ตำรวจพัทยาเร่งหา3เด็กลูกครึ่งหลังพบเบาะแสอยู่ที่พัทยา

พัทยา 10 พ.ค.-ตำรวจเมืองพัทยาเร่งประสานหาเด็กลูกครึ่ง 3 คน หลังผู้เป็นแม่เข้าแจ้งความก่อนพบว่าพ่อฝรั่งพามาอยู่กับเมียใหม่ที่พัทยา 


จากกรณีมีโลกโซเซียลนำภาพวงจรปิดแห่งหนึ่งที่จับภาพเด็กลูกครึ่งไทย-อเมริกาที่ถูกเมียคนที่ 3 ของพ่อเด็กเอาเด็กมาอยู่ด้วยและไม่ยอมคืนให้กับแม่แท้ๆ ของเด็กทั้ง 3 คน  ส่วนพ่อชาวอเมริกาได้เดินทางทำงานอยู่เวียดนาม  ซึ่งล่าสุดแม่เด็กได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ในวันที่ 7 พ.ค.60 ที่ผ่านมา เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวเด็กทั้ง 3 คน นอกจากนี้ยังพบเบาะแสเกี่ยวกับเด็ก อยู่บริเวณถนนพัทยาสาย 2 ช่วงปากซอย 8 ทางผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่พบกับนางสาวโอปอ อายุ 29 ปี  โดยนางสาวโอปอเล่าว่า เมื่อประมาณ 2 วันก่อน เห็นเด็กทั้ง 3 คนลงรถสองแถวบริเวณที่ตนอยู่  แต่ไม่ได้สนใจแต่เห็นเด็กทั้ง 3 คนหน้าเหมือนลูกครึ่งและส่งเสียงดัง  ซึ่งตนสังเกตุเห็นและพบว่าหน้าคล้ายกับเด็กที่ลงในโลกโซเซียล  แต่ไม่ทราบว่าไปทางไหนโดยมีหญิงสาวไทยคนหนึ่งคอยดูแล


พ.ต.อ.ชัชชพล  ภัทรศิริพร ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา ระบุเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนถึงสาเหตุที่ไปที่มา  โดยทราบเรื่องว่า Mr.David สัญชาติอเมริกัน  เป็นพ่อของเด็กทั้ง 3 คน  โดยมีภรรยาเป็นชาวไทย 2 คน ซึ่งแม่เด็กเป็นคนจังหวัดพะเยาและศรีษะเกษ ซึ่งเมื่อต้นเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา พ่อเด็กได้ขึ้นไปรับเด็กทั้ง 3 คนจากยายที่บ้านในจังหวัดพะเยา  และจังหวัดศรีสะเกษ โดยรับมาอยู่ที่พัทยา พักอาศัยที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านพัทยาใต้ 

จากข้อมูลของ Mr.David พ่อเด็กทั้ง 3 คน  คบหากับหญิงไทยคนแรกคือนางบุษรา อายุ 32 ปี อาศัยอยู่จังหวัดพะเยา  โดยมีลูกด้วยกัน 1 คนชื่อ ด.ช. โรเบิตร์กาย และต่อมา Mr.David  Tomberlin มีผู้หญิงอีกคนชื่อ น.ส.อุไรวรรณ อายุ 29 ปี อยู่จังหวัดศรีสะเกษ และมีลูกด้วยกันอีก 2 คน คือ ด.ญ.คริสติน และ เอมิลี่ โดยผู้เป็นพ่อ ได้เดินทางไปรับมาอยู่ที่เมืองพัทยากับ น.ส.เกสรี อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นเมียคนที่ 3 ซึ่งคอยดูแลเด็กทั้ง 3 คน หลังจากนั้น Mr.David  Tomberlin  ได้เดินทางไปทำงานที่เวียดนาม นางบุษราและ น.ส.อุไรวรรณ  ทราบข่าวและได้พยายามจะติดต่อทาง น.ส.เกสรี  เพื่อจะขอรับลูกกับไปดูแลเอง  แต่ น.ส.เกสรี ได้พาเด็กทั้ง 3 คนหลบหนีไป ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ชุดสืบสวนออกติดตามตัว น.ส.เกสรี และเด็กทั้ง 3 คนแล้ว แต่ยังไม่เจอตัว ส่วนที่คอนโดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไปตรวจสอบและเฝ้าแต่ไม่พบตัว น.ส.เกสรี.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ประกาศเลิกคบ “ฮุน เซน”

พญาไท 9 ก.ค. – “ทักษิณ” ประกาศเลิกคบ “ฮุน เซน” ยอมรับช็อกลูกสาวถูกปล่อยคลิป ชี้ไม่มีการรบ เผยผลประโยชน์สีเทาจุดแตกหัก “ฮุน เซน” เชื่อปมชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ถึงขั้นสงคราม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในงาน “55 ปี NATION : ผ่าทางตันประเทศไทย” Chapter 3 บก. ถาม “ทักษิณ ชินวัตร” ณ ห้องพญาไท 4 ชั้น 6 โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท ดำเนินรายการโดย 3 บก. บรรณาธิการอำนวยการเครือเนชั่นระบุจุดเริ่มต้นของรอยร้าวที่ปะทุขึ้นสู่สาธารณะมาจากการปล่อยคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีแพทองธาร และฮุน เซน โดย ดร.ทักษิณ เล่าย้อนถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า เดิมทีมีการนัดหมายให้นายกฯ แพทองธาร สนทนากับฮุน เซน ผ่านการประสานงานของ “พี่ฮวด” โดยมีรัฐมนตรีคนสำคัญร่วมรับฟังด้วย ทั้งนายภูมิธรรม […]

ทบ.แจงปมทหารไทย-กัมพูชา ปะทะคารมที่ช่องอานม้า

9 ก.ค.- โฆษกกองทัพบก แจงทหารไทย-กัมพูชา ปะทะคารมที่ช่องอานม้า ปมทหารเขมรอยากรู้อยากเห็น ขยับเข้าใกล้พื้นที่ไทยเกินขอบเขตที่กำหนด จากกรณีเฟซบุ๊กเพจ “Army Military Force” โพสต์คลิปภาพทหารเขมรปะทะคารมกับทหารพรานของไทย ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 9 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ก.ค.68 เวลา 09.00 น. โดยสื่อของฝ่ายกัมพูชาได้นำเสนอคลิปวิดีโอการโต้เถียงระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารไทยและทหารกัมพูชา จากการตรวจสอบของหน่วยที่เกี่ยวข้องพบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นบริเวณช่องอานม้า ต.โซง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกองร้อยทหารพราน 2310 โดยกำลังพลประมาณ 7 นาย ได้จัดเตรียมสถานที่ เพื่อรองรับกิจกรรมภายในของหน่วย และกิจกรรมการตรวจเยี่ยมของผู้บังคับบัญชา คาดว่าฝ่ายกัมพูชาเห็นว่าฝ่ายทหารไทยมีการปฏิบัติต่างไปจากวันปกติทั่วไป จึงอยากเข้ามาสังเกตการณ์ใกล้ๆ แต่เมื่อเข้าใกล้พื้นที่มากกว่าขอบเขตที่กำหนด ทหารไทยจึงแสดงตนเข้าชี้แจง และขอให้อยู่ในระยะที่เหมาะสม เป็นเหตุให้เกิดการโต้เถียงกันด้วยวาจาตามที่ปรากฏข่าว แต่ทั้งสองฝ่ายได้มีการอธิบายทำความเข้าใจกันจนเป็นที่เข้าใจทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ บริเวณที่ฝ่ายไทยจัดกิจกรรมมิได้เป็นการรุกล้ำเข้าไปในเขตกัมพูชาตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นิมนต์เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย ลาสิกขา เซ่นคลิปลับ

กรุงเทพฯ 9 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” นิมนต์เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย ลาสิกขา เซ่นคลิปลับ ขณะที่ ผช.เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ไปขอสึกที่วัดดังเชียงใหม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., นายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ที่ส่งเจ้าหน้าที่ติดตามตัวเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี พระชั้นผู้ใหญ่อีกรูปหนึ่งที่ปรากฏอยู่ในหลักฐานคลิปวิดีโอร่วมหลับนอนกับสีกา ก. เช่นเดียวกัน เพื่อตามตัวมาพูดคุยเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากกรณีดังกล่าว ภายหลังทราบว่าเจ้าตัวกำลังเดินทางออกจากวัดมาที่หน้าวัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ เพื่อมาซื้อจีวรผืนใหม่ จึงนำกำลังไปดักนิมนต์ได้ที่แยกไฟแดงพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ก่อนเจรจาพร้อมนำหลักฐานคลิปและภาพออกมาแสดงให้เจ้าตัวรับทราบ จนทำให้จำนนต่อหลักฐาน ยอมตัดสินใจลาสิกขา เพื่อรับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนิมนต์เดินทางต่อมายังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เพื่อกล่าวคำลาสิกขา ต่อหน้าองค์พระประทานในพระอุโบสถวัดไตรมิตร ขณะเดียวกันในส่วนของการติดตามหาตัวผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เบื้องต้นทราบว่าติดตามเจอตัวที่วัดพระธาตุสุนันทา ต.แม่หอพระ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจา แสดงหลักฐานให้เจ้าตัวได้รับทราบ เพื่อให้แสดงความรับผิดชอบด้วยการยอมสึกขาดจากความเป็นพระด้วย […]

Thai police at the house of Kok An’s daughter in Bangkok

กัมพูชายืนยัน “ก๊ก อาน” ไม่เกี่ยวแก๊งฉ้อโกง

พนมเปญ 9 ก.ค. – ทางการกัมพูชาปฏิเสธว่า นายก๊ก อาน คนสนิทของนายฮุน เซน ไม่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และกาสิโน ขณะที่นายฮุน เซน ท้าให้ทางการไทยสอบสวน “ทักษิณ” ด้วย เพราะมีความใกล้ชิดกับเขาเช่นกัน เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ ไทม์ส ของกัมพูชา รายงานว่า หน่วยงานตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพล ในกัมพูชา ยืนยันว่า ทั้งอินเตอร์โพลและทางการกัมพูชาไม่ได้รับการแจ้งจากทางการไทยเกี่ยวกับการออกหมายจับนายก๊ก อาน สมาชิกวุฒิสภา หรือ สว.กัมพูชา ซึ่งเป็นคนสนิทของนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โดยไทยระบุว่า นายก๊ก อาน เป็นผู้ต้องสงสัยพัวพันกับแก๊งฉ้อโกงออนไลน์ที่ปฏิบัติการอยู่ในอาคารที่นายก๊ก อาน เป็นเจ้าของในเมืองปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจย พ.ต.อ.ตู๊ด โบรา รองผู้บัญชาการอินเตอร์โพลกัมพูชา กล่าวว่า นับตั้งแต่มีรายงานของสื่อไทยเรื่องศาลไทยออกหมายจับนายก๊ก อาน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหนังสือขอความร่วมมือจากทางการไทย ทั้งที่ตามปกติแล้วเมื่อประเทศใดในภูมิภาคมีข้อมูลเกี่ยวกับอาชญากรที่หลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศอื่น หน่วยงานตำรวจสากลในประเทศนั้นจะต้องส่งหนังสือแจ้งไปยังทางการอีกประเทศหนึ่งเพื่อขอความร่วมมือในการจับกุมผู้ต้องสงสัย ดังนั้น เขาจึงไม่เชื่อรายงานข่าวดังกล่าวของสื่อไทย ด้านนายเจีย ธีริธ โฆษกพรรคประชาชนกัมพูชา ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลกัมพูชา ยืนยันว่า […]