กกต.-20เม.ย.- นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง ด้านบริหารกลาง เปิดเผยหลังการประชุมร่วมกับมูลนิธิเครือข่ายเพื่อการเลือกตั้ง หรือ อันเฟรล เพื่อหาแนวทางในการอำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการ ผู้สูงอายุ โดยได้มีการแบ่งกลุ่มผู้พิการออกเป็น 7 กลุ่มได้แก่ ผู้พิการทางการมองเห็น ผู้พิการทางการได้ยิน ผู้พิการทางร่างกายและผู้พิการทางจิตใจ สติปัญญาการเรียนรู้และออทิสติก ซึ่ง กกต.ให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุที่จะใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งให้เท่าเทียมกับคนปกติ โดยแนวทางการที่จะอำนวยความสะดวกกลุ่มคนเหล่านั้น กกต.เห็นว่าต้องแก้ไขกฎหมาย กฎระเบียบข้อบังคับ ใช้เทคโนโลยีทุกช่องทางในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้เข้าถึงผู้พิการและผู้สูงอายุ พร้อมทั้งต้องปรับทัศนคติความเชื่อที่มีต่อผู้พิการ อีกทั้งต้องมีการจัดเตรียมสถานที่จัดการเลือกตั้งในการอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการในการออกไปใช้สิทธิ์ เช่นการออกแบบหน่วยเลือกตั้งที่มีความเป็นสากล มีทางลาดชันสำหรับผู้พิการ มีเทคโนโลยีที่เป็นการช่วยเหลือผู้พิการ เช่น อักษรเบรลล์ หรือหนังสือเสียง เป็นต้น รวมถึงการเตรียมบุคลากรเพื่ออำนวยความสะดวก เช่นมีกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งหรือเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ อบรมภาษามือที่จำเป็นให้กับเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเพื่อสื่อสารกับผู้ใช้สิทธิ์ รวมถึงปรับทัศนคติในการช่วยเหลือผู้พิการและผู้สูงอายุมากกว่าคนทั่วไป เพื่อไม่เป็นอุปสรรคในการเลือกตั้ง
นายสมชัย ยังกล่าวว่า กกต.จะจัดทำหนังสือคู่มือการจัดการเลือกตั้งสำหรับผู้พิการ จะมีการทำประชาพิจารณ์โดยจะเชิญตัวแทนผู้พิการทุกรูปแบบ 100 คนมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการจัดการเลือกตั้งเพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการ ในวันที่ 3 พฤษภาคม นี้ ที่โรงแรมเซนทรา ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ ซึ่งคู่มือดังกล่าว กกต.จะจัดทำร่วมกับมูลธิอันเฟรลใช้เป็นต้นแบบในการเลือกตั้งในประเทศไทย และจะเป็นคู่มือเล่มแรกของโลกที่จะนำไปใช้สำหรับการจัดการเลือกตั้งสำหรับผู้พิการ ซึ่งจะจัดทำเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
สำหรับแนวทางในการจัดทำคู่มือจัดการเลือกตั้งอำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการ เช่น การจัดทำเวบไซต์ให้ข้อมูลระบบเสียงและสามารถปรับขนาดตัวอักษรและสีตัวอักษรได้ จัดสถานที่เลือกตั้งพิเศษสำหรับผู้พิการที่ลงชื่อไม่น้อยกว่า 40 คน จากเดิมที่กำหนด 100 คนต่อหน่วยเลือกตั้ง รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้พิการเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครสังเกตการณ์เลือกตั้งหรือร่วมเป็นกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง พร้อมยอมรับว่าอาจจะส่งผลกระทบต่องบประมาณในการจัดการเลือกตั้งบ้าง แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญในการเปิดโอกาสให้กลุ่มคนเหล่านี้เข้ามามีสิทธิ์ในการเลือกตั้ง ถือเป็นเรื่องที่ดี ถึงจะใช้งบประมาณมากกว่าเดิม แต่ถือเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำ คุ้มค่าในการที่จะดำเนินการเพื่อให้คนเหล่านี้เข้าถึงสิทธิเลือกตั้ง.-สำนักข่าวไทย