กรุงเทพฯ 24 เ ม.ย.- ปส.แถลงจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญพร้อมของกลางกว่า 1 ล้าน 7 แสนเม็ด ผู้ต้องหา 5 คน 1 ในนั้นเป็นลูกชายตำรวจ ปคบ.เร่งสอบสวนเชื่อมโยงพ่อหรือไม่
โดยคดีแรกตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 ร่วมกับตำรวจกองปราบปราม และตำรวจสืบสวนนครบาล 7 จับกุมได้เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา ภายในห้องพักคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในซอยรามอินทรา 3 ยึดยาบ้าได้ 112,837 เม็ด หลังสืบทราบว่าห้องพักในคอนโดมิเนียมมีการนำยาบ้ามาซุกซ่อนจึงขอหมายศาลเข้าตรวจค้น พบยาบ้าซุกซ่อน ในกระเป๋าเดินทาง ตรวจสอบพบเจ้าของห้องพัก คือนายศุภเดช ยิ่งยวด เป็นบุตรชายของตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือปคบ. ที่มีพฤติกรรมจำหน่ายยาเสพติดมากว่า 1 ปี
พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า กรณีบุตรชายของตำรวจ สั่งการให้ตำรวจปราบปรามยาเสพติดสืบสวนและจะสอบปากคำผู้เป็นพ่อถึงความเกี่ยวข้อง แต่แม้ว่าจะเป็นบุตรชายของตำรวจก็จะดำเนินการอย่างเต็มที่ไม่มีการช่วยเหลือใดๆทั้งสิ้น และอยู่ระหว่างการดำเนินการขออำนาจศาลออกหมายจับ นอกจากนี้ยืนยันว่าจะทำลายเครือข่ายทุกรูปแบบรวมทั้งติดตามจับกุมผู้ร่วมกระทำผิดทั้งหมดและนำพ.ร.บ.ยึดทรัพย์มาบังคับใช้อย่างจริงจัง
คดีที่สอง เจ้าหน้าที่ตรวจยึดยาบ้าได้จำนวน 1,000,000 เม็ด และจับกุมนายพิสิษฐ์ ณรงค์ฤทธิ์ อายุ 35 ปี ได้ที่บริเวณถนนพหลโยธิน ในตำบลป่าซาง อำเภอแม่จันขณะลำเลียงยาเสพติดจากจังหวัดเชียงราย เตรียมนำส่งเอเย่นต์ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และส่งต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองรายรับสารภาพ รับจ้างส่งยาเสพติดมาแล้ว 5 ครั้ง โดยได้ค่าจ้าง 4 แสนบาทต่อครั้ง โดยไปรับยาเสพติดที่ซุกซ่อนในกระสอบปุ๋ยที่แปลงสภาพเป็นเป้สะพายหลังจำนวน 10 ใบนำไปส่งให้กับเครือข่ายยาเสพติด ในจังหวัดสงขลา
และคดีที่สาม จับกุมนายมานพ แซ่วะ นายจตุรวิทย์ วงศ์จักรตุภักดิ์ และนายชูชาติ ถนอมรุ่งเรือง ชาวม้งในจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมยาบ้าจำนวน 500,000 เม็ดซุกซ่อนในช่องลับรถกระบะทั้ง 2 คนเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สุดท้ายไม่รอดเครื่องมือพิเศษของตำรวจ โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่านำยาเสพติดมาจากจังหวัดเชียงใหม่เพื่อนำไปส่งในพื้นที่กรุงเทพฯและภาคใต้ แต่มาถูกจับกุมได้ที่จังหวัดกำแพงเพชร
สำหรับสถิติผลการจับกุมคดียาเสพติดตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 – 21 เมษายน 2560 สามารถยึดของกลางยาบ้าได้ 30,067,708 เม็ด ไอซ์กว่า 1,487 กิโลกรัม เฮโรอีน 95.73 กิโลกรัม โคเคน 23.88 กิโลกรัม กัญชาแห้ง 920.54 กิโลกรัม และสามารถยึดทรัพย์สินได้กว่า 148 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย
