fbpx

แนะรัฐศึกษาผลดี-ผลเสีย “คลองไทย”

ตรัง  7 พ.ค. – วงเสวนา “คลองไทยหัวใจของชาติ ของประชาชน”  มีความเห็นตรงกันอยากให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการศึกษาฯ  เพื่อไม่ให้ประชาชนและภาคธุรกิจในพื้นที่ภาคใต้เสียโอกาส 



ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสมาคมการค้าและอุตสาหกรรมไทย-จีน จัดเสวนา “คลองไทยหัวใจของชาติ ของประชาชน” จังหวัดตรัง มีประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ที่อาศัยอยู่บริเวณที่คาดว่าคลองจะผ่านเข้าร่วมงานกว่า 300 คน โดยมี พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป เลขาธิการมูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานคณะกรรมการศึกษาโครงการคลองไทย เป็นประธาน พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร สมาชิกสภาเพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)  บนเวทีมีการให้ความรู้ถึงแนวคิดการขุดคลองตามแนวภาคใต้ที่มีมาในอดีตกว่า 300 ปี แต่มีปัญหาการเมืองระหว่างประเทศ ทำให้โครงการไม่สามารถเกิดได้ 


ทั้งนี้ ปัจจุบันเศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัว ประกอบกับการค้าระหว่างประเทศมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จึงเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้และประเทศไทยที่จะขุดคลองย่นระยะการขนส่งสินค้าทางเรือ จากเดิมต้องอ้อมช่องแคบมะละกามาเข้าคลองไทย  ซึ่งไทยจะเก็บค่าธรรมเนียมต่าง ๆ รวมทั้งการหมุนเวียนระบบเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น 2 ฝั่งคลอง รวมกันจะมีมูลค่ามหาศาล อย่างไรก็ตาม งบประมาณการลงทุนโครงการขนาดใหญ่นี้ต้องใช้เงินจำนวนมาก รวมทั้งผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากโครงการดังกล่าว  เวทีเสวนาจึงต้องการให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการศึกษาความเป็นไปได้ โอกาส และอุปสรรคของการขุดคลองไทยเชิงลึกอย่างรวดเร็ว 

พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป  กล่าวว่า หากมีการขุดคลองไทยจริง คิดว่าประเทศไทยจะได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน แม้จะเกิดการแข่งขันสูง เนื่องจากจะเกิดประโยชน์กับประเทศและชาวโลก ส่วนเกณฑ์การวัดความคุ้มค่ากับความคุ้มทุนอยู่ตรงไหน ไม่สามารถตอบได้ ขึ้นอยู่กับคณะทำงานศึกษาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้งความเจริญที่จะต้องแลกกับทรัพยากรธรรมชาติว่าจะคุ้มค่าหรือไม่ เพราะจะต้องศึกษารายละเอียดลึกซึ้งทุกด้าน ทั้งผลกระทบกับวิถีชีวิต สิ่งมีชีวิต สิ่งแวดล้อม รวมถึงกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติที่ทุกคนหวงแหนให้กระทบน้อยที่สุดอย่างไรบ้าง

ส่วนการศึกษาคาดว่าจะต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 ปี ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ผู้นำในคณะศึกษาดังกล่าว ประกอบกับเป็นเรื่องเก่าที่นำมาปัดฝุ่นใหม่ มีการศึกษาไปแล้วหลายยุคหลายสมัย แต่ต้องล้มพับ ปัจจุบันระบบเทคโนโลยีการศึกษาพัฒนา รวมทั้งการขุดต่าง ๆ มีการพัฒนาไปเร็วมาก ดังนั้น ถ้ามีการหยิบเรื่องนี้มาศึกษาอย่างจริงจังและวางแผนรองรับจะเกิดประโยชน์กับประเทศไทยและชาวโลก ส่วนขั้นตอน คือ นำข้อมูลความรู้มาให้ประชาชนว่าสิ่งนี้ดีหรือไม่ดี แต่เป็นความรู้ในกรอบกว้าง ๆ นั้นเท่านั้น ไม่ใช่เชิงลึก หากประชาชนในพื้นที่เห็นว่าดีก็จะเป็นแรงสนับสนุนสะท้อนความต้องการ  ขณะเดียวกันภาควิชาการก็จะต้องศึกษา หากเห็นว่าเป็นโครงการที่มีหลักการและเหตุผลดี ก็สามารถจัดประชุมสัมมนาหรือเสวนา เพื่อให้มีความผสมผสานและมีน้ำหนักเพียงพอที่จะเสนอรัฐบาลและคณะรัฐมนตรีให้ทำการศึกษาต่อไป อย่างไรก็ตาม  คณะทำงานฯ ที่จะแต่งตั้งในยุค คสช. หากมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลเชื่อว่าจะยังได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลชุดต่อไป              


ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าการขุดคลองไทยเป็นการแบ่งแยกแผ่นดินอาจจะเป็นช่องทางทำให้ผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นำไปหาประโยชน์กับกลุ่มที่สนับสนุน หรือเข้าทางกลุ่มก่อความไม่สงบนั้น พล.อ.พงษ์เทพ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้มองว่าเป็นความแตกแยก แต่จะเป็นการรวม 2 ทะเลของภาคใต้ระหว่างอ่าวไทย – อันดามันเข้าด้วยกันและเป็นการสร้างความเจริญและความผกผันในพื้นที่ ในด้านการสร้างงาน สร้างโอกาส แต่จะต้องมีการจัดทำแผนรองรับอย่างละเอียดรอบคอบ

สำหรับคลองไทย หรือที่เคยรู้จักกันชื่อ “คอคอดกระ หรือ คลองกะ” เปลี่ยนเส้นทางจากเดิมแนว 5 A มาเป็นบริเวณแนว 9 A เริ่มต้นจากตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง จนถึงฝั่งอ่าวไทย อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา มีความยาวทั้งสิ้น 135 กิโลเมตร ลึก 25 เมตร และความกว้างคลอง 400 เมตร และภายหลังรัฐบาลมีแนวคิดที่จะก่อสร้างโครงการดังกล่าว แต่ต้องเกิดจากความต้องการของประชาชน ซึ่งโครงการจะขุดผ่าน 5 จังหวัด ประกอบด้วย กระบี่ ตรัง นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 1,680,000 ล้านบาท ระยะทางยาว 140 กม. กว้าง 300 – 400 เมตร ลึก 30 เมตร ลักษณะเป็นคลอง 2 คลองคู่ขนานไปและกลับ มีการสร้างสะพานแขวน สะพานโค้ง และสะพานเชื่อม 2 ฝั่งคลอง ทั้งทางบกและทางรถไฟ โดยคาดว่าจะทำรายได้ 120,000 ล้านบาทต่อปี ระยะเวลาก่อสร้าง 6 ปี ใช้เวลา 14 ปีคืนทุน ลดเส้นทางเดินเรือ 700 กม. เพราะช่องแคบมะละกามีปัญหา มีความแออัดมากขึ้น การจราจรทางเรือหนาแน่น 80,000 ลำต่อปี จึงมีแนวคิดก่อสร้างโครงการดังกล่าวขึ้น หวังให้เป็นเส้นทางขนส่งสินค้าทางทะเลเพิ่มขึ้นอีกแห่งหนึ่งในภูมิภาค.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553