กกพ. ย้ำคนไทยทำใจค่าไฟงวดใหม่

17 เม.ย. – ค่าไฟฟ้างวดใหม่ขยับขึ้นแน่นอน และในอนาคต การนำเข้าแอลพีจีจะมากกว่า แสนตันต่อเดือนหลังปริมาณก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยลดลง


นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ในพุธที่จะถึงนี้ คณะกรรมการ กกพ.จะมีการประชุมเพื่อให้ความเห็นชอบค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ หรือเอฟทีงวดใหม่ ที่จะเรียกเก็บใน 4 เดือนข้างหน้า หรือ ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม-สิงหาคม โดยแนวโน้มจะขยับขึ้นอย่างแน่นอน แต่จะเป็นอัตราเท่าใด จะมากกว่า 10สตางค์ต่อหน่วยหรือไม่ให้ที่ประชุมตัดสินใจ  โดยสาเหตุที่ขยับขึ้นมาจากราคาก๊าซธรรมชาติขยับขึ้นตามสูตรปรับราคาน้ำมันเตาย้อนหลัง 6-12 เดือน และเงินประมาณการณ์ลงทุนคงเหลือหรือคอลล์แบ็กของสามการไฟฟ้าและของเอกชนไม่มีเม็ดเงินเหลือมาหักลบได้ ประกอบกับเงินอุดหนุนจากพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นจึงทำให้ค่าไฟฟ้าขยับขึ้น จากอัตราปัจจุบันค่าไฟฟ้าเอฟทีอยู่ที่ติดลบ 37.29 สตางค์/หน่วย  และค่าไฟฟ้าเฉลี่ยผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภทอยู่ที่ 3.3827 บาท/หน่วย

ส่วนกรณีที่เอ็นจีวีงวดใหม่ลดลง 28 สตางค์ เหลือ 12.92 บาท/กก.นั้น ก็เป็นการขยับรายเดือน จึงไม่ถือว่าเป็นแนวโน้มสำหรับการพิจารณาค่าไฟฟ้า


ด้านนายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานเปิดเผยว่า กระทรวงพลังงาน เตรียมแผนรองรับ ปริมาณก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยที่ลดลง เพราะไม่ใช่เพียงต้องนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจีวีมาผลิตไฟฟ้าเท่านั้น แต่ต้องนำเข้าก๊าซแอลพีจี  เพิ่มขึ้นด้วย โดยจะเริ่มเห็นชัดเจนใน 4-5 ปีข้างหน้า ซึ่งกระทรวงดำเนินการหลายรูปแบบมากขึ้น ทั้งการเร่งแผนเตรียมเปิดประมูลแหล่งก๊าซบงกช และเอราวัณ การปรับแผนนำเข้าแอลเอ็นจีเพิ่มขึ้น การเปิดเสรีนำเข้าแอลพีจี โดยคาดว่าการนำเข้าแอลพีจีจะมากกว่า 1 แสนตัน/เดือนจากที่ขณะนี้อยู่ที่ประมาณกว่า 2 หมื่นตันต่อเดือน  ดังนั้น จึงเตรียมแผนเพิ่มสำรองก๊าซแอลพีจี โดยจะกำหนดให้ผู้ค้ามาตรา 7 ต้องสำรองแอลพีจีจากปัจจุบัน 1% ของปริมาณการค้าหรือ3วันครึ่ง เป็น 2.5% หรือ 10วัน โดยจะมีผลบังคับวันที่  1 มกราคม 2564 เป็นต้นไป  

ส่วนการเปิดเสรีนำเข้าแอลพีจี ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ที่มีเพียงสยามแก๊สฯนำเข้ามามาจำหน่ายในประเทศเพียงรายเดียว  ล่าสุด ยังมีเอกชน 1 ถึง 2 รายใหม่แสดงความสนใจที่จะนำเข้าแอลพีจีเพื่อขายทั้งในและต่างประเทศ  โดยใช้ไทยเป็นฐานการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน  ขณะที่เครือซิเมนต์ไทยได้ยื่นขอเป็นผู้ค้ามาตรา7 มา เพื่อนำเข้าแอลพีจีมาใช้ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี. -สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมรอบนอก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วิกฤติ

ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น แต่ในพื้นที่ไข่แดงหรือพื้นที่เศรษฐกิจ น้ำยังไม่สามารถจะเจาะเข้าไปได้ โดยนายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่มั่นใจถ้าฝนตกลงมาไม่มากไปกว่านี้จะสามารถดูแลพื้นที่ในเทศบาลนครหาดใหญ่

ปัตตานีจมบาดาล-ถนนถูกตัดขาด

สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ยังวิกฤติในหลายจังหวัด เพราะฝนยังไม่หยุดตก ทำให้การระบายน้ำแทบไม่สามารถทำได้เลย โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ชาวบ้านเดือดร้อนหนักหลายแสนคน

เร่งรื้อถอนคานถล่ม ถ.พระราม 2 จราจรติดขัดหนัก

เหตุแผ่นยกคานปูนและเครนก่อสร้างถล่มบนถนนพระราม 2 จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงรื้อถอนโครงสร้างที่พังถล่มไม่แล้วเสร็จ ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด ขณะที่การจราจร ถ.พระราม 2 ทั้งขาเข้า-ขาออก ติดขัดหนัก แนะเลี่ยงเส้นทาง

นายกฯ สั่งระดมช่วยน้ำท่วมใต้-เร่งเยียวยา

นายกฯ สั่งระดมช่วยเหลือน้ำท่วมใต้-เร่งมาตรการเยียวยา เผย ครม.เห็นชอบ 39 โครงการฟื้นฟูพื้นที่อุทกภัย เชียงใหม่-เชียงราย 641 ล้านบาท