พรรคประชาธิปัตย์ 30 พ.ค.- นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี ตั้ง 4 คำถามกับประชาชนว่าหลังการเลือกตั้งจะได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลหรือไม่ว่า หากเป็นการตั้งคำถามเพื่อกระตุ้นให้ได้รัฐบาลที่ดี มีธรรมาภิบาลหลังการเลือกตั้ง ก็ถือเป็นสิ่งที่ดี แต่เห็นว่าคำถามนี้มาในจังหวะที่แปลก เพราะคำถามหลายข้อเป็นคำถามที่คนที่จะต้องตอบคือคนจัดทำรัฐธรรมนูญ และคนที่จัดทำกติกาของบ้านเมือง เพราะช่วงการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญได้ประชาสัมพันธ์มากว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ปราบโกงและป้องกันคนไม่ดีได้ ดังนั้นการมาตั้งคำถามเช่นนี้อาจเป็นการสะท้อนว่ายังไม่มั่นใจ จึงควรต้องช่วยกระตุ้นสังคมให้ช่วยกันคิดว่าจะต้องทำอย่างไร เพื่อให้ได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลหลังการเลือกตั้ง และสุดท้ายจะเป็นตัวพิสูจน์ว่ากติกาที่ทำออกมาเพียงพอในการป้องกันปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น และกันคนไม่ดีเข้าสู่การเมืองได้มากน้อยแค่ไหน เพราะปัญหาวิกฤติที่เกิดขึ้นในอดีต เกิดจากรัฐธรรมนูญน้อยมาก
“ถ้าวันนี้คสช.ตระหนักแล้วว่าลำพังสิ่งที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญยังไม่พอ ก็ต้องทำงานให้หนักขึ้นในการที่จะปฏิรูปว่าจะทำอย่างไร ให้เรามั่นใจว่าจะได้ธรรมาภิบาลหลังการเลือกตั้ง และเห็นว่าคำถามที่ออกมา ไม่ได้กดดันนักการเมือง ส่วนตัวผมไม่รู้สึกกดดันอะไร แต่ผมคิดว่าจะย้อนไปกดดันคสช.มากกว่าเพราะว่าถ้าไม่สามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้ จะกลายเป็นว่าสิ่งที่คสช.ทำมา ไม่ประสบสำเร็จ แต่เราอยากให้สำเร็จ ผมไม่ได้มองว่ากดดันนักการเมือง แต่บางคำถามต้องทำความเข้าใจให้ตรงกัน เช่นที่ถามว่าเลือกตั้งแล้วจะได้รัฐบาลที่มีธรรมมาภิบาลไหม ต้องบอกว่า ไม่มีวิธีไหนที่มีหลักประกันว่าได้ธรรมาภิบาล ไม่ว่าจะเลือกตั้ง สรรหา ปฏิวัติ ไม่มีหลักประกันทั้งนั้น แต่โอกาสที่จะได้ ถ้าเลือกตั้ง มีประชาธิปไตยต่อเนื่อง มีมากกว่าการผูกขาดอำนาจ แต่เราอย่าสับสน อย่าไปตั้งเป้าว่า จะได้ธรรมาภิบาลหรือไม่หลังเลือกตั้ง แล้วจะไม่มีเลือกตั้ง ผมว่าเป็นข้อสรุปที่ผิด เพราะไม่อย่างนั้นจะไม่มีประเทศไหนได้เลือกตั้ง”นายอภิสิทธิ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย