บุรีรัมย์ 17 พ.ค.-ชาวบ้านใน อ.บ้านด่าน สุดทน นำสวิงมาช้อนจับปลากลางถนนที่ชำรุดเป็นหลุมเป็นบ่อขนาดใหญ่ ประชดหน่วยงานรัฐ หลังต้องทนใช้ถนนสัญจรไปมาอย่างยากลำบากมานานกว่า 10 ปี ขณะผู้บริหารท้องถิ่นยอมรับถนนพังชำรุดจริง เนื่องจากรถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งผ่าน
ชาวบ้าน และผู้สูงอายุ ในพื้นที่บ้านโยนช้า หมู่ 7 ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ พากันนำสวิงมาช้อนจับปลากลางถนนในหมู่บ้าน ที่มีสภาพชำรุดผุพัง เป็นหลุมเป็นบ่อขนาดใหญ่และลึก หน้าฝนมีน้ำขังเกือบตลอดทั้งสายเป็นระยะทางร่วม 3 กิโลเมตร เพื่อประชดหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง หลังต้องทนสัญจรไปมาด้วยความยากลำบาก ชาวบ้านประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บบ่อยครั้ง ได้รับความเดือดร้อนมานานกว่า 10 ปี แต่ไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาเหลียวแลแก้ไข
ชาวบ้านร้องเรียนด้วยว่า ถนนสายนี้ถือเป็นเส้นทางหลัก ที่ใช้สัญจรไปมาหาสู่กันหลายหมู่บ้านทั้งเชื่อมต่อ อ.สตึก และ อ.คูเมือง ด้วย เดิมเป็นถนนลาดยาง แต่หลังจากมีรถบรรทุกดินและรถบรรทุกอ้อยวิ่งผ่านเข้า-ออก ทำให้ถนนชำรุดเสียหาย ผิวถนนหลุดร่อนจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม สร้างความเดือดร้อนกับชาวบ้านและผู้ใช้เส้นทางดังกล่าวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะนักเรียนที่ต้องเดินทางไปโรงเรียน รวมถึงชาวบ้านที่เจ็บป่วยต้องไปหาหมอในตัวอำเภอหรือจังหวัด ก็เดินทางด้วยความลำบาก จึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ดำเนินการซ่อมแซมถนนอย่างเร่งด่วนด้วย
ด้านนายสุชาติ โพธิ์เงิน นายกเทศมนตรีตำบลบ้านด่าน กล่าวว่า สาเหตุที่ถนนสายดังกล่าวชำรุดเสียหายเป็นหลุมเป็นบ่อ เนื่องจากมีรถบรรทุกดินและอ้อยวิ่งผ่านเป็นประจำ ซึ่งทางเทศบาลก็ได้จัดสรรงบประมาณไปดำเนินการซ่อมแซม เพื่อแก้ไขปัญหาในเบื้องต้นเป็นประจำทุกปี เนื่องจากเทศบาลไม่มีงบประมาณเพียงพอที่จะทำถนนลาดยางใหม่ เพราะต้องใช้งบประมาณถึง 10 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ทำเรื่องเสนอของบประมาณไปยัง อบจ. และทางหลวงชนบทแล้ว คาดว่าจะได้รับอนุมัติงบมาดำเนินการซ่อมแซมถนน เพื่อคลายความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในเร็วๆ นี้.-สำนักข่าวไทย