พาณิชย์มั่นใจสหรัฐไม่ใช้ประเด็นลิขสิทธิ์กดดันไทย

นนทบุรี 26 เม.ย. – อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญามั่นใจแนวทางแก้ไขละเมิดลิขสิทธิ์ดีต่อเนื่อง เชื่อไม่เป็นประเด็นหลักคำสั่งพิเศษทรัมป์กีดกันทางการค้าต่อประเทศเกินดุล ย้ำเอกสารของเอกชนสหรัฐปลื้มการแก้ไขปัญหาและยกให้ไทยน่าจะอยู่ในบัญชีจับตามองแทนระดับจับตามองเป็นพิเศษ


นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า ในกรณีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดรับฟังข้อคิดเห็นเพื่อจัดทำรายงานศึกษาวิเคราะห์การขาดดุลการค้าของสหรัฐภายใน 90 วัน ตามคำสั่งพิเศษประธานาธิบดีสหรัฐฯ (Executive Order) แก่ 13 ประเทศที่ได้ดุลการค้าในปี 2559 รวมถึงไทย โดยในส่วนของประเด็นความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่อาจเข้ามาเป็นเรื่องสำคัญที่สหรัฐจับตามอง ในส่วนของกรมฯ ขอเน้นย้ำว่าได้ดำเนินการแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่องและมั่นใจว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่เป็นประเด็นหลักของการพิจารณาสาเหตุขาดดุลการค้า

นายทศพล กล่าวว่า ที่ผ่านมากรมฯ ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์ ตรวจจับอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งแก้กฎหมายใหม่ ด้วยการเชิญเจ้าของสิทธิ์ทั้งในไทยและต่างประเทศมาหารือ โดยขณะนี้แก้กฎหมายในส่วนของการละเมิดทางอินเทอร์เน็ตเพิ่ม เช่น เจ้าของสิทธิ์สามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้มากถึง 2 เท่า และยังมีการเร่งจดทะเบียนให้เร็วขึ้น การจัดทำกฎหมายคอมพิวเตอร์เป็นมาตรการใหม่เข้มงวดเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ แต่ต้องเน้นย้ำว่ามาตรการใหม่จำเป็นต้องใช้เวลาดำเนินการให้เห็นผลเจ้าของสิทธิ์ต้องเข้าใจมาตรการและใช้ให้มากขึ้น


ทั้งนี้ กรมฯ ยังเห็นสัญญาณความเชื่อมั่นในการแก้ไขปัญหาละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาจากภาคเอกชนของสหรัฐอย่างกลุ่มพันธมิตรธุรกิจซอฟต์แวร์ (BSA) และสมาคมผู้สร้างภาพยนตร์แห่งสหรัฐอเมริกา (MPA) ที่เห็นความคืบหน้าของการแก้ไขปัญหาและปรับระดับบัญชีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของไทย จากเดิมเป็นประเทศที่อยู่ในบัญชีจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) เป็นประเทศที่อยู่ในบัญชีจับตามอง (WL) อีกทั้งในการประชุมคณะมนตรีภายใต้กรอบความตกลงการค้าและการลงทุนไทย-สหรัฐฯ (Trade and Investment Framework Agreement Joint Council: TIFA JC) เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมาการรายงานความคืบหน้าแก้ไขปัญหาดังกล่าวแก่ตัวแทนฝ่ายสหรัฐยังมีบรรยากาศเป็นในทิศทางที่ดี

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ารายละเอียดของการพิจารณาตามคำสั่งพิเศษของประธานาธิบดีสหรัฐระบุถึงประเด็นการแก้ไขปัญหาละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาไว้ด้วย แต่จากการดำเนินงานแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะมาตรการและข้อกฎหมาย ทำให้มั่นใจว่าประเด็นดังกล่าวจะไม่ถูกหยิบยกมาเป็นเรื่องใหญ่ของการพิจารณาประกอบสาเหตุการขาดดุลการค้า อีกทั้งตอนนี้ยังเห็นสัญญาณบวกที่ได้จากภาคเอกชน ทำให้มั่นใจว่าไทยเดินมาถูกทางแล้ว เพียงแต่ต้องใช้เวลาที่จะทำให้มาตรการนั้นเห็นผลทางปฎิบัติได้ต่อไป. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

ชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ ปะทะเดือดใกล้จุดแตกหัก

ทหารกะเหรี่ยงใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 800 เมตร โรงเรียนในฝั่งไทย ซึ่งอยู่ติดแนวปะทะ หยุดการเรียนการสอน 1 วัน ขณะที่มีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 400 คน

ทร.จับเรือประมงเมียนมารุกล้ำน่านน้ำไทย

ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือระนอง จับกุมเรือประมงสัญชาติเมียนมา พร้อมลูกเรือและกัปตันเรือ 6 คน ขณะรุกล้ำน่านน้ำไทย บริเวณน่านน้ำเกาะช้าง จ.ระนอง ก่อนควบคุมเรือลำดังกล่าวมาตรวจสอบที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง

แจ้งความเอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ลุยเอง ยื่นหลักฐานให้ตำรวจ ปปป. เอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก ระบุทำกันมานานเกือบ 10 ปี พบทั้งข้าราชการ-อดีตข้าราชการ เอี่ยวประมาณ 20 คน

รู้เบาะแสคนร้ายชิงทอง 102 บาท คาดเป็นคนในพื้นที่

ตำรวจรู้เบาะแสคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง 102 บาท ภายในห้างดังกลางเมืองแม่สอด คาดยังหลบอยู่ในพื้นที่ สั่งคุมเข้มแนวชายแดน ป้องกันคนร้ายหลบหนี พร้อมยกระดับมาตรการดูแลร้านทอง-ห้างสรรพสินค้า ป้องกันเหตุซ้ำรอย