สำนักข่าวไทย 28 พ.ค.-กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เผยผลการตรวจคุ้มครองแรงงานตามมาตรการเร่งด่วน พบสถานประกอบกิจการปฏิบัติไม่ถูกต้องเพิ่มขึ้น เตรียมตรวจเข้มต่อเนื่อง
นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิด เผยผลการตรวจคุ้มครองแรงงาน ตามมาตรการเร่งด่วน 3-3-2 ระยะที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึง 15 พฤษภาคม ว่า การตรวจสถานประกอบกิจการขนส่งสาธารณะ ผ่านการตรวจ 605 แห่ง ลูกจ้างได้รับความคุ้ม ครอง 17,378 คน พบการปฏิบัติไม่ถูกต้อง 74 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 12.23 ได้กำกับติดตามให้ปฏิบัติให้ถูกต้องแล้ว 63 แห่ง ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างติดตามผลการปฏิบัติตามคำสั่ง พบว่าเรื่องที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องมากที่สุด คือ การจ่ายค่าจ้าง ตรวจสถานประกอบกิจการที่มีการใช้แรงงานเด็ก 843 แห่ง พบปฏิบัติไม่ถูกต้อง 161 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 19.1 ได้กำกับให้ปฏิ บัติถูกต้องแล้ว 111 แห่ง โดยเรื่องการแจ้งการจ้างเด็กเป็นเรื่องที่ปฏิบัติ ไม่ถูกต้องมากที่สุด สำหรับการตรวจสถานประกอบกิจการเรือประมงทะเล ได้ดำเนินการตรวจไปรวม 266 ลำพบการปฏิบัติไม่ถูกต้องเพียง 11 ลำ ร้อยละ 4.14 ประเด็นข้อกฎหมายที่สถานประกอบกิจการปฏิบัติไม่ถูกต้องคือไม่มีสัญญาจ้าง แต่ไม่พบการใช้แรงงานบังคับและการค้ามนุษย์
นายสุเมธ กล่าวต่อว่า จากผลการตรวจข้างต้น เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกัน (1 ก.พ. – 15 พ.ค. 59) สถานประกอบกิจการขนส่งสาธารณะกระทำผิดลดลง ร้อยละ 49.71 แต่พบการกระทำผิดเพิ่มขึ้นในสถานประ กอบกิจการที่มีการใช้แรงงานเด็ก เพิ่มขึ้นร้อยละ 113.64 เนื่องจากมีการจัดตั้งชุดเฉพาะกิจเพื่อตรวจบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ อาทิ ตรวจสถานบริการ ร่วมกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทำให้พบการกระทำความผิดเพิ่มมากขึ้น ขณะที่การตรวจการใช้แรงงานบัง คับและการค้ามนุษย์ในกิจการประมงทะเล เป็นกิจการที่อยู่ในความสนใจของสหภาพยุโรป จึงมีการระดมตรวจมากขึ้นทำให้พบการกระทำผิดเพิ่ม ขึ้นเช่นกัน ดังนั้นแผนการตรวจในระยะที่ 2 และ 3 ต่อจากนี้ กสร. จะตรวจคุ้มครองแรงงานอย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สถานประกอบกิจการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย