ปักกิ่ง 12 ธ.ค. – ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม คาด สหรัฐฯ-จีน ต้องมีการเจรจาก่อนดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้า
นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงกรณีที่นายโดนัล ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงท่าทีกดดันและส่งสัญญาณกีดกันทางการค้ากับจีน ด้วยมาตรการภาษี โดยจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าร้อยละ 45 สำหรับกลุ่มสินค้าจากจีนที่นำเข้ามายังสหรัฐฯ ว่า เชื่อว่าจะมีการเจรจาพูดคุยก่อนจะดำเนินการจริง เนื่องจากทั้งสองประเทศอยู่ในฐานะมหาอำนาจเศรษฐกิจโลก ที่สหรัฐฯครองแท่นอันดับหนึ่งและจีนอยู่อันดับสอง พร้อมทั้งมีบทบาทในการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจโลก หากมีการกระทบกระทั่งกันระหว่างทั้งสองประเทศย่อมส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก ประกอบกับจีนเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของสหรัฐฯ และสินค้าจีนที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯมีมูลค่ามหาศาล
ขณะที่มาตรการกีดกันทางการค้า ก็ถือเป็นโอกาสของภูมิภาคอาเซียนที่จีนอาจพิจารณาย้ายฐานการลงทุนมายังภูมิภาคนี้ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ มีประชากรมากกว่า 600 ล้านคน มีทรัพยากรจำนวนมาก ค่าแรงถูก และทำให้สินค้าจีนแข่งขันได้