กรุงเทพฯ 25 พ.ค.-แม้ฝนจะหยุดตกนานกว่า 13 ชั่วโมง แต่ถนนหลายสาย รวมถึงบ้านเรือนประชาชนยังมีน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะในเขตวังทองหลาง ที่ยังต้องจับตาและเฝ้าระวังฝน ที่จะตกหนักต่อเนื่องไปอีก 1-2 วัน
หลังฝนที่ตกหนักกว่า 100 มิลลิเมตร ถล่มกรุงเทพฯ นานกว่า 9 ชม. ตั้งแต่ 21.00 น.ของคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้การจราจรบนถนนหลายสายกลายเป็นอัมพาต มีน้ำท่วมผิวจราจรตั้งแต่ 5-30 เซนติเมตร ส่งผลให้ 25 จุด กลางกรุงน้ำท่วมหนัก โดยเฉพาะแยกรัชดาฯ-ลาดพร้าว ท่วมสูงกว่า 40 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ต้องจอดอยู่บนคอสะพาน บางคันเครื่องยนต์ดับจอดเสียกลางถนน ทำให้รถติดยาวหลายกิโลเมตรทั้งขาเข้าและขาออก
เช่นเดียวกับถนนงามวงศ์วาน บริเวณตลาดพงษ์เพชร และซอยชินเขต รวมถึงถนนแจ้งวัฒนะ ที่วิกฤติไม่แพ้กัน ชาวบ้านหลายคนยอมรับว่า แม้จะเป็นที่น้ำท่วมขังซ้ำซาก แต่ไม่เคยท่วมเร็วและมากขนาดนี้
ส่วนจุดที่มีปริมาณฝนสะสมมากที่สุด คือ เขตวังทองหลาง 169 มิลลิเมตร ทำให้บ้านเรือนประชาชน รวมถึงวัดลาดพร้าวยังมีน้ำท่วมขัง บางจุดสูงกว่า 1 เมตร ในขณะที่โรงเรียน 7 แห่ง ต้องประกาศหยุดเรียน อาทิ โรงเรียนบดินทร์เดชา (สิงห์ สิงหเสนี) โรงเรียนพิบูลอุปถัมภ์ โรงเรียนสาธิตรามคำแหง
“ปนัทดา” นักศึกษาคณะบัญชี ยอมรับว่า น้ำท่วมวันนี้ทำให้ต้องใช้เวลาเดินทางนานถึง 2 ชั่วโมง แต่ก็ต้องมา เพราะมีสอบในวันนี้
แม้ตลอดทั้งวัน สำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานครจะเร่งแก้ปัญหาติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเรือผลักดันน้ำ แต่การระบายน้ำก็ยังเป็นไปได้ช้า เนื่องจากปริมาณน้ำในคลองหลัก คือ คลองลาดพร้าว และคลองบางซื่อยังมีระดับน้ำสูงอยู่ ปัจจุบันจึงยังมีน้ำท่วมถนน 3 แห่ง คือ ถ.รัชดาภิเษก แยกรัชดาภิเษก ถ.พัฒนาการ บริเวณแยกคลองตัน-คลองลาว และ ถ.สุขุมวิท ช่วง BTS แบริ่ง ขาออก
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนคนกรุงเตรียมรับมือกับฝนที่จะตกหนักเกือบทุกพื้นที่ ตั้งแต่ 25-26 พฤษภาคม ตั้งแต่เที่ยงคืนจนถึงเช้าพรุ่งนี้ เพราะอาจเจอน้ำท่วมขังอีก แต่วันที่ 27 พ.ค. ฝนจะเริ่มลดลง
ฝนตก น้ำท่วม ระบายไม่ทัน ยังคงอยู่คู่คนกรุง ปมปัญหาอาจไม่ได้เกิดจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียว ส่วนหนึ่งมาจากระบบการระบายน้ำที่ต้องเร่งแก้ไข รวมถึงการสร้างจิตสำนึกไม่ทิ้งขยะลงแม่น้ำลำคลอง.-สำนักข่าวไทย