ระทึก!! ชายสูงอายุปรี่ตบ “ศรีสุวรรณ” หน้า กกต.

สำนักงานกกต. 11 พ.ค.-“ศรีสุวรรณ” แจ้งความหลังถูกชายสูงอายุตบเลือดกบปาก หลังเข้าให้ถ้อยคำปมเพื่อไทยหาเสียงแจกเงินดิจิทัล ตำรวจคุมตัว “ทศพล” ผู้ก่อเหตุสอบปากคำพร้อมสู้คดี บอกหมั่นไส้ ร้องพร่ำเพรื่อ ขัดขวางเลือกตั้ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนของนายศรีสุวรรณ จรรยา กรณีการให้ปากคำที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงแจกเงินดิจิทัล และเตรียมจะร้องให้ตรวจสอบนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์กรณีถือหุ้นสื่อ นายทศพล ธนานนท์โสภณกุล อายุ 67 ปี ชาวกทม. ซึ่งมาสังเกตการณ์ตั้งแต่ก่อนที่นายศรีสุวรรณ จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน หลังจากสัมภาษณ์นายศรีสุวรรณเสร็จ ก็ไปสัมภาษณ์นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ นายทศพล ได้เดินเข้าไปทำร้ายนายศรีสุวรรณ และใช้ถ้อยคำด่าทอ หยาบคาย

นายทศพล กล่าวว่า ไม่พอใจการร้องเรียนของนายศรีสุวรรณ โดยมองว่าเป็นการให้ร้ายผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล จึงหมั่นไส้ และตัดสินใจก่อเหตุ การร้องเรียนของนายศรีสุวรรณเรื่องต่าง ๆ ขัดขวางการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยที่กำลังจะเกิดขึ้น เป็นการร้องเรียนพร่ำเพรื่อ


เมื่อถามย้ำว่าจงใจมาดักรอเพื่อก่อเหตุหรือไม่ นายทศพล กล่าวว่า มาทำธุระที่ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ บังเอิญเจอนายศรีสุวรรณพอดี ไม่ได้มีเจตนามาดักรอ และยินดีถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย หากนายศรีสุวรรณจะไปแจ้งความดำเนินคดีตน

ขณะที่นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า จำไม่ได้ว่าเป็นการตบหรือการชก แต่เปิดแมสก์เพราะหลังเกิดเหตุ ริมฝีปากล่างด้านขวามีเลือดไหล หลังจากนี้จะไปแจ้งความดำเนินคดีผู้ก่อเหตุที่สน.ทุ่งสองห้อง ให้ไปเจอกันในชั้นศาล ซึ่งขณะเกิดเหตุยังอยู่บริเวณด้านหน้ากกต. กำลังจะเดินออกจากอาคาร จึงไม่ทราบว่าชายคนที่มาถ่ายคลิประหว่างการให้สัมภาษณ์สื่อจะเข้ามาทำร้าย เนื่องจากชายคนดังกล่าวไม่ได้มาสอบถามหรือพูดคุยก่อนก่อเหตุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนั้นจะมีสื่อมวลชนหลายสำนักอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ทุกคนหันไปสนใจนายเรืองไกรที่กำลังจะให้สัมภาษณ์ จึงไม่มีใครบันทึกภาพเหตุการณ์ได้ทัน และไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุในลักษณะดังกล่าว เพียงแต่ได้ยินเสียงเหมือนทะเลาะวิวาทกัน จึงหันไปมองก็พบว่านายศรีสุวรรณตะโกนว่า “มาตบผมทำไม” ก่อนที่สื่อมวลชนจะขอให้เจ้าหน้าที่แยกทั้ง 2 คนออกจากกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่รปภ.ของอาคาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาประจำการที่สำนักงานกกต.ก็รีบเข้าแยกบุคคลทั้งสองออกจากกัน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่รปภ.ได้รวบรวมหลักฐานจากกล้องวงจรปิด เพื่อเป็นหลักฐาน หากผู้เสียหายต้องการดำเนินคดี


ด้านนายเรืองไกร เมื่อเห็นเหตุการณ์ก็ได้เข้าไปสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนายศรีสุวรรณเปิดแมสก์ให้นายเรืองไกรดู ซึ่งต่างก็ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน นายเรืองไกร กล่าวว่า รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ยืนยันจะเดินหน้าร้องเรียนต่อ เพราะมองว่าเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามระบอบประชาธิปไตย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายศรีสุวรรณแจ้งความที่สน.ทุ่งสองห้องดำเนินคดีนายทศพลข้อหาทำร้ายร่างกาย ซึ่งพนักงานสอบสวนลงบันทึกประจำวันและสอบปากคำและทำหนังสือส่งตัวนายศรีสุวรรณไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเพื่อประกอบสำนวน รวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำผู้ก่อเหตุส่งให้อัยการยื่นฟ้องศาลต่อไป นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า  จะดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ไม่มีคำว่าเจรจาต่อรองหรือยอมรับคำขอโทษใด ๆ เพราะครั้งนี้เป็นครั้งที่สองแล้ว แต่ไม่กระทบการยื่นคำร้อง มีแต่จะทำให้ร้องเรียนมากยิ่งขึ้น การที่ผู้ก่อนเหตุอ้างว่าเรื่องนี้โทษเล็กน้อย แสดงให้เห็นเจตนา การทำผิดกฎหมายอาญาขึ้นอยู่กับเจตนา ซึ่งอัตราโทษสูง ไม่สามารถลดโทษได้

นายศรีสวุรรณ กล่าวว่า การทำร้ายร่างกายบุคคลอื่นโดยมีเจตนาอย่างนี้ ผมก็ปริวิตกว่าจะเป็นต้นแบบที่ไม่ดีต่อการใช้สิทธิของประชาชนในการร้องเรียนที่รัฐธรรมนูญให้การรับรองและคุ้มครอง หากใครไม่พอใจใครอย่างไรก็จะไปทำอย่างนี้ ซึ่งคนที่ยื่นเรื่องร้องเรียนไม่ใช่มีเพียงแต่ศรีสุวรรณคนเดียว ยังมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย มีหลากหลาย แต่พฤติการณ์อย่างนี้ไม่ควรส่งเสริมสนับสนุนหรือให้ท้ายใด ๆ  เราควรตำหนิแล้วใช้มาตรการทางกฎหมาอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป

“ผมสังเกตว่าบุคคลดังกล่าวมาบริเวณที่ผมยืนร้อนเรียน หลายต่อหลายครั้ง ไม่ใช่เพิ่งเห็นครั้งแรก เราเพียงแต่ว่าไม่รู้จักเขาเท่านั้นเอง  เคยเห็นหน้าหลายต่อหลายครั้ง แสดงว่ามีเจตนาหาโอกาส หาช่องทางจะมาทำร้ายผม จะหาว่าไม่เจตนาคงไม่ได้ ขณะนี้พูดยังไม่ค่อยถนัด เพราะปากยังเจ่ออยู่ คงจะกินน้ำพริกไม่ได้ไปหลายวัน ต่อไปคงต้องเข้มงวดทีมรปภ.มากขึ้น เพราะเมื่อเพื่อนหลายคนทราบข่าวได้โทรศัพท์มาสอบถาม และบอกว่าจะหาทีมงานรักษาความปลอดภัยมาเพิ่มเติมให้เวลาไปร้องเรียนตามสถานที่ต่าง ๆ    

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  หลังนายทศพล ผู้ก่อเหตุ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปให้ปากคำเพิ่มเติม ได้ยืนยันสู้คดี เพราะมองว่าไม่ได้กระทำเกินกว่าเหตุ เป็นการสั่งสอน  ขณะเจ้าหน้าที่แจ้งว่า เรื่องพยานหลักฐาน  ตอนนี้ยังไม่มีคลิปวิดีโอที่บันทึกไว้ได้  ต้องนำตัวนายทศพลไปทำใบบันทึกประจำวัน เพื่อนำกลับมาขอคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดที่ศูนย์ราชการฯ-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

9 ทันโลก : แจงด่วน! คณะมนตรีความมั่นคง ไทยนี้รักสงบ

25 ก.ค. – นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตามที่กัมพูชาร้องขอไว้ รายงาน 9 ทันโลก พาไปติดตามบทบาทและโอกาสของไทยบนเวทีสำคัญนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาตินานเกือบ 80 ปี จะได้แสดงบทบาทอีกครั้งในคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการสื่อสารกับประชาคมโลก ถึงการกระทำของกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายด้าน รวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติที่ไทยยึดมั่น ในห้องประชุมนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ ลำดับที่ 55 จะทำหน้าที่อีกครั้งในภารกิจด้านสันติภาพ ตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกเมื่อปี 2489 ที่นี่ไทยเคยทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง โดยพลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา และหม่อมหลวง พีระพงศ์ เกษมศรี ทำหน้าที่สองวาระ ในปี 2528 และ 2529 ในเวลาที่สงครามเย็นคุกรุ่น มาในวันนี้ไทยกำลังจะมีโอกาสอันดีที่ได้ใช้ช่องทางการทูตสำคัญ เสาหลักความมั่นคงของสหประชาชาติ ในอีกบทบาทหนึ่งที่ยังคงอยู่บนพื้นฐานการแสวงหาสันติภาพตามกลไกนี้ เมื่อประเทศสมาชิก ในกรณีนี้คือกัมพูชา ร้องขอให้เปิดประชุมเร่งด่วน สมาชิกคณะมนตรีซึ่งมีสมาชิกถาวร 5 ประเทศ และสมาชิกไม่ถาวร 10 ประเทศ พิจารณากรณีที่เป็นภัยคุกคามใดต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ เช่น กรณีการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา […]

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย