fbpx

พระราชทานแจกันดอกไม้เยี่ยมผู้ประสบเหตุระเบิดบิ๊กซีปัตตานี

ปัตตานี 11 พ.ค.- ผู้ประสบเหตุคาร์บอมบ์บิ๊กซีปัตตานีซาบซึ้งพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใย พระราชทานแจกันดอกไม้เยี่ยม ด้านผู้การปัตตานีสั่งเพิ่มความเข้มเขตเมือง เตรียมออกหมายจับผู้ก่อเหตุเพิ่ม


พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จว.ปัตตานี เปิดเผยถึงเหตุใช้รถยนต์วางระเบิดห้างบิ๊กซี สาขาปัตตานี เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้บาดเจ็บหลายสิบราย และทรัพย์สินเสียหายอย่างมากว่า แนวทางการสืบสวนสอบสวนจนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่พอรู้แล้วว่าผู้ก่อเหตุมีด้วยกัน 3 กลุ่ม กลุ่มละ 6 คน แบ่งกันทำงาน ซึ่งใน 3 กลุ่มนี้ เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับแล้วตามภาพวงจรปิด รวมทั้งการสืบสวนสอบสวนพยานบุคคลและพยานอื่นๆ จึงรู้ตัวผู้ที่ร่วมก่อเหตุแล้ว คือ นายมะกอเซ็ง หม้าแอ้ อายุ 25 ปี เมื่อตรวจสอบข้อมูลพบว่ามีหมายจับ ป.วิอาญา คดีความมั่นคง จำนวน 3 หมาย ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิดในเขต อ.เมืองปัตตานี ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับเพิ่ม พร้อมกันนี้ได้ประเมินสถานการณ์ในเขตเมืองที่จะต้องเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยมากขึ้น โดยจะจัดกำลังดูแลเพิ่มให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น


สำหรับอาการผู้บาดเจ็บขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจำนวน 26 ราย คือ ที่ รพ.ปัตตานี 25 ราย และ รพ.มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หาดใหญ่ 1 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บสาหัส 4 ราย และหนึ่งในนี้มีเด็กหญิงอายุ 5 ขวบ ล่าสุดอาการพ้นขีดอันตรายแล้วทั้ง 4 ราย และเมื่อค่ำวานนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พลอากาศเอกเกษม อยู่สุข เป็นผู้แทนพระองค์นำแจกันดอกไม้และกระเช้าพระราชทานมอบแก่ครอบครัวของผู้บาดเจ็บ ที่โรงพยาบาลปัตตานี พร้อมทั้งได้นำความห่วงใยจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ที่ทรงห่วงใยผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ยังความปลาบปลื้มใจแก่ผู้บาดเจ็บและครอบครัวอย่างหาที่สุดมิได้

ด้านนายอาบูฮาเฟส อัล-ฮากิม แสดงความเห็นในนามมาราปาตานีว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่อาจจะยกโทษให้แก่การละเมิดความปลอดภัยในพื้นที่สาธารณะได้ และขอตำหนิผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ที่กระทำใดด้วยความขลาดอันมีผลโดยตรงต่อการบาดเจ็บของประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงและเด็ก ผู้ก่อเหตุจะต้องถูกนำตัวมาดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม ขอแสดงความเสียใจกับผู้ประสบเหตุ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ

พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนตกหนัก 76 จังหวัด 19-23 ก.ย.

พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” แล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ หัวพายุส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนแล้ว ช่วงระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.67 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 76 จังหวัด