เร่งสอบเหตุไม่สงบ 13 จุดใน 3 จังหวัดชายแดนใต้

ภาคใต้ 20 เม.ย.-กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า สรุปเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้เกิดเหตุทั้งหมด 13 เหตุการณ์ใน 12 อำเภอของ 3 จังหวัด คือ สงขลา นราธิวาส และปัตตานี ระบุผู้ก่อเหตุถูกระเบิดดับ 2 ราย หนึ่งในนั้นเป็นระดับหัวหน้าชุดปฏิบัติการ


พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า สรุปสถานการณ์ความวุ่นวายในห้วงเวลา 19.30-19.45 น. ของคืนวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา พบการใช้ระเบิดแสวงเครื่องและขว้างปะทัดยักษ์ใส่ฐานและจุดตรวจของเจ้าหน้าที่รวม 12 อำเภอ ทั้งหมด 13 เหตุการณ์ แบ่งเป็นปัตตานี 4 อำเภอ 4 เหตุการณ์, นราธิวาส 5 อำเภอ 6 เหตุการณ์, สงขลา 3 อำเภอ 3 เหตุการณ์ โดยเฉพาะที่สงขลา อำเภอสะบ้าย้อย มีผู้ก่อเหตุเสียชีวิต 2 คน คือ นายมะบีดี ลามะดอ และนายมะซากี เจะเละ เป็นสมาชิกผู้ก่อเหตุระดับหัวหน้าชุดปฏิบัติการที่เสียชีวิต ขณะจะนำระเบิดไปขว้างใส่ฐานปฏิบัติการในอำเภอสะบ้าย้อย ส่วนผลการตรวจสอบรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้เป็นของนายรอมาลี เจ๊ะแมสอ อดีตผู้ใหญ่บ้านตำบลธารคีรี ซึ่งยอมรับว่าคนร้ายทั้ง 2 คน ได้ยืมรถไปใช้  

ล่าสุด พล.ต.ท.สาคร ทองมุนี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 นำกำลังตำรวจและกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณข้างจุดตรวจอาสารักษาดินแดนในอำเภอสะบ้าย้อย ที่พบศพคนร้ายขนระเบิดเสียชีวิต พบร่องรอยชิ้นส่วนระเบิดและกองเลือดจำนวนมาก ขณะนี้สั่งเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดล่าตัวผู้ร่วมก่อเหตุที่หลบหนีไปได้แล้ว  
                
ส่วนที่หน้า สภ.จะนะ เจ้าหน้าที่ปิดกั้นพื้นที่เร่งตรวจสอบจุดที่คนร้ายบุกเข้ามาขว้างระเบิดไปป์บอมบ์และยิงตอบโต้กับตำรวจประจำป้อม ทำให้ร้านค้าร้านอาหารที่ด้านหน้าโรงพักต้องปิดให้บริการในวันนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ ขณะที่ ด.ต.พิชิต เพ็ชรมาก ที่อยู่ในเหตุการณ์และปะทะกับคนร้ายด้วย เล่าว่าพบลูกไฟสีแดงและฝุ่นฟุ้งกระจาย จึงปฏิบัติการตามยุทธวิธียิงตอบโต้คนร้าย และแจ้งตำรวจบนโรงพักให้รับทราบ


ขณะที่จังหวัดปัตตานี เกิดเหตุคนร้ายใช้ระเบิดขว้างปาใส่ฐานปฏิบัติการณ์ จุดตรวจ และบ้านพักของตำรวจในพื้นที่รวม 5 จุดใน 4  อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเมือง 1 จุด อำเภอยะรัง 2 จุด อำเภอมายอ 1 จุด และอำเภอกะพ้อ 2 จุด ซึ่งเมื่อช่วงเช้าตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุบนถนนสายยะรัง-มายอ ตำบลสาครบน พบหลุมระเบิด 2 จุด และพบหลุมระเบิดอยู่ภายในเต็นท์ แรงระบิดทำให้โต๊ะ เก้าอี้ หลังคาเต็นท์ ได้รับความเสียหาย สอบสวนพยานระบุมีคนร้าย 4 คน ใช้รถจักรยานยนต์ปะปนมากับชาวบ้านและขว้างระเบิดใสจำนวน 4 ลูก ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเต็นท์ของด่านตรวจร่วม 3 ฝ่าย ได้รับบาดเจ็บ 5 นาย สาหัส 2 นาย ถูกนำส่งโรงพยาบาลปัตตานี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย