กรุงเทพฯ 17 เม.ย. – พพ.โชว์ 450 อาคารเข้าร่วมอนุรักษ์พลังงานตามกฎกระทรวง ประหยัดพลังงานกว่า 225 ล้านหน่วย และประหยัดค่าไฟสูงถึง 780 ล้านบาท จับมือสถาบันการศึกษาทำหลักสูตรออกแบบอาคารประหยัดพลังงาน
นายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยว่า พพ. ดำเนินการตามกฎกระทรวงกำหนดประเภท หรือขนาดของอาคารและมาตรฐาน หลักเกณฑ์ และวิธีการในการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน 2552 หรือ Building Energy Code (BEC) โดยร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย เพื่อเตรียมบังคับใช้ 9 ประเภทอาคาร ได้แก่ สถานพยาบาล สถานศึกษา สำนักงาน อาคารชุด อาคารชุมนุมคน(หอประชุม) โรงมหรสพ โรงแรม อาคารสถานบริการ และอาคารศูนย์การค้าหรือห้างสรรพสินค้า จะต้องออกแบบอาคารภายใต้เกณฑ์ BEC ดังกล่าว โดยจะนำร่องอาคารขนาดใหญ่พื้นที่ตั้งแต่ 10,000 ตร.ม.ขึ้นไปก่อนต้นปี 2561 และทยอยบังคับใช้อาคารพื้นที่ตั้งแต่ 5 ,000 ตร.ม.ภายในปี 2562 และตั้งแต่ 2,000 ตร.ม.ในปี 2563 อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา พพ.ผลักดันให้มีการออกแบบอาคารเพื่ออนุรักษ์พลังงานตามเจตนารมย์ของกฎหมายดังกล่าว จึงนำร่องให้อาคารใหม่ที่มีขนาดตั้งแต่ 2,000 ตร.ม.ขึ้นไปจะต้องออกแบบและก่อสร้างอาคารภายใต้เกณฑ์ BEC ตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปัจจุบันรวมแล้ว 450 อาคาร
“ขอความร่วมมืออาคารรัฐและเอกชนส่งแบบอาคารมาให้ พพ.ตรวจประเมิน เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมย์ของ BEC ตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปัจจุบันแล้ว 450 อาคาร โดยเป็นอาคารใหม่มีพื้นที่ตั้งแต่ 2,000 ตร.ม.ขึ้นไปแบ่งเป็นอาคารรัฐ 378 เอกชน 72 อาคาร ส่งผลให้เกิดการประหยัดไฟฟ้าสูงถึงประมาณ 225 ล้านหน่วย คิดเป็นผลประหยัดได้ 780 ล้านบาท รวมทั้งยังช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นสาเหตุหลักของปัญหาโลกร้อนได้สูงถึง 130,000 ตันคาร์บอนอีกด้วย” นายประพนธ์ กล่าว
ทั้งนี้ พพ.เตรียมแผนงานเพื่อผลักดันมาตรการต่าง ๆ ให้เกิดเป็นรูปธรรมมากขึ้น เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายที่มีการบังคับใช้ได้ร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมืองแก้ไขกฎกระทรวง พร้อมเข้าไปตรวจสอบสภาพอาคารที่ได้รับการตรวจประเมินและที่ได้รับใบรับรองแล้ว เพื่อติดตามสถานภาพการก่อสร้างว่าเป็นไปตามเงื่อนไขการรับรองหรือไม่ รวมทั้งจะร่วมกับสถาบันการศึกษานำความรู้ด้านการออกแบบอาคารประหยัดพลังงานไปเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรในการเรียนการสอนของนักศึกษาคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันนำร่องไปแล้ว 6 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.-สำนักข่าวไทย
