ลำปาง 5 พ.ย. – ชาวนาหลายพื้นที่ประสบปัญหาราคาข้าวตกต่ำ แต่ชาวนาในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ จ. ลำปาง ยังสามารถขายข้าวได้ราคา หลังจากปรับเปลี่ยนมาทำการเกษตรผสมผสานตามแนวทางพระราชดำริ และใช้ชีวิตอย่างพอเพียงตามรอยเท้าพ่อของแผ่นดิน ทำให้พวกเขาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขขึ้น
นาข้าวในหมู่บ้านฮ่องห้า ต.น้ำโจ้ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง กำลังออกรวงสีเหลืองอร่ามเต็มท้องทุ่ง และชาวนาเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตเพื่อส่งโรงสีของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านฮ่องห้า ซึ่งมีเครื่องสีข้าวเล็กๆ ไว้สีข้าวหอมมะลิ ข้าวก่ำพื้นเมือง และข้าวไรซ์เบอร์รี ของสมาชิก 35 คน พร้อมบรรจุถุงสุญญากาศขายได้ในราคากิโลกรัมละ 70-90 บาท เป็นสินค้าขายดีของทางกลุ่ม หลังจากได้รับการส่งเสริมให้ปรับเปลี่ยนจากปลูกข้าวพันธุ์พื้นเมืองมาปลูกข้าวหอมมะลิและข้าวไรซ์เบอร์รีแบบอินทรีย์ คนละ 2 ไร่ ไว้กินไว้ขายก็เพียงพอแล้ว
นอกจากนี้ ชาวบ้านฮ่องห้ายังได้รับการส่งเสริมการทำเกษตรผสมผสานตามแนวพระราชดำริ อย่างพี่จ้อน หมู่แก้ว ประธานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านฮ่องห้า ใช้พื้นที่ 15 ไร่ แบ่งปลูกข้าว 8 ไร่ ที่เหลือขุดสระน้ำเลี้ยงปลา ปลูกมะนาว ไม้ผลและพืชผักอีกหลายชนิด
พี่จ้อน น้อมนำแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาปรับใช้ โดยปลูกพืชผักไม้ผลทุกอย่างที่ต้องกินต้องใช้ มีเหลือก็เก็บไปขาย สร้างรายได้วันละ 200-400 บาท แต่แทบไม่มีค่าใช้จ่าย รวมไปถึงขุดสระเลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ เลี้ยงวัว เป็นรายได้เสริมและยังได้ปุ๋ยคอกมาใส่พืชผักฟรีๆ
รายได้จากพืชผักและมะนาวจึงเป็นเหมือนรายได้ประจำวัน เลี้ยงสัตว์เป็นรายได้เสริม และขายข้าวเป็นรายได้รายปี ด้วยวิธีนี้ทำให้พี่จ้อนและครอบครัวใช้ชีวิตมีความสุขขึ้น และเป็นตัวอย่างให้เพื่อนบ้านอีกหลายรายที่หันมาสนใจทำเกษตรผสมผสานแบบนี้ จนรวมกลุ่มรวบรวมผลผลิตข้าวส่งขาย ทำให้ชาวบ้านที่นี่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอย่างยั่งยืนตามแนวทางที่พ่อของแผ่นดินทรงสอนไว้ให้ลูกหลานไทยทุกคน. – สำนักข่าวไทย