แจงเครื่องบินเมียนมาลงสนามบินแม่สอด ไม่มีกำลังทหาร-อาวุธ

รมช.กต. แจง กรณีเมียนมานำเครื่องบินลงสนามบินแม่สอด เป็นคำขอทางการทูต เพื่อขนย้ายสิ่งของพลเรือน ไม่มีกำลังทหาร-อาวุธ

เมียนมา-จีนเดินหน้าเขตเศรษฐกิจพิเศษ-ท่าเรือน้ำลึกในยะไข่

ย่างกุ้ง 8 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวของกลุ่มชาวเมียนมาลี้ภัยในไทยรายงานว่า  รัฐบาลทหารเมียนมาและบริษัทของทางการจีนเร่งเดินหน้าการตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษและโครงการท่าเรือน้ำลึกในรัฐยะไข่ แม้ว่าสถานการณ์การสู้รบในรัฐนี้ทวีความรุนแรง เว็บไซต์เดอะอิรวดี (The Irrawaddy) รายงานว่า นายออง เนียง อู ประธานคณะทำงานกลางเขตเศรษฐกิจพิเศษเมียนมาเรียกร้องเมื่อวันที่ 2 เมษายนให้เร่งเตรียมการให้แล้วเสร็จสำหรับข้อตกลงสัมปทานและภาคผนวกเรื่องการสร้างท่าเรือน้ำลึกในเขตเศรษฐกิจพิเศษเจ้าผิวก์ (Kyaukphyu) และเมื่อวันที่ 4 เมษายนคณะตัวแทนของซิติก (CITIC) บริษัทลงทุนของทางการจีนได้เข้าพบนายเมียว ถั่นต์ รัฐมนตรีการก่อสร้างของเมียนมาที่กรุงเนปิดอว์ เพื่อหารือเรื่องการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในโครงการท่าเรือน้ำลึกที่เขตเศรษฐกิจพิเศษเจ้าผิวก์ รัฐยะไข่ ทางตะวันตกสุดของเมียนมา โครงการนี้จะเปิดทางให้มณฑลยูนนานของจีนที่ไม่มีทางออกทางทะเลมีช่องทางเข้าออกมหาสมุทรอินเดีย และเป็นส่วนหนึ่งของข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางหรือบีอาร์ไอ (BRI) ของจีน กองทัพอาระกันหรือเอเอ (AA) สู้รบกับกองทัพเมียนมามาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 หวังยึดครองรัฐยะไข่ให้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ โดยในขณะนี้ยึดได้แล้วหลายเมือง และเมื่อต้นเดือนมีนาคม เอเอประกาศขอร่วมมือกับนักลงทุนต่างชาติที่ยังดำเนินการอยู่ในรัฐยะไข่ โดยรับปากว่าเรื่องการรับประกันความปลอดภัย และเมื่อวันที่ 1 เมษายน นายเติ้ง สีจุน ทูตพิเศษเรื่องเมียนมาของจีนได้เข้าพบ พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่ายของเมียนมาหารือเรื่องความเป็นไปได้ที่จะมีการหยุดยิงในรัฐยะไข่ เดอะอิรวดีชี้ว่า การที่จีนเริ่มกังวลต่อสถานการณ์ในรัฐยะไข่มากขึ้นเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ไม่ยาก เพราะนอกจากเขตเศรษฐกิจและท่าเรือน้ำลึกแล้ว จีนยังมีท่อส่งน้ำมันและก๊าซที่วางจากเมืองรุ่ยลี่ของจีน ตัดผ่านรัฐฉาน ภาคมัณฑะเลย์ […]

กองทัพจีนฝึกซ้อมด้วยกระสุนจริงที่ชายแดนเมียนมา

ปักกิ่ง 8 เม.ย.- สื่อกองทัพจีนรายงานว่า กองทัพปลดปล่อยประชาชนหรือพีแอลเอ (PLA) ของจีนได้ฝึกซ้อมด้วยกระสุนจริงที่ชายแดนด้านติดกับเมียนมาตามแผนการฝึกซ้อมประจำปีที่จัดเตรียมไว้ เว็บไซต์ไชนามิลิแทรี (China Military) รายงานเมื่อวานนี้ว่า กองบัญชาการภาคใต้ของพีแอลเอได้จัดให้กำลังพลของกองทัพบกและกองทัพอากาศฝึกซ้อมร่วมทางทหารด้วยการยิงกระสุนจริงในฝั่งจีนด้านติดกับชายแดนเมียนมามาตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน ตามแผนการฝึกซ้อมประจำปีที่เตรียมไว้ รายงานอ้างผู้บัญชาการในพื้นที่ว่า การฝึกซ้อมจะมุ่งเน้นไปที่ศักยภาพการสู้รบในการระดมกำลังพลอย่างรวดเร็ว การทำลายอย่างแม่นยำ การปิดล้อมและควบคุมในหลายมิติ และการโจมตีร่วม.-814.-สำนักข่าวไทย

เมียนมาใกล้เสียเมืองเมียวดี ให้กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นยู

เมืองเมียวดีของเมียนมา ฝั่งตรงข้ามชายแดนไทยใกล้แตก ล่าสุด กองกำลังกะเหรี่ยงและฝ่ายต่อต้าน สามารถบุกยึดกองบังคับการยุทธวิธีของทหารเมียนมาได้แล้ว ยึดอาวุธปืนใหญ่ ปืนประจำกายหลายร้อยกระบอก ทหารเมียนมาในพื้นที่จำนวนมากยอมแพ้

ผ่อนผันแรงงาน 3 สัญชาติ กลับบ้านฉลองสงกรานต์-ดูแลทุกคนเท่าเทียม

ผ่อนผันแรงงาน 3 สัญชาติ กลับบ้านฉลองสงกรานต์ ด้าน ก.แรงงาน ย้ำดูแลทุกคนเท่าเทียม ไม่แบ่งแยก ภายใต้หลักกฎหมาย

ฐานทัพในนครหลวงของเมียนมาถูกโจมตีด้วยโดรน

รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ หรือ เอ็นยูจี ซึ่งเป็นรัฐบาลเงาของเมียนมากล่าวว่า ฐานทัพของกองทัพเมียนมาในกรุงเนปยีดอ ถูกโจมตีด้วยโดรนในวันนี้

แรงงาน 3 สัญชาติ กลับบ้านเที่ยวสงกรานต์ฟรี ไม่มีค่า Re-entry

สงกรานต์นี้ กระทรวงแรงงาน เผยแรงงาน 3 สัญชาติ กัมพูชา ลาว เมียนมา กลับบ้านร่วมเทศกาล 1 เม.ย.-15 พ.ค.67 ฟรี ไม่มีค่า Re-entry

กาชาดไทยส่งความช่วยเหลือเมียนมา

แม่สอด 26 มี.ค.- สภากาชาดไทยส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนเมียนมา ภายใต้ข้อริเริ่มการยกระดับการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนเมียนมาตามแนวพรมแดน สภากาชาดไทยได้ส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนเมียนมาผ่านสภากาชาดเมียนมา บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยส่งมอบถุงยังชีพจำนวน 4,000 ถุง ซึ่งบรรจุข้าวสาร อาหารแห้ง และของอุปโภคบริโภคอื่นๆ เพียงพอสำหรับชาวเมียนมา 20,000 คน การส่งมอบความช่วยเหลือนี้เป็นความร่วมมือทวิภาคีระหว่างสองชาติ เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนเมียนมาที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบในประเทศ ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดของเมียนมา และเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานตามฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน โดยได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกอาเซียนทั้งหมดในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ในขั้นตอนต่อไป หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในไทย จะหารือกับฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับแนวทางยกระดับการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวเมียนมาที่ได้รับผลกระทบมากขึ้นจากสถานการณ์ความไม่สงบและการสู้รบ โดยเฉพาะในพื้นที่แถบพรมแดนไทย-เมียนมาต่อไป ก่อนหน้านี้ สหประชาชาติประเมินว่า มีพลเรือนในเมียนมากว่า 2.6 ล้านคน ได้รับความเดือดร้อนไร้ที่อยู่อาศัยจากการสู้รบที่เกิดขึ้นในเมียนมา และชาวบ้านอีกกว่า 18 ล้านคนทั่วประเทศต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน.-815(814).-สำนักข่าวไทย

ผู้นำเมียนมาเผยเลือกตั้งครั้งหน้าอาจไม่ทั่วประเทศ

เนปิดอว์ 25 มี.ค.- พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาเผยว่า มีแผนจะจัดการเลือกตั้งเมื่อประเทศมีสันติภาพและเสถียรภาพ แต่อาจไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ทั่วประเทศ สื่อทางการเมียนมาเผยแพร่เนื้อหาบางส่วนที่ พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่ายให้สัมภาษณ์สำนักข่าวทาสส์ของทางการรัสเซียว่า กองทัพเมียนมาที่รัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ยังคงมีแผนการจะนำประเทศกลับไปสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยกล่าวว่า หากประเทศมีสันติภาพและเสถียรภาพ กองทัพก็มีแผนจะจัดการเลือกตั้งในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องให้ได้มากที่สุด แม้ว่าอาจจะไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ทั่วประเทศตามกฎหมาย รัฐบาลทหารเมียนมาได้ขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทุก 6 เดือนนับตั้งแต่รัฐประหาร โดยอ้างว่าจำเป็นต้องทำให้ประเทศมีเสถียรภาพและกวาดล้างฝ่ายต่อต้านที่รัฐบาลระบุว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ขณะที่สหประชาชาติเผยว่า เมียนมาได้ยิงปืนใหญ่และส่งเครื่องบินขับไล่ไปโจมตีกลุ่มติดอาวุธที่เป็นพันธมิตรกับรัฐบาลเงาและกลุ่มชาติพันธุ์ ทำให้ประชาชนมากกว่า 2 ล้าน 3 แสนคนต้องกลายเป็นคนพลัดถิ่น ด้านชาติตะวันตกชี้ว่า การเลือกตั้งของเมียนมาจะเป็นเพียงการแสดงตบตา เพราะมีพรรคการเมืองถูกยุบไปแล้วมากกว่า 40 พรรคนับตั้งแต่รัฐประหาร และมีระเบียบข้อห้ามมากมายที่ทำให้ยากจะมีพรรคการเมืองขึ้นมาท้าทายพรรคตัวแทนของกองทัพได้.-814.-สำนักข่าวไทย

ส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้เมียนมา

ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศ เป็นสักขีพยานในการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้เมียนมา ที่สะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 อ.แม่สอด จ.ตาก หวังสร้างบรรยากาศที่ดีนำทุกฝ่ายในเมียนมา กลับสู่โต๊ะเจรจา

รมว. ต่างประเทศอังกฤษหวังไทยซื้อ “กริพเพน” เพิ่ม

นครราชสีมา 20 มี.ค.- นายเดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษแสดงความหวังระหว่างเยือนไทยว่า ไทยจะเพิ่มการสั่งซื้อเครื่องบินขับไล่กริพเพน (Gripen) ที่บริษัทอากาศยานสวิตเซอร์แลนด์สร้างขึ้นร่วมกับบริษัทอังกฤษ นายคาเมรอน อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ วัย 57 ปี อยู่ระหว่างการตรวจเครื่องบินกริพเพนที่จังหวัดนครราชสีมา เป็นเครื่องบินที่บริษัทซาบ (SAAB) ของสวิตเซอร์สร้างขึ้นร่วมกับบริษัทของอังกฤษ เขาแสดงความหวังว่า ไทยจะเพิ่มการสั่งซื้อเครื่องบินขับไล่รุ่นนี้ ซึ่งจะทำให้มีเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอังกฤษประมาณ 400 ล้านปอนด์ (ราว 18,380 ล้านบาท) และเผยว่าจะมีลงนามความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างอังกฤษกับไทย เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นสู่ระดับใหม่ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษถือโอกาสนี้กล่าวถึงสงครามในกาซาว่า จำเป็นต้องมีการพักรบเพื่อให้สามารถปล่อยตัวประกัน และพยายามเปลี่ยนการพักรบให้เป็นการหยุดยิง ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อสามารถขจัดแกนนำฮามาสออกจากกาซาและรื้อถอนโครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มก่อการร้าย ส่วนสถานการณ์ความขัดแย้งในเมียนมา เขามองว่า เป็นสงครามกลางเมืองหลายแง่มุมที่รัฐบาลเผชิญกับศีกหลายด้าน อดีตเจ้าอาณานิคมอย่างอังกฤษ อาเซียนและหลายประเทศจำเป็นต้องช่วยกันยุติความขัดแย้งนี้.-814.-สำนักข่าวไทย

1 8 9 10 11 12 127
...