ภูมิภาค 20 พ.ค. – เมื่อช่วงค่ำวานนี้ มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ทั้งใน กทม.และปริมณฑล จ.นนทบุรี น้ำท่วมขังถนนแจ้งวัฒนะ ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.เลย หนักสุดในรอบ 15 ปี ระดับน้ำในแม่น้ำเลยเทรงตัว ชาวบ้านเริ่มขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม
หลังฝนตกหนักตั้งแต่เวลา 19.00-20.00 น. ทำให้ถนนแจ้งวัฒนะตั้งแต่ช่วงหัวถนนปากเกร็ด – คลองประปา เกิดน้ำท่วมขังทั้ง 4 ช่องจราจร ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก ระดับน้ำสูงประมาณ 20-30 ซม. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจในช่วงค่ำวานนี้ พบว่าบางช่วงมีน้ำท่วมสูงจนทำให้รถจักรยานยนต์ จอดเสีย โดยเฉพาะหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า ปากเกร็ด หน้าอาคารยุติธรรมซึ่งอยู่ตรงข้ามห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่า แจ้งวัฒนะ และด้านหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล มีระดับน้ำสูงเช่นกัน โดยเฉพาะปากทางเข้าเมืองทองธานีและช่วงขึ้น-ลงทางด่วนแจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นจุดที่จะเกิดน้ำท่วมขังทุกครั้งที่ฝนตกหนักและมีรถยนต์เสียจากน้ำท่วม สำรวจภายในเมืองทอง พบว่าน้ำท่วมขังสูงประมาณ 10-40 ซม. ส่วนด้านถนนติวานนท์ก็มีน้ำท่วมขังสูงเช่นกัน เนื่องจากถนนติวานนท์ฝั่งขาออกมีงานวางท่อระบายน้ำจากห้าแยกปากเกร็ด-แยกสวนสมเด็จพระศรีนคริทร์
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.เลย เมื่อช่วงเวลาประมาณ 18.30 น.วานนี้ (19 พ.ค.) ระดับน้ำในแม่น้ำเลยเริ่มทรงตัว แต่ยังเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เขตเศรษฐกิจ และสถานที่ราชการที่อยู่ริมแม่น้ำเลย ขยายวงกว้าง โดยเฉพาะที่ชุมชนตลาดเมืองใหม่ ชุมชนบ้านติ้วหน้าวิทยาลัยเทคนิคเลย ชุมชนหลังที่ทำการไปรษณีย์ ชุมชนวัดเลยหลง ระดับน้ำสูง 20 เซนติเมตร ถึง 4 เมตร ซึ่งถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 15 ปี อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศขณะนี้ท้องฟ้าเปิดและฝนหยุดตกแล้ว
จากเหตุการณ์น้ำท่วมติดต่อกันเป็นวันที่สองครั้งนี้ ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ไม่มีไฟฟ้าใช้ เนื่องจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจำเป็นต้องตัดไฟเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ขณะที่อาหารและน้ำดื่มเริ่มขาดแคลน
ขณะที่ จ.ชียงใหม่ ระดับน้ำท่วมขังชุมชนศรีปิงเมือง และประตูก้อม เริ่มคลี่คลายกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ตลอดคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่เร่งสูบระบายน้ำที่ท่วมขัง ชุมชนประตูก้อม และชุมชนศรีปิงเมือง ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ทำให้ระดับน้ำที่ท่วมขังสูงกว่า 50 เซนติเมตร และค่อยๆ ลดลงอย่างช้าๆ เมื่อช่วงเวลา 20.00 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา ระดับน้ำบนถนนบางจุดยังสูงประมาณ 30 เซนติเมตร ทำให้รถเล็กยังสัญจรลำบาก ร้านค้าแผงลอยริมถนนต้องหยุดให้บริการ ส่วนบริเวณถนนชุมชนศรีปิงเมือง ยังมีน้ำท่วมขังบนถนน บริเวณข้างกำแพงวัดและบริเวณสามแยกศรีปิงเมือง ท่วมขังสูงประมาณ 20 เซนติเมตร และยังเกิดเป็นหลุมลึกใต้น้ำ มองไม่เห็น ทำให้รถจักรยานยนต์เกิดอุบัติเหตุหลายราย ชาวบ้านต้องนำแผงเหล็กมากั้นเพื่อป้องกันอันตราย เตือนประชาชนที่ใช้เส้นทางที่มีน้ำขัง ให้ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
กรมอุตุฯ ระบุช่วงวันที่ 20- 21 พ.ค. ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง แต่ยังมีฝนตกหนักได้บางพื้นที่ในบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตก และภาคตะวันออก ปริมาณฝนเฉลี่ย ร้อยละ 40 -60 ของพื้นที่ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อนลง คลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 22-25 พ.ค. ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะกำลังแรงขึ้นคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่บริเวณที่ลาดเชิงเขา และพื้นที่ที่ลุ่ม ในบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ที่อาจเกิดน้ำท่วมฉลับพลันน้ำป่าไหลหลากที่จะเกิดขึ้นขึ้นในระยะนี้ ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว. – สำนักข่าวไทย