พระนครศรีอยุธยา 26 พ.ค.- ปภ.อยุธยา เตือนชุมชนริมฝั่งเจ้าพระยา-แม่น้ำน้อย 3 อำเภอ รับมือน้ำล้นตลิ่งจากน้ำเหนือไหลบ่า ล่าสุดเสนาเริ่มเอ่อท่วม บางช่วงไหลแรง ห่วงกระทบปลาในกระชังและเขื่อนคลองบางบาล
กรณีสำนักงานชลประทานที่ 12 ชัยนาท ออกหนังสือแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยาไปยัง 7 จังหวัด คือ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี และพระนครศรีอยุธยา เนื่องจากอิทธิพลของร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคอีสาน จะทำให้มีฝนตกหนัก ช่วงวันที่ 24-29 พฤษภาคมนี้ คาดว่าจะมีน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราเพิ่มขึ้น ซึ่งเขื่อนเจ้าพระยามีการระบายน้ำในอัตรา 649 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ทางกรมชลประทานอาจต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำตามความเหมาะสมไประยะหนึ่งนั้น
นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า หากฝนยังตกหนักเช่นนี้ อาจมีการปล่อยน้ำลงท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้น ทางจังหวัดจึงแจ้งให้อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นติดตามสถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะ ต.หัวเวียง ต.บ้านกระทุ่ม ของ อ.เสนา ต.ท่าดินแดง ของ อ.ผักไห่ และอีกกว่า 10 ตำบลของ อ.บางบาล ซึ่งทั้งหมดเป็นจุดลุ่มต่ำของ จ.พระนครศรีอยุธยา ล่าสุดแม่น้ำน้อยเริ่มเอ่อท่วมแล้ว 30 เซนติเมตร ในตำบลหัวเวียงและบ้านกระทุ่ม อ.เสนา โดยกระแสน้ำไหลแรง ขอให้เกษตรกรเลี้ยงปลาในกระชังเร่งป้องกัน เพราะปลาอาจน็อกน้ำได้ รวมถึงให้ท้องถิ่นตรวจสอบความแข็งแรงของท่าเรือและท่าน้ำ
นายอุดมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเขื่อนริมตลิ่งคลองบางบาล ต.บ้านคลัง อ.บางบาล เนื่องจากช่วงนี้ภาคเหนือและภาคกลางตอนบนมีฝนตกหนัก จึงมีการระบายน้ำมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา และปริมาณน้ำดังกล่าวได้ไหลเข้าคลองบางบาล ซึ่งเขื่อนริมคลองบางบาลนั้นเคยเกิดตลิ่งพังทรุดมาแล้ว ช่วงพฤศจิกายน 2559 ระยะทางยาว 100 เมตร ทาง อบจ.พระนครศรีอยุธยา ได้นำงบประมาณฉุกเฉิน 1,980,000 บาท เร่งป้องกัน ซึ่งขณะนี้ยังเหลือบางส่วนอยู่ระหว่างดำเนินการอีก 20 เมตร เนื่องจากงบประมาณไม่เพียงพอ จึงเป็นห่วงว่าช่วงนี้ที่มีน้ำเหลือไหลมาจะกระทบบ้านเรือนริมคลองและการก่อสร้างเขื่อน.-สำนักข่าวไทย