ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง พล.ต.ท.ชัจจ์ หมิ่น “บิ๊กอ๊อด”

กรุงเทพฯ 10 เม.ย.- ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นยกฟ้อง พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก กรณีถูกอดีต ผบ.ตร.ฟ้องหมิ่นฐานให้สัมภาษณ์ทำนองโจทก์ใช้อำนาจในทางที่ผิด 


ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และอดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา 

สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2553 นางวิมลรัตน์ กุลดิลก ภรรยาจำเลย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.สมยศ กับพวกรวม 10 คน ต่อศาลแพ่ง ขอให้เพิกถอนการโอนหุ้นบริษัท แอสเซ็ท มิลเลี่ยน จำกัด ระหว่างโจทก์กับพวก ต่อมาจำเลยได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนทำนองว่า มีการใช้ลูกน้องไปทำให้นายโดนัล เอียน แม็คเบลล์ พยานชาวออสเตรเลีย ในคดีเพิกถอนการโอนหุ้นถูกขึ้นบัญชีห้ามเดินทางเข้ามาในประเทศไทย และข้อความทำนองว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากความละโมบของคนบางคนที่ไม่รู้จักพอ ต่อมา พล.ต.อ.สมยศ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2556 ระบุพฤติการณ์ว่า ระหว่างวันที่ 20-25 มกราคม 2556 พล.ต.ท.ชัจจ์ จำเลย ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง วันที่ 25 มกราคม 2556 และให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยมีเจตนาให้บุคคลอื่นเข้าใจว่า โจทก์เป็นคนไม่ดี และใช้อำนาจในทางที่ผิด ทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง 


คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โดยเห็นว่าการพูดของจำเลยเป็นการพูดเพื่อปกป้องรักษาสิทธิในทางคดี เป็นการแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต และป้องกันส่วนได้ส่วนเสียของตนเอง จึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา 

ขณะที่ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุม เห็นพ้องด้วยกับศาลชั้นต้นว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้อง

ด้าน พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าวว่า ได้มีการฟ้องเท็จต่อ พล.ต.อ.สมยศ ขณะนี้คดีอยู่ในชั้นศาลแล้ว และขอให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม เพราะก่อนหน้านี้มีการเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย แต่ไม่สามารถตกลงกันได้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย