กรุงไทยนำร่องออกใบอนุโมทนาบัตรอิเล็กทรอนิกส์วัดใหญ่
กรุงไทยนำร่องออกใบอนุโมทนาบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่วัดใหญ่ จ.พิษณุโลก
กรุงไทยนำร่องออกใบอนุโมทนาบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่วัดใหญ่ จ.พิษณุโลก
อุบลราชธานี 7 พ.ย.- ชัดเจนแล้วชาวเน็ตได้เลิกกังขา เจ้าคณะอำเภอวารินชำราบอธิบายละเอียดยิบขั้นตอนออกใบอนุโมทนาบัตรให้ผู้บริจาคเงินวัดใช้ลดหย่อนภาษีประจำปี ขณะที่เจ้าคณะตำบลวอนทบทวนหากเรียกเก็บภาษีวัด ชี้บางวัดไม่มีรายได้ แม้แต่กฐินผ้าป่า พระครูธีรปัญญาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดแสนสำราญ และเจ้าคณะอำเภอวารินชำราบ ฝ่ายธรรมยุต จ.อุบลราชธานี เปิดเผยกรณีมีข้อสงสัยแชร์ผ่านโซเชียลการออกใบอนุโมทนาบัตรของวัดแต่ละแห่ง ที่มีการออกจำนวนเงินเกินกว่าที่บริจาค เพื่อนำไปใช้ลดหย่อนภาษี รวมทั้งมีแนวคิดที่จะเก็บภาษีจากวัดว่า การออกใบอนุโมทนาบัตรให้กับผู้บริจาคเงินแก่วัด เพื่อนำไปใช้ในกิจการของสงฆ์ต้องออกให้ในจำนวนที่บริจาคตามความจริง เนื่องจากมีคณะกรรมการวัดเป็นผู้ดูแลรายรับรายจ่ายต้องลงรายละเอียดไว้ในสมุดคุมการใช้จ่ายของวัดทุกขั้นตอน เพราะวัดเป็นนิติบุคคล นอกจากนี้ ตามระเบียบปฏิบัติการออกใบอนุโมทนาบัตรนอกจากเจ้าอาวาสเป็นผู้ลงนามแล้ว ต้องมีไวยาวัจกรร่วมลงนามทุกครั้ง เมื่อเสร็จจากการจัดงานต่าง ๆ วัดยังต้องประกาศให้ชุมชนรับทราบ และเมื่อมีประชาชนนำใบอนุโมทนาบัตรไปขอลดหย่อนภาษี สำนักงานสรรพากรพื้นที่จะมีการตรวจสอบกลับมาที่วัดมีรายการบริจาคจริงตามที่ยื่นขอลดหย่อนภาษีด้วยหรือไม่ ขอยืนยันว่าการจะออกจำนวนเงินให้เกินกว่าการรับบริจาค ไม่สามารถทำไม่ได้ เพราะเจ้าอาวาสถือเป็นเจ้าพนักงาน หากทำเช่นนั้นถือว่ามีความผิดด้วย และการออกใบอนุโมทนาบัตร ถ้ามียอดบริจาคเกินกว่า 500,000 บาท เจ้าอาวาสไม่สามารถลงนามได้ ต้องให้เจ้าคณะตำบลเป็นผู้ลงนามแทน พระครูธีรปัญญาภรณ์ กล่าวด้วยว่า การออกใบอนุโมทนาบัตรให้เป็นชื่อบุคคลอื่น เช่น พ่อแม่บริจาคให้กับวัดในนามของบุตรหลานนั้น เป็นจุดประสงค์ของผู้บริจาค แต่การออกให้ต้องเป็นไปตามจำนวนจริงที่บริจาค ด้านพระครูอุบลคณาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเลียบ และเจ้าคณะตำบลในเมือง ฝ่ายธรรมยุต อ.เมืองอุบลราชธานี กล่าวถึงการเก็บภาษีวัดว่า ปัจจุบันวัดที่ใช้บัญชีของธนาคารกรุงไทย (มหาชน) จำกัด […]