สบส.เตรียมนำข้อมูลเว็บไซต์อุ้มบุญลาวตรวจสอบ

สำนักข่าวไทย 22 เม.ย.- ผอ.กองการประกอบโรคศิลปะ เตรียมตรวจสอบข้อมูลในเว็บไซต์ของคลินิกรักษาผู้มีบุตรยากในลาว เชื่อมกับคลินิกมีชื่อ ในไทยหรือไม่ หลังข้อมูลในเว็บโชว์ว่าก่อตั้งคลินิกร่วมกัน แม้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ต้องตรวจสอบเพราะการนำทั้ง อสุจิ ไข ตัวอ่อน ออกนอกประเทศผิดตามกฎหมาย 


ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐ์สุวรรณ ผอ.กองการประกอบโรคศิลปะ  กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.)กระทรวงสาธารณสุข  กล่าวถึงกรณีการพบเว็บไซต์ ในสปป.ลาว ที่มีความเชื่อมโยงกับคลินิกในไทย ให้บริการเทค โนโลยีเจริญพันธุ์  รักษาผู้มีบุตรยากและการตั้งครรภ์  ระบุว่า เรื่องนี้สามารถทำได้ทางกฎหมายปกติ เพราะต้องเข้าใจว่าประเทศไทยมีเทค โนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้ามากกว่าประเทศเพื่อนบ้าน จึงไม่แปลก หากจะมีความร่วมมืออย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งคล้ายประเทศเกาหลี ที่มีความชำนาญทางศัลยกรรมและมาเปิดคลินิกในไทย แต่ทั้งนี้ ต้องดูว่า การให้บริการมีความเชื่อมโยงถึงกันหรือไม่  มีการส่งตัวอ่อนหรือเปล่า ซึ่ง ทางสบส.จะมีการตรวจสอบต่อไป  โดยขั้นตอนการตรวจสอบ สามารถทำได้จากผู้ป่วยหรือญาติ หากพบว่ามีการส่งตัวอ่อน อสุจิหรือไข่ ข้ามประ เทศ ไม่ว่าจะได้รับความยินยอม หรือสมัครใจจากญาติ หรือผู้ป่วย หรือคลินิกเองจะมีความผิดตามกฎหมาย ของพ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดจากเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์  

ทันตแพทย์อาคม กล่าวเพิ่มเติมว่า ความคืบหน้า การตรวจสอบที่มาของหลอดอสุจิ ในถังไนโตรเจนอีก 4 หลอด ว่า ขณะนี้อยู่ในกระบวนการตรวจ สอบว่า ของเหลวในถังไนโตรเจน ใช่ อสุจิ ไข่ หรือ ตัวอ่อน หรือไม่ ซึ่งต้องรอทางรพ.ศรีนครินทร์รายงานผล  และส่วนการตรวจสอบเชื่อมโยงกลับคลินิก หรือสถานพยาบาลนั้น  จะใช้วิธีดูรหัสผู้ป่วยที่อยู่ข้างหลอด และเปรียบเทียบกับเวชระเบียบคนไข้ คาดว่าสามารถทราบผลได้ไม่ยาก จาก นั้น จึงเข้าสู่กระบวนการเชิญคู่สมรส ที่ถูกระบุอ้างว่า เป็นเจ้าของของเหลวภายในหลอดมากสอบถามอีกครั้ง  


สำหรับข้อความในเว็บไซต์ที่ปรากฎในสปป.ลาว ระบุว่า คลินิกที่กำลังตกเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ เป็นหนึ่งในคลินิกที่ดีที่สุดในบ้านหนองไห เมืองหาดซายฟอง นครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว    ให้บริการคลินิกเด็กหลอด แก้ว ให้บริการด้านดูแลสุขภาพเอกชนชั้นนำในลาว   ให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพ การดูแลสุขภาพที่คุ้มค่าและเคารพต่อมนุษย์ ซึ่งคลินิกก่อตั้งโดยมีจุดประสงค์ที่จะให้การดูแลสุขภาพระดับโลก ได้รับความร่วมมือด้านเทคนิคจากคลินิกเด็กหลอดแก้วไทย แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งความผู้ว่าสตง.

2 พิธีกรดังเข้าแจ้งความกล่าวโทษผู้ว่าฯ สตง. เหตุตึก สตง.ถล่ม

สองพิธีกรชื่อดัง เข้าแจ้งความกล่าวโทษ ผู้ว่าฯ สตง. และอดีตผู้ว่าฯ สตง. เหตุตึก สตง.แห่งใหม่ถล่ม แต่ไม่มีใครรับผิดชอบ มองอาจไม่ชอบมาพากล หวั่นเวลาผ่านไปเอาผิดใครไม่ได้

ก้อนปูนตกใส่รถ

กทพ. แจงก้อนปูนตกใส่รถผู้ใช้ทาง มีคนโยนลงมาจากสะพานลอย

กทพ. ชี้แจงกรณี ก้อนปูนตกใส่รถผู้ใช้ทาง ไม่ได้เกิดจากการกระเทาะของโครงสร้างทางพิเศษบูรพาวิถี แต่มีผู้โยนลงมาจากสะพานลอย จ่อประสานตำรวจตามตัวดำเนินคดี

ปล่อยกู้ดอกโหด

บุกทลาย “บ้านเสี่ยโน้ต” ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยมหาโหด 1,825% ต่อปี

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) บุกทลาย “บ้านเสี่ยโน้ต” ปล่อยเงินกู้เฉพาะผู้หญิง คิดดอกเบี้ยมหาโหดร้อยละ 1,825 ต่อปี ไม่จ่ายโดนข่มขู่ประจานไม่เลือกหน้า

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนภาคใต้รับมือฝนถล่ม-ไทยตอนบนอากาศร้อน

กรมอุตุฯ เตือนภาคใต้รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนไทยตอนบนอากาศร้อน ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

โรคแอนแทรกซ์

สธ.เฝ้าระวังโรคแอนแทรกซ์ ย้ำประชาชนอย่าเพิ่งตระหนกตกใจ

หลังมีผู้เสียชีวิตและติดเชื้อแอนแทรกซ์ รวมถึงยังต้องเฝ้าระวังตรวจคัดกรองหลายร้อยคน การระบาดในพื้นที่ภาคอีสานรอบนี้ ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า กรมควบคุมโรคเร่งเฝ้าระวังและควบคุมโรคแอนแทรกซ์ ย้ำพี่น้องประชาชนอย่าเพิ่งตระหนกตกใจ

ประณามยิงประชาชน

แม่ทัพภาคที่ 4 ประณามคนร้ายยิงประชาชนเสียชีวิต-สั่งปรับแผนความปลอดภัย

แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ติดตามเหตุยิงประชาชนใน อ.จะแนะ และ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส สั่งปรับแผนการปฏิบัติในพื้นที่ล่อแหลม เสี่ยงต่อการก่อเหตุรุนแรง สร้างความปลอดภัยสูงสุดในการดูแลประชาชน พร้อมประณามการกระทำโหดเหี้ยม