กรุงเทพฯ 5 พ.ย.-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นำอดีต.ส.พรรคเพื่อไทย ขายข้าวสารหอมมะลิ กก.ละ 20 บาท ประชาชนรอต่อแถวแน่น
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยอดีตรัฐมนตรี แกนนำพรรค และ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย อาทิ นายนิวัฒน์ธรรมรงค์ บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ อดีต ส.ส.กทม. นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ อดีต ส.ส.กทม. ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีต ส.ส.ขอนแก่น น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ นำข้าวสารหอมมะลิจากจังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดสุรินทร์ ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับซื้อจากชาวนาเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มาจัดจำหน่ายบริเวณลานจอดรถหน้าศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ ถนนรามอินทรา นอกจากนี้ยังมีข้าวสารที่ชาวนานำมาฝาก อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ร่วมจัดจำหน่ายในครั้งนี้ด้วย โดยวันนี้มีข้าวสารมาจำหน่ายทั้งหมด 10 ตัน ซึ่งจำหน่ายในราคากิโลละ 20 บาท บรรจุถุงละ 5 กิโลกรัม คิดเป็น 100 บาท สำหรับบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักมีประชาชนมาเข้าคิวรอซื้อข้าวจำนวนมาก ก่อนเวลาเริ่มจำหน่าย 16.00น. ซึ่งประชาชนต่อแถวยาวตั้งแต่บริเวณหน้าลานจอดรถไปจนถึงหน้าทางเข้าห้างสรรพสินค้าแฟชั่น ไอส์แลนด์ อย่างไรก็ตามการจำหน่ายข้าวสารครั้งนี้ได้กำหนดให้ประชาชนซื้อได้ไม่เกินคนละ 10กิโลกรัม เพื่อเป็นการกระจายข้าวให้ทั่วถึงมากที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาถึงประชาชนจำนวนมากต่างปรบมือส่งเสียงให้กำลังใจ และรุมล้อมขอถ่ายรูปซื้อข้าวสาร จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาณ์ ถึงการจำหน่ายข้าวสารที่รับซื้อจากชาวนา เพราะต้องการช่วยเหลือเกษตรกรและคลายความเดือดร้อนให้กับชาวนาที่ประสบปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ซึ่งเป็นการช่วยเหลือในฐานะประชาชน โดยไม่มีเจตนาในการสร้างภาพ และขอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ความตั้งใจ ทั้งนี้เห็นว่าไม่ควรตั้งข้อสังเกต หรือ กล่าวหา แต่ขอให้ร่วมมือกันช่วยเหลือชาวนาให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และขอขอบคุณประชาชนที่ให้กำลังใจ และช่วยเหลือชาวนา ซึ่งเป็นการแสดงสัญลักษณ์ของการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ เห็นว่านโยบายในการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาชาวนาของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่แตกต่างกับนโยบายในการแก้ปัญหาของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่มุ่งหวังช่วยเหลือเกษตกรโดยไม่มุ่งหวังผลกำไร ขณะที่การดำเนินการหลังมีหนังสือคำสั่งทางปกครองในการเรียกเก็บค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าว 35,000 ล้านบาทของกระทรวงการคลังนั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทาง หลังจากที่ได้มีการทำหนังสือขอเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวไปแล้วในเบื้องต้น และในขณะนี้กำลังพิจารณาแนวทางดำเนินการว่าจะใช้แนวทางใด ระหว่าง การยื่นอุทธรณ์ การขอทุเลาคำสั่ง หรือการฟ้องศาลปกครอง ซึ่งหากมีความชัดเจนแล้ว จะปิดเผยแนวทางอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย