ก.แรงงาน เอาผิดอาญานายจ้าง เครนหล่นทับคนงานเสียชีวิต

ดินแดง 5 พ.ค.-กระทรวงแรงงาน แจ้งความเอาผิดทางอาญา นายจ้างก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง 3 ข้อหา โทษจำคุกรวมไม่เกิน 3 ปี 


นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดีกับนายจ้าง กรณีชิ้นส่วนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงหล่นเป็นเหตุให้คนงานเสียชีวิต 3 รายว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา พนักงานตรวจความปลอดภัย ได้สอบข้อเท็จจริงผู้แทนนายจ้างและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องแล้ว พบนายจ้างปฏิบัติไม่ถูกต้องตาม พ.ร.บ.ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน 2554 ใน  3  ประเด็น คือ 1.ปล่อยให้ลูกจ้าง ที่เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ทำงานบนโครงเหล็กชุดรับน้ำหนักด้านหน้า (FRONT SUPPORT) ซึ่งเป็นอุปกรณ์เครื่องจักรกลที่เคลื่อนที่ ซึ่งกฎหมายความปลอดภัยฯดังกล่าว กำหนดให้นายจ้างมีหน้าที่ควบคุมดูแลมิให้ผู้ใดเกาะ ยืน หรือโดยสาร ไปกับเครื่องจักรดังกล่าว, 2.นายจ้างไม่ได้จัดลูกจ้างที่ทำงานกับปั้นจั่น(TRUSS) ได้รับการอบรมตามที่กฎหมายกำหนด และ3.นายจ้างไม่ได้แต่งตั้งและขึ้นทะเบียนเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย ในการทำงานให้ครบถ้วนถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด  


อธิบดีกรมสวัสดิการฯ กล่าวต่อไปว่า วันนี้ (5 พ.ค.)พนักงานตรวจความปลอดภัย จึงแจ้งความเอาผิดกับบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะนายจ้าง ต่อพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ใน 3 ข้อหาข้างต้น ซึ่งแต่ละข้อหามีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 แสนบาท และเนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทดังกล่าว เคยเกิดข้อผิดพลาดลักษณะดังกล่าวมาแล้ว 5 ครั้ง ซึ่งกระทรวงแรงงานได้เปรียบเทียบปรับกว่า 1,355,000 ล้านบาท ครั้งนี้จึงไม่เปรียบเทียบปรับเช่นที่ผ่านมา  แต่จะเอาผิดทางอาญาสถานเดียว พร้อมมีคำสั่งให้นายจ้างตรวจสอบและแก้ไขเครื่องจักรมีความปลอดภัยต่อการปฏิบัติงานภายใน 30 วันด้วย


สำหรับสถิติการประสบอันตรายจากการทำงานของลูกจ้างกรณีร้ายแรง (เสียชีวิต ทุพพลภาพ สูญเสียอวัยวะบางส่วน และหยุดงานเกินสามวัน) ลดลงต่อเนื่อง โดยปี55 ประสบอันตรายเท่ากับ 4.52 ต่อ 1 พันราย, และเหลือ 3.15 ในปี 2559  ขณะที่ปีนี้ ช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา  พบการประสบอันตราย จากการทำงานกรณีร้ายแรงลดลงร้อยละ 7.56  ซึ่งเกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ คือ   ร้อยละ 5 ต่อปี .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก