ผู้ว่า สตง.แถลงไม่พบความผิดปกติโครงการจัดหาเรือดำน้ำจีน

สตง. 22 พ.ค.-ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน แถลงไม่พบความผิดปกติโครงการจัดหาเรือดำน้ำจีน ชี้คุ้มค่างบ – ไม่ใช่จีทูจีปลอม 


นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พร้อมด้วย นายภัทรชัย ชูช่วย และนางชลาลัย สุขสถิตย์ ผู้ตรวจเงินแผ่นดิน แถลงผลตรวจสอบโครงการจัดหาเรือดำน้ำจีน S26T ของกองทัพเรือ โดยนายพิศิษฐ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบ พบว่ากองทัพเรือมีขั้นตอนในการเสนอจัดหาเรือดำน้ำมานานแล้ว แต่ไม่ได้รับการอนุมัติ จนกระทั่งปี 2558 กองทัพเรือได้เสนอโครงการจัดหาเรือดำน้ำจีน S26T จำนวน 3 ลำ งบประมาณ 36,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 ระยะ  โดยกองทัพเรือได้มีคำของบประมาณแบบผูกพันข้ามปีต่อคณะรัฐมนตรี จนในวันที่ 18 เมษายน 2560 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบก้อนแรก 13,500 ล้านบาทในการว่าจ้างสร้างเรือดำน้ำลำแรก ซึ่งจะต้องจ่ายงวดแรก 700 ล้านบาท หลังเซ็นสัญญา

นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ สตง.ตรวจสอบแล้วเห็นว่าการใช้งบประมาณ 700 ล้านบาท ซื้อเรือดำน้ำจีนไม่ได้ทำให้งบประมาณโดยรวมของประเทศลดลง ไม่กระทบกับหน่วยงาน หรือกระทรวงอื่น ๆ อีกทั้งขั้นตอนการเซ็นสัญญาแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ก็ไม่ใช่เป็นการลงนามในลักษณะสนธิสัญญา แต่เป็นสัญญาเชิงพาณิชย์ ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นว่าไม่ได้อยู่ในข้อบังคับกฎหมายระหว่างประเทศ ตามมาตรา 178 ที่ต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ


“จากการตรวจสอบ พบว่ากองทัพเรือได้เชิญผู้แทนบริษัทสร้างเรือดำน้ำ 6 ประเทศ ได้เข้ามานำเสนอเรือดำน้ำให้กับกองทัพเรือจริง โดยมีการเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของเรือดำน้ำแต่ละรุ่น ซึ่งจีนให้ข้อเสนอที่คุ้มค่าที่สุดเมื่อเทียบกับคุณภาพของเรือดำน้ำและข้อจำกัดด้านงบประมาณของกองทัพเรือ” นายพิศิษฐ์  กล่าว

นายพิศิษฐ์ กล่าวอีกว่า ส่วนข้อสงสัยเรื่องการทำสัญญาแบบจีทูจีนั้น ตรวจสอบแล้วไม่ใช่จีทูจีปลอม เหมือนโครงการรับจำนำข้าว เพราะฝ่ายไทยมีกองทัพเรือเป็นตัวแทนของรัฐบาล ขณะที่บริษัท China Shipbuilding & Offshore International Co., Ltd. หรือ CSOC มีเอกสารยืนยันว่าเป็นตัวแทนรัฐบาลจีนจริง และเป็นบริษัทเดียวที่จีนอนุญาตให้เป็นผู้สร้างเรือดำน้ำ ทำให้ตัดปัญหาว่ามีคนกลางในโครงการนี้หรือไม่ เพราะเป็นการจัดซื้อแบบรัฐต่อรัฐจริง

“ส่วนการตรวจสอบของ สตง.ที่ใช้เวลา 7 วันนั้น ตรวจสอบถึงเพียงขั้นตอนก่อนลงนามสัญญา หลังจากนี้จะต้องรอข้อมูลจากกองทัพเรือ แล้วจะเข้าไปดูว่าสัญญามีข้อตกลงอะไรบ้าง และทั้งสองประเทศต้องดูแลกำกับทุกอย่างให้เป็นไปตามข้อตกลง โดย สตง.ไทยจะประสานกับ สตง.จีน ทั้งนี้หากพบความผิดปกติภายหลัง ก็สามารถแก้ไขได้ เพราะสัญญาไม่ได้ผูกพันงบประมาณทั้งหมด และหากมีกฎหมายวินัยการเงินการคลังออกมา แม้จะเอาผิดย้อนหลังได้ แต่กระบวนการตรวจสอบ ยังสามารถทำได้ ขอยืนยันว่า สตง.ทำหน้าที่ตรวจสอบทุกโครงการอย่างตรงไปตรงมา อยู่บนข้อเท็จจริง ไม่เอาเกียรติและศักดิ์ศรีมาขาย หรือเสี่ยงคุกเสี่ยงตะราง ส่วนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นหน่วยงานฟอกขาวให้ คสช.และรัฐบาลนั้น หากจะฟอกขาวก็จะฟอกให้โครงการที่ทำถูกต้องเท่านั้น ถ้าไม่ผิด ก็คือไม่ผิด” นายพิศิษฐ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ “ธัญพร มุ่งเจริญพร” เข้าป้าย

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ ลุ้นกันจนนาทีสุดท้าย “ธัญพร มุ่งเจริญพร” พลิกชนะ “พรชัย มุ่งเจริญพร” แชมป์เก่าแบบขาดลอย คว้าเก้าอี้มาครอง นั่งนายก อบจ.หญิงคนแรกของจังหวัด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าคึกคัก

ภาพรวมการใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าค่อนข้างคึกคัก มีประชาชนทยอยใช้สิทธิต่อเนื่อง ยังไม่มีรายงานการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ปชช.ตื่นตัวใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ท่ามกลางสายฝน

ชาวนครศรีธรรมราช ตื่นตัวออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. ท่ามกลางสายฝน กกต.เผยภาพรวมครึ่งวันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่มีรายงานการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ช้างป่ายกโขลงประชิดหมู่บ้าน ไล่ระทึกทั้งคืน

ไล่ระทึกกันทั้งคืน ช้างป่ายกโขลงบุกประชิดหมู่บ้านตลิ่งชัน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ออกหากินผลผลิตทางการเกษตรของชาวบ้าน