวไปซ้อมสั่งสอน เนื่องจากถูกน้องแอ๋มหักหลัง จนทำให้สามีติดคุก โดยลงมือซ้อมจนสลบ แต่เมื่อฟื้นขึ้นมา น้องแอ๋มขู่อาฆาตว่า ถ้าเขาไม่ตาย พวกน้องสาวตนต้องตาย จึงได้บีบคอจนตาย น้องสาวบอกว่า จะเข้ามอบตัว แต่ยังไม่สามารถเดินทางเข้าพบตำรวจได้ คงต้องรอประสานมาอีกครั้งหนึ่ง ขณะที่แม่ขอร้องให้เปรี้ยวเข้ามอบตัว 

ด้านเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 4 ขอนแก่น ตรวจสอบรถยนต์ซีอาร์วีไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลังชุดสืบสวนตรวจยึดได้จากบริษัทเช่ารถแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น เนื่องจากพบหลักฐานชัดเจนว่า น้องแอ๋ม ขึ้นรถไปก่อนกลายเป็นศพ และกล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะคนร้ายขับรับผู้ตายบริเวณถนนหน้าเมืองตัดกับถนนเหล่านาดี ห่างจากหอพักผู้ตายประมาณ 100 เมตร โดยผู้ต้องหา 2 ใน 4 เป็นผู้ชาย 1 คน และผู้หญิง 1 คน ไปเช่าระหว่างวันที่ 21-23 พฤษภาคม จากการตรวจสอบรถยนต์ พบเศษปูนซีเมนต์สำเร็จรูปบริเวณขอบประตูด้านหลัง เส้นผม และรอยนิ้วมือจำนวนหนึ่ง รวมทั้งพบเสื้อยืดสีแดงของผู้หญิง และเสื้อยืดโปโลของผู้ชาย อยู่ภายในยางอะไหล่ มีคราบสีน้ำตาลคล้ายคราบเลือดติดอยู่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

ทหารกล้าเล่านาทีระทึก รอดตายจากระเบิดชายแดน

11 ส.ค.- ทหารกล้า เล่าเหตุการณ์ ลูกระเบิดจากฝั่งกัมพูชา ร่วงใส่จุดที่กำลังพลอยู่พอดี จนได้รับบาดเจ็บ ทีมข่าวลงพื้นที่อำเภอลานสัก จ.อุทัยธานี บ้านของ สิบโทปรีชา เสือบัว อายุ 24 ปี หัวหน้าชุดหมู่ปืนเล็กหมวดปืนเล็ก กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 4 ค่ายจิรประวัติ จังหวัดนครสวรรค์ เล่านาทีรอดชีวิตจากเหตุระเบิดที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ขณะประจำการอยู่ในบังเกอร์ ได้ยินเสียงปืนครกจากฝั่งกัมพูชา จึงรีบถอยตัวออกครึ่งหนึ่งเพื่อให้ลูกน้องหลบเข้าไปด้านในบังเกอร์  แต่จังหวะนั้นกระสุนระเบิดตกใส่ทันทีจนร่างกระเด็นและหมดสติ เหตุระเบิดทำให้สิบโทปรีชา ได้รับบาดเจ็บที่ดวงตาซ้าย ขณะปฏิบัติหน้าที่พร้อมเพื่อนทหารอีก 3 นาย สิบโทปรีชา ยังบอกอีกว่า “หากต้องบาดเจ็บอวัยวะส่วนไหน ก็ยอม แต่จะไม่ยอมเสียชาติ” พร้อมเผยว่าได้ติดต่อผู้บังคับบัญชาเพื่อขอกลับไปปฏิบัติหน้าที่ต่อ แม้ได้รับคำสั่งให้พักรักษาตัวก่อน แต่หากมีความจำเป็น เขาพร้อมกลับไปสู้เพื่อประเทศชาติทันที ทั้งนี้ ตัว สิบโทปรีชา และครอบครัวเชื่อว่า เป็นบารมี หลวงพ่อเดิม หลวงพ่อยูร และหนังเสือ วัดพนมเศษเหนือ จังหวัดนครสวรรค์ รวมถึงหลวงพ่อเคลือบ วัดหนองกระดี่ […]

กต.เดินหน้าร้องเรียนกัมพูชา ปมทุ่นระเบิดสังหาร

11 ส.ค.- กระทรวงการต่างประเทศ รายงานผลการร้องเรียนกัมพูชาต่อองค์กรระหว่างประเทศ กรณีวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บ กระทรวงการต่างประเทศ ออกรายงาน “การดำเนินการของไทยต่อกรณีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Anti-Personnel Mine Ban Convention) หรือ อนุสัญญาออตตาวา (Ottawa Convention) สาระสำคัญ คือ ตามที่เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 23 กรกฎาคม และ 9 สิงหาคม 2568 ทหารไทยรวม 11 นาย บาดเจ็บสาหัสจากการเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่วางใหม่โดยกองกำลังทหารกัมพูชา ในบริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี และช่องโดนเอาว์-กฤษณา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ตามลำดับ นั้น กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการภายใต้กรอบอนุสัญญา ออตตาวา เพื่อตอบโต้กัมพูชาโดย เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา มีหนังสือถึงประธานการประชุมรัฐภาคีของอนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ 22 จำนวน 3 ฉบับ เปิดเผยพฤติกรรมการวางทุ่นระเบิด PMN-2 […]

อุตุฯ เตือนไทยมีฝนเพิ่ม-ตกหนักบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 11 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผย “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” ฝนตกหนักบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก จับตาพายุไต้ฝุ่น “โพดุล” คาดเคลื่อนผ่านเกาะไต้หวัน ก่อนขึ้นฝั่งจีนช่วง 13-14 ส.ค.นี้ ยันไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “โพดุล” (PODUL) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไต้หวัน […]

วิเคราะห์แนวทางดำเนินคดีกัมพูชา

10 ส.ค. – ฟังการวิเคราะห์ปมดำเนินคดีกัมพูชา กับ รศ.ดร. ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากหลักฐานที่มีชัดเจน กระสุนกัมพูชายิงตกฝั่งไทย เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินพลเรือน และมีกระสุนที่ต้องเก็บกู้มากกว่า 800 นัด ขณะที่หลังการเจรจา GBC ผ่านไป พบกัมพูชายังเสริมกำลังทหารต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย