กทม.2 พ.ค.- โฆษกศาลฯแจงคดี“ตายายเก็บเห็ด”ที่กาฬสินธุ์ หลังศาลฎีกาลดโทษจำคุกเหลือ 5 ปี
นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม ชี้แจงคดีอัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ ยื่นฟ้องนายอุดม ศิริสอน และนางแดง ศิริสอน ร่วมกันบุกรุกเข้าไปยึดถือ ครอบครองและทำประโยชน์โดยการทำไม้ในป่าดงระแนง ตำบลคลองขาม อำเภอยางตลาด ซึ่งอยู่ในแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติ และใช้อุปกรณ์เครื่องมือ ตัดและโค่นไม้สักไม้กระยาเลยที่เป็นไม้หวงห้ามประเภท ก ออกจากต้นจำนวน 700 ต้นในเขตดังกล่าว โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และมิได้รับสัมปทานหรือได้รับยกเว้นใดๆตามกฎหมาย รวมทั้งร่วมกันมีไม้สัก และไม้กระยาเลยที่ยังไม่ได้แปรรูป จำนวน 1,148 ท่อน โดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขาย ไว้ในครอบครอง และไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย เหตุเกิดวันที่ 12 กรกฎาคม 2553 จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ กระทั่งวันนี้(2 พ.ค.) ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ซึ่งมีคำพิพากษาแก้ให้จำคุกคนละ 4 ปี ฐานร่วมกันทำไม้สักซึ่งเป็นไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต และจำคุกคนละ 6 ปี ฐานร่วมกันมีไม้สักซึ่งเป็นไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครอง เมื่อลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้ว คงลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 5 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4
คดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อ 26 กันยายน 2554 จำคุกคนละ 30 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้เหลือจำคุกคนละ 15 ปี ต่อมาจำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น เมื่อ 25 เมษายน 2555 เป็น จำคุกคนละ 11 ปี และฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้อันยังไม่ได้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกคนละ 19 ปี ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้ว ฐานร่วมกันทำไม้ คงจำคุกคนละ 5 ปี 6 เดือน ฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต คงจำคุกคนละ 9 ปี 6 เดือน รวมจำคุกคนละ 14 ปี 12 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา มีประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 106/2557 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ แต่กฎหมายที่แก้ไขใหม่ไม่เป็นคุณแก่จำเลยทั้งสอง จึงใช้กฎหมายเดิม ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำความผิดบังคับแก่จำเลยทั้งสอง.-สำนักข่าวไทย