วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยลงพื้นที่ตรวจสอบคานเหล็กก่อสร้างรถไฟฟ้าล้มทับคนงาน

กรุงเทพฯ 29 เม.ย.-เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา เกิดเหตุเครื่องจักรก่อสร้างรถไฟฟ้าหล่นลงมาทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน ภายในพื้นที่ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ถนนกำแพงเพชร 6 เขตพื้นที่สน.ดอนเมือง ทราบชื่อ นายไมตรี สุภาศิริวัฒน์ นายสงัด เทศสินทัศน์ นายสันติพงษ์ แซ่ว่าง ซึ่งเป็นคนงานของคนงานของบริษัทอิตาเลี่ยนไทย


      

จากการสอบถามนายบุญสืบ พานคำ วิศวกรคุมงาน เปิดเผยว่าขณะเกิดเหตุตัว support (ตัวสีส้มยึดหัวเสาให้แน่น) ที่วางอยู่บนหัวเสาเกิดล้มลงมา ขณะเลื่อนตัว truss (ตัวสไลด์ไปอีกเสานึง) ผ่านตัว support ไป 5 เมตร ตัว support ก็ล่วงลงมาทำให้คนงานขณะปฏิบัติหน้าที่ร่วงลงมาพร้อมกับคนงานเสียชีวิตทันที 3 ราย


        

ด้านพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมผู้อำนวยการเขตดอนเมือง ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อสอบปากคำด้วยตนเอง เบื้องต้นจากการสอบถามวิศวกรคุมงานเล่าว่า ต้องหาสาเหตุว่าตัวล็อกของ support ที่ยึดอยู่บริเวณเสารถไฟฟ้าหลุดออกมาได้อย่างไร เบื้องต้นต้องรอให้ผู้เชี่ยวชาญวิศวกรรมสถานเข้าตรวจสอบ และสอบสวนพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ หากพบว่ามีความประมาทจริงจะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งบริษัทรับเหมาผู้รับเหมาวิศวะกรคุมงาน ญาติผู้เสียชีวิตเล่าว่า เพิ่งทราบว่าหลานเสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว เพราะมาทำงานที่ไซต์งานนี้โดยไม่บอกก่อน เสียใจมากเหตุการณ์แบบนี้ไม่น่าเกิดขึ้นเลย 

     


และล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. ทางวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยจะลงพื้นที่ตรวจสอบ นำโดยนายธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย หรือวสท. ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเหล็กทีพีบาร์ หรือเหล็กที่ใช้ยึดเสาตอม่อคอนกรีตกับฐานเหล็กที่ใช้ในการทำงาน ถูกดึงด้วยความแรงจนขาดออกจากกันในลักษณะตัดขวาง ซึ่งจะนำชิ้นส่วนเหล็กที่เหลืออยู่ เข้าห้องแล็ปทำการทดลอง เพื่อหาสาเหตุที่ทำให้เหล็กขาด คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 เดือน สำหรับงานก่อสร้างส่วนอื่นๆยังไม่พบความบกพร่องใดๆ และยังสามารถเดินหน้าทำงานต่อไปได้     

ขณะที่เมื่อคืนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ดอนเมือง สอบปากคำ วิศวกร ผู้ควบคุมเครื่องจักรและคนงานที่อยู่ในเหตุการณ์ 10 กว่าคน เบื้องต้นวิศวกรยืนยัน ทำงานตามหลักและขั้นตอนปกติ 

ด้านนายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกล่าวว่า หากพบว่าการเสียชีวิตของแรงงานครั้งนี้ เกิดจากความประมาท จะดำเนินคดีทางอาญากับทางบริษัทผู้รับเหมา ตามพ.ร.บ.ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน 2554 เนื่องจากเหตุการลักษณะนี้ไม่ได้เกิดเป็นครั้งแรก มีแรงงานเสียมากกว่า 3 ราย ในส่วนการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นเป็นเงินจากประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ