สปท. ลงมติว่ากล่าวตักเตือน อนุสร ทำร้ายร่างกายพนักงานร้านอาหาร

รัฐสภา 24 เม.ย.- สปท. ลงมติว่ากล่าวตักเตือน อนุสร จิรพงศ์ ทำร้ายร่างกายพนักงานร้านอาหาร หลังประชุมลับกว่า 3 ชั่วโมง  แต่ไม่เปิดคะแนน  และยังบอกรูปแบบการตักเตือนไม่ได้  อ้างเป็นครั้งแรก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (24 เม.ย.) ที่ประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ได้ประชุมลับของ สปท. กว่า 3 ชั่วโมง วันนี้ (24 เม.ย.)  พิจารณารายงานผลการพิจารณาของคณะกรรมการจริยธรรมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เรื่องนายอนุสร จิรพงศ์ สมาชิก สปท. อาจมีพฤติกรรมฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติและกรรมาธิการ พ.ศ. 2558 ประกอบข้อบังคับ สปท. พ.ศ.2558 กรณีมีการนำเสนอข่าวนายอนุสร ทำร้ายร่างกายนายชาตอลงกรณ์ นิลยาน บริกรร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งได้ไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับนายอนุสร และนายอนุสรรับสารภาพในความผิดฐานทำร้ายผู้อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ รวมทั้ง ยินยอมให้ปรับ 10,000 บาท 

นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ    แถลงภายหลังการประชุมลับว่า  ที่ประชุม สปท. มีติว่าการกระทำของนายอนุสร ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมฯ ประกอบข้อบังคับ สปท. ข้อ 102  โดยเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างไม่ร้ายแรง และมีมติให้ว่ากล่าวตักเตือน โดยไม่ต้องส่งให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเพราะไม่ใช่การฝ่ายฝืนความผิดจริยธรรมขั้นร้ายแรง


“กรณีนี้เป็นครั้งแรกของสภาไทย จึงไม่มีรูปแบบปฏิบัติการกล่าวตักเตือน มาก่อน   ประธาน สปท.และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการ เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับการประชุม  ยืนยัน สปท. ดำเนินการพิจารณาทุกอย่างเป็นไปตามตัวบทกฎหมาย แต่ไม่สามารถเปิดเผยผลคะแนนได้ และไม่ใช่ว่า สปท.จะไปดำเนินการในลักษณะเช่นนี้กับใครก็ได้” นายคำนูณ กล่าว 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามข้อบังคับการประชุม ข้อ 33 ววรค 1 ระบุว่าในกรณีที่สภาเห็นว่ามีหลักฐานและข้อเท็จจริงอันควรเชื่อได้ว่า สมาชิกหรือกรรมาธิการ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ ให้สภามีมติว่ากล่าวตักเตือน หรือ ตําหนิ หรือประณามให้เป็นที่ประจักษ์  

ส่วนในวรรค 2 ระบุว่า ในกรณีที่สภามีมติว่าเป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับอันเกี่ยวกับมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ให้สภาดําเนินการตามวรรคหนึ่ง และให้ประธานสภาส่งเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาดําเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป และแจ้งให้ที่ประชุมสภาทราบ


ขณะที่ วรรค 3 ระบุว่า มติของสภาตามวรรคหนึ่ง ให้ถือเอาคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ เว้นแต่มติของสภาตามวรรคสอง ให้ถือเอาคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 5  ของจํานวน สมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่        .- สำนักข่าวไทย        

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระเบิดรถครู ตชด.

ทราบกลุ่มคนร้ายก่อเหตุระเบิดรถครู ตชด.สองพ่อลูก

ทราบคนร้ายก่อเหตุระเบิดรถครู ตชด.สองพ่อลูก จ.นราธิวาส แล้ว วันก่อเหตุมีแนวร่วมปฏิบัติการประมาณ 6 คน กลุ่มเป้าหมายคือเจ้าหน้าที่รัฐ

นายกฯ ลงพื้นที่ยะลา พบนักเรียน-ผู้นำศาสนา ปลื้มต้อนรับอบอุ่น

นายกฯ ขึ้น ฮ. ลงยะลา ทักทายเป็นภาษามลายู พบนักเรียน-ผู้นำศาสนา ท่ามกลางฝนตกโปรยปราย ปลื้มต้อนรับอบอุ่น บอกมีตรงไหนเดือดร้อน รัฐบาลพร้อมสนับสนุน ลั่นอยู่ศาสนาใด-เชื้อชาติใด คนไทยด้วยกัน ขอรักสามัคคีกัน

ข่าวแนะนำ

สถานบันเทิงครบวงจร

“จิรายุ” ย้ำจำเป็นต้องทำ “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”

“จิรายุ” กางไทม์ไลน์ร่างกฎหมาย Entertainment Complex ถ้าใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน ย้ำจำเป็นต้องทำ เพื่อควบคุมธุรกิจใต้ดิน​ ค้ามนุษย์ ไม่ให้เงินทองไหลออกนอกประเทศ ประเมินนักท่องเที่ยวปีนี้อาจแตะ 38 ล้านคน หลังลดลงช่วงโควิด

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็นถึงหนาว

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นถึงหนาว ส่วนตะวันออก และใต้ตอนบน รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนฟ้าคะนอง อ่าวไทยตอนล่าง คลื่นสูง 2-3 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ระทึก! ฝรั่งคลั่งจี้ภรรยา สกัดจับได้แล้ว

ระทึกกลางถนน พลเมืองดีพบเหตุชายต่างชาติคลั่ง ใช้ปืนจี้ภรรยาคนไทย ขับรถจาก อ.หลังสวน มุ่งหน้าไปทางชุมพร ในรถมีเด็ก 2 คน ล่าสุดเจ้าหน้าที่สกัดจับได้แล้ว

นายกฯ คิกออฟ “บ้านเพื่อคนไทย” ให้ประชาชนเข้าชมบ้าน-ห้องตัวอย่าง

นายกฯ คิกออฟ เปิดโครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” ให้ประชาชนเข้าชมบ้าน-ห้องตัวอย่าง และจองสิทธิ์ หวังยกระดับคุณภาพชีวิต มีบ้านใกล้ที่ทำงาน ลดความเหนื่อยล้า มีแรงช่วยพัฒนาประเทศ เผยหลังเปิดจองพบประชาชนกว่า 12 ล้านคน เข้าจองสิทธิ์ในเว็บไซต์จนเว็บล่ม ขณะที่ชาวบ้านมารอเข้าคิวที่สถานีกลางบางซื่อ คึกคักตั้งแต่ตี 5