ระทึก!! ชายสูงอายุปรี่ตบ “ศรีสุวรรณ” หน้า กกต.

สำนักงานกกต. 11 พ.ค.-“ศรีสุวรรณ” แจ้งความหลังถูกชายสูงอายุตบเลือดกบปาก หลังเข้าให้ถ้อยคำปมเพื่อไทยหาเสียงแจกเงินดิจิทัล ตำรวจคุมตัว “ทศพล” ผู้ก่อเหตุสอบปากคำพร้อมสู้คดี บอกหมั่นไส้ ร้องพร่ำเพรื่อ ขัดขวางเลือกตั้ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนของนายศรีสุวรรณ จรรยา กรณีการให้ปากคำที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงแจกเงินดิจิทัล และเตรียมจะร้องให้ตรวจสอบนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์กรณีถือหุ้นสื่อ นายทศพล ธนานนท์โสภณกุล อายุ 67 ปี ชาวกทม. ซึ่งมาสังเกตการณ์ตั้งแต่ก่อนที่นายศรีสุวรรณ จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน หลังจากสัมภาษณ์นายศรีสุวรรณเสร็จ ก็ไปสัมภาษณ์นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ นายทศพล ได้เดินเข้าไปทำร้ายนายศรีสุวรรณ และใช้ถ้อยคำด่าทอ หยาบคาย

นายทศพล กล่าวว่า ไม่พอใจการร้องเรียนของนายศรีสุวรรณ โดยมองว่าเป็นการให้ร้ายผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล จึงหมั่นไส้ และตัดสินใจก่อเหตุ การร้องเรียนของนายศรีสุวรรณเรื่องต่าง ๆ ขัดขวางการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยที่กำลังจะเกิดขึ้น เป็นการร้องเรียนพร่ำเพรื่อ


เมื่อถามย้ำว่าจงใจมาดักรอเพื่อก่อเหตุหรือไม่ นายทศพล กล่าวว่า มาทำธุระที่ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ บังเอิญเจอนายศรีสุวรรณพอดี ไม่ได้มีเจตนามาดักรอ และยินดีถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย หากนายศรีสุวรรณจะไปแจ้งความดำเนินคดีตน

ขณะที่นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า จำไม่ได้ว่าเป็นการตบหรือการชก แต่เปิดแมสก์เพราะหลังเกิดเหตุ ริมฝีปากล่างด้านขวามีเลือดไหล หลังจากนี้จะไปแจ้งความดำเนินคดีผู้ก่อเหตุที่สน.ทุ่งสองห้อง ให้ไปเจอกันในชั้นศาล ซึ่งขณะเกิดเหตุยังอยู่บริเวณด้านหน้ากกต. กำลังจะเดินออกจากอาคาร จึงไม่ทราบว่าชายคนที่มาถ่ายคลิประหว่างการให้สัมภาษณ์สื่อจะเข้ามาทำร้าย เนื่องจากชายคนดังกล่าวไม่ได้มาสอบถามหรือพูดคุยก่อนก่อเหตุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนั้นจะมีสื่อมวลชนหลายสำนักอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ทุกคนหันไปสนใจนายเรืองไกรที่กำลังจะให้สัมภาษณ์ จึงไม่มีใครบันทึกภาพเหตุการณ์ได้ทัน และไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุในลักษณะดังกล่าว เพียงแต่ได้ยินเสียงเหมือนทะเลาะวิวาทกัน จึงหันไปมองก็พบว่านายศรีสุวรรณตะโกนว่า “มาตบผมทำไม” ก่อนที่สื่อมวลชนจะขอให้เจ้าหน้าที่แยกทั้ง 2 คนออกจากกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่รปภ.ของอาคาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาประจำการที่สำนักงานกกต.ก็รีบเข้าแยกบุคคลทั้งสองออกจากกัน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่รปภ.ได้รวบรวมหลักฐานจากกล้องวงจรปิด เพื่อเป็นหลักฐาน หากผู้เสียหายต้องการดำเนินคดี


ด้านนายเรืองไกร เมื่อเห็นเหตุการณ์ก็ได้เข้าไปสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนายศรีสุวรรณเปิดแมสก์ให้นายเรืองไกรดู ซึ่งต่างก็ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน นายเรืองไกร กล่าวว่า รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ยืนยันจะเดินหน้าร้องเรียนต่อ เพราะมองว่าเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามระบอบประชาธิปไตย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายศรีสุวรรณแจ้งความที่สน.ทุ่งสองห้องดำเนินคดีนายทศพลข้อหาทำร้ายร่างกาย ซึ่งพนักงานสอบสวนลงบันทึกประจำวันและสอบปากคำและทำหนังสือส่งตัวนายศรีสุวรรณไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเพื่อประกอบสำนวน รวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำผู้ก่อเหตุส่งให้อัยการยื่นฟ้องศาลต่อไป นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า  จะดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ไม่มีคำว่าเจรจาต่อรองหรือยอมรับคำขอโทษใด ๆ เพราะครั้งนี้เป็นครั้งที่สองแล้ว แต่ไม่กระทบการยื่นคำร้อง มีแต่จะทำให้ร้องเรียนมากยิ่งขึ้น การที่ผู้ก่อนเหตุอ้างว่าเรื่องนี้โทษเล็กน้อย แสดงให้เห็นเจตนา การทำผิดกฎหมายอาญาขึ้นอยู่กับเจตนา ซึ่งอัตราโทษสูง ไม่สามารถลดโทษได้

นายศรีสวุรรณ กล่าวว่า การทำร้ายร่างกายบุคคลอื่นโดยมีเจตนาอย่างนี้ ผมก็ปริวิตกว่าจะเป็นต้นแบบที่ไม่ดีต่อการใช้สิทธิของประชาชนในการร้องเรียนที่รัฐธรรมนูญให้การรับรองและคุ้มครอง หากใครไม่พอใจใครอย่างไรก็จะไปทำอย่างนี้ ซึ่งคนที่ยื่นเรื่องร้องเรียนไม่ใช่มีเพียงแต่ศรีสุวรรณคนเดียว ยังมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย มีหลากหลาย แต่พฤติการณ์อย่างนี้ไม่ควรส่งเสริมสนับสนุนหรือให้ท้ายใด ๆ  เราควรตำหนิแล้วใช้มาตรการทางกฎหมาอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป

“ผมสังเกตว่าบุคคลดังกล่าวมาบริเวณที่ผมยืนร้อนเรียน หลายต่อหลายครั้ง ไม่ใช่เพิ่งเห็นครั้งแรก เราเพียงแต่ว่าไม่รู้จักเขาเท่านั้นเอง  เคยเห็นหน้าหลายต่อหลายครั้ง แสดงว่ามีเจตนาหาโอกาส หาช่องทางจะมาทำร้ายผม จะหาว่าไม่เจตนาคงไม่ได้ ขณะนี้พูดยังไม่ค่อยถนัด เพราะปากยังเจ่ออยู่ คงจะกินน้ำพริกไม่ได้ไปหลายวัน ต่อไปคงต้องเข้มงวดทีมรปภ.มากขึ้น เพราะเมื่อเพื่อนหลายคนทราบข่าวได้โทรศัพท์มาสอบถาม และบอกว่าจะหาทีมงานรักษาความปลอดภัยมาเพิ่มเติมให้เวลาไปร้องเรียนตามสถานที่ต่าง ๆ    

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  หลังนายทศพล ผู้ก่อเหตุ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปให้ปากคำเพิ่มเติม ได้ยืนยันสู้คดี เพราะมองว่าไม่ได้กระทำเกินกว่าเหตุ เป็นการสั่งสอน  ขณะเจ้าหน้าที่แจ้งว่า เรื่องพยานหลักฐาน  ตอนนี้ยังไม่มีคลิปวิดีโอที่บันทึกไว้ได้  ต้องนำตัวนายทศพลไปทำใบบันทึกประจำวัน เพื่อนำกลับมาขอคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดที่ศูนย์ราชการฯ-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]

ตำรวจภาค 8 รวบ 3 ราย ขบวนการส่งยาขนมากับรถทัวร์

กระบี่ 11 มิ.ย. – รวบขบวนการค้ายาบ้า ขนมากับรถทัวร์ สายเชียงใหม่-ภูเก็ต 3 แสนเม็ด แวะลงกระบี่ ส่งให้เอเย่นต์สาขาสุราษฎร์ฯ ตำรวจรวบทีเดียวทั้งคนส่งและคนรับ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รักษาการ ผบ.ภ.จ.กระบี่ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ อายุ 54 ปี นายสุรพล อายุ 30 ปี และนางสาวสุนารี อายุ 27 ปี พร้อมยึดรถเก๋ง 1 คัน และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาบ้ากันบริเวณสามแยกเขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อถึงเวลาก็มีรถทัวร์สายเชียงใหม่-ภูเก็ต […]

‘ฮุน มาเนต’ ย้ำทหารกัมพูชาไม่ได้ถอยออกจากพื้นที่

ปารีส 10 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสารจากฝรั่งเศสถึงชาวกัมพูชา ยืนยันจุดยืนกองทัพไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ภายใต้อธิปไตย พร้อมร่วมมือกับไทยปักปันเขตแดน ตามกลไกเจบีซี ยกเว้น 4 จุดที่จะส่งศาลโลกตัดสิน ฮุน มาเนต ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยมหาสมุทรของสหประชาชาติ ครั้งที่ 3 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ส่งสารถึงชาวกัมพูชา มีใจความดังนี้ กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยสันติ แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการพยายามรุกรานใดๆ กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทยที่มีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพื่อดำเนินงานรังวัดและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป ยกเว้นประเด็นที่กัมพูชาจะส่งให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเจ (ICJ) พิจารณา

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ดูบังเกอร์หลบภัย ถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ มท.

11 มิ.ย.- นายกฯ ดูชาวบ้านทำบังเกอร์ ร้องโถ่ ก่อนถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ ก.มหาดไทย หลังรายงานขอรับบริจาคมาใช้แทนยางรถยนต์ วันนี้ (11 มิ.ย. 68) เวลา 13.40 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ต่อมายังหมู่บ้านสกลพัฒนา ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง เพื่อพบปะชาวบ้าน มอบสิ่งของ และตรวจดูการทำบังเกอร์หลบภัย โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีชาวบ้านนำผ้าขาวม้ามามอบให้ ซึ่งนายกฯ รับมาก่อนจะหันไปหานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า “ผูกกันเป็นทีม” ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภค – บริโภค เพื่อให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมการสร้างบังเกอร์ โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านสกลพัฒนา รายงาน โดยนายกรัฐมนตรี ถามผู้ว่าฯ ว่า ขอเข้าไปดูได้หรือไม่ และถามชาวบ้านบ้านว่า “ทำมานานหรือยัง” โดยชาวบ้านบอกว่า […]

คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา-ค้านประกันตัว

กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ ตำรวจคัดค้านการประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวฝากขังพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 ควบคุมตัวหมอแอร์ ไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากการกระทำความผิดมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะมีการหลบหนีและยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในระหว่างควบคุมตัว หมอแอร์สวมหมวก แว่นตาดำ และแมสก์ปิดบังใบหน้า พยายามแอบอยู่หลังเจ้าหน้าที่ โดยไม่ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด สำหรับผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ วันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) .-สำนักข่าวไทย

เปิดขบวนการ “หมอแอร์” สวมชื่อคนตายซื้อยาเสียสาว

11 มิ.ย. – ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำแถลงกรณี “หมอแอร์” พร้อมพวกรวม 7 คน แอบอ้างชื่อคลินิก 12 แห่ง สั่งซื้อยายาเสียสาว นำมาขายต่อ นาน 3 ปี และยังสวมชื่อคนตาย 370 คน รับยา ขณะที่ รพ.ตำรวจ มีคำสั่งให้ “หมอแอร์” ออกจากราชการไว้ก่อน หลังเมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.68) เจ้าหน้าที่บุกจับ “หมอแอร์” คุณหมอชื่อดัง สังกัดโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมพวก แอบอ้าง 12 คลินิก สั่งซื้อยาควบคุม (ยาเสียสาว) นำมาขายต่อ นาน 3 ปี วันนี้ (11 มิ.ย.68) มีการแถลงข่าวเรื่องนี้ นำโดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย […]

เปิดภาพความจริง! อดีต-ปัจจุบันชายแดนช่องบก

11 มิ.ย. – ‘กองทัพไทย’ เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ชายแดนช่องบก อุบลราชธานี เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน พบการทำกิจกรรมทางทหาร-ขุดคูเลต-ทำถนนส่งกำลังบำรุง ก่อนเหตุปะทะช่องบก 28 พ.ค.2568 ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดข้อมูลแผนที่ทางอากาศ จัดทำโดยกองบัญชาการกองทัพไทย จากกรณีไทย และกัมพูชา มีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศตรงจุดปะทะ โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ช่วงแรกถ่ายไว้จนถึงปี 2520, 2527 และมีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ จะยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่อย่างที่อ้าง ข้อมูลของกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย ทั้งนี้ กองทัพไทยยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546, 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่า ช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศว่า มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง […]