อุบลราชธานี 3 พ.ย.-ชาวนาอุบลราชธานีนำข้าวสารหอมมะลิที่สีเองมาขายริมทางเท้า หลังปีนี้ราคาข้าวเปลือกตกต่ำ ขณะที่ยอดจำหน่ายเครื่องสีข้าวเพิ่มขึ้นจากปกติกว่า 20%
กลุ่มชาวนาที่มาจากอำเภอเดชอุดม ม่วงสามสิบ เหล่าเสือโก้ก เขื่องใน และเขตอำเภอเมืองประมาณ 20 ราย ซึ่งสีข้าวสารมะลิรวมกันประมาณ 3 ตัน มานั่งจำหน่ายอยู่ริมทางเท้าหน้าโรงเรียนเทศบาล 3 สามัคคี อ.เมือง จ.อุบลราชธานี หลังราคาข้าวเปลือกในปีนี้ตกต่ำลงมาก โดยข้าวเปลือกสีใหม่สด โรงสีรับซื้อที่กิโลกรัมละไม่เกิน 7 บาททำให้ชาวนาเหล่านี้ ตัดสินใจรวมกลุ่มกันนำข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวไปตากแห้ง แล้วนำไปให้โรงสีในหมู่บ้านสีเป็นข้าวสารนำมาขายกิโลกรัมละ 20 บาท เมื่อหักต้นทุนค่าผลิต ค่าสี และค่าขนส่งชาวนายังได้กำไรเพิ่มจากการขายข้าวสารอีกกิโลกรัมละ 5 บาท จึงดีกว่าการนำไปขายให้กับโรงสีเหมือนที่ผ่านมา ชาวนาจากอำเภอเหล่าเสือโก้กกล่าวถึงการนำข้าวมาขายเอง เพราะทำให้ได้ราคาสูงขึ้นกว่าการขายข้าวเปลือก จะได้มีเงินเหลือไปใช้หนี้สินที่กู้ยืมมาปลูกข้าว และต้องการให้รัฐบาลช่วยดันราคาข้าวเปลือกให้สูงขึ้นกว่านี้ เพราะชาวนากำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก
ขณะที่ชาวนาจากหลายอำเภอที่จังหวัดบุรีรัมย์ ได้พากันมาเลือกซื้อเครื่องสีข้าวตามห้างร้านที่จำหน่ายเครื่องจักรกลการเกษตร ในเขตอำเภอเมืองบุรีรัมย์คึกคัก เพื่อนำไปสีข้าวเปลือกแปรรูปเป็นข้าวสารในครัวเรือนหรือชุมชนของตัวเอง เพื่อนำข้าวสารที่สีแปรสภาพแล้วไปวางขายตามจุดต่างๆ ที่หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนได้เปิดให้ชาวนาสามารถนำข้าวสารไปวางจำหน่ายได้ฟรี หลัวจากราคาข้าวเปลือกนาปีตกต่ำเหลือเพียงกิโลกรัมละ 5 – 6 บาทไม่คุ้มทุน ส่วนมากชาวนาจะเลือกซื้อเครื่องสีข้าวขนาดเล็ก และขนาดกลาง ที่ใช้สำหรับสีในครัวเรือนหรือชุมชน ตั้งแต่ราคากว่า 10,000 ถึง 45,000 บาท ส่งผลให้ช่วงนี้ผู้ประกอบการห้างร้านจำหน่ายเครื่องสีข้าวมียอดขายเพิ่มขึ้นจากปกติกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่เครื่องสีข้าวบางรุ่นส่งมาไม่ทันต่อความต้องการของลูกค้าจนต้องสั่งจองไว้.-สำนักข่าวไทย