อดีตนายกฯ หญิงนิวซีแลนด์จะไปประชุมใหญ่พรรคเดโมแครต

เวลลิงตัน 19 ส.ค. – นางจาซินดา อาร์เดิร์น อดีตนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ จะไปร่วมการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตของสหรัฐที่จะเปิดฉากขึ้นที่เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โฆษกส่วนตัวของอาร์เดิร์นส่งอีเมลยืนยันกระแสข่าวก่อนหน้านี้เรื่องนางอาร์เดิร์นจะไปเข้าร่วมการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 สิงหาคม นอกจากนี้ยังจะเข้าร่วมการประชุมนอกรอบของการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตด้วย การประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตจะเป็นการเฉิลมฉลองการเสนอชื่อนางคอมมาลา แฮร์ริส เป็นตัวแทนพรรคอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะมีคนจำนวนมากเดินทางมายังเมืองชิคาโก เพื่อแสดงการสนับสนุนเธอ   สำหรับประวัติของนางอาร์เดิร์น วัย 44 ปี เธอรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์คนที่ 40 ในปี 2560 นับเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 3 ของประเทศ อาร์เดิร์นเป็นที่จับตาในระดับโลกนับตั้งแต่นำบุตรสาววัย 3 เดือนไปเข้าร่วมการประชุมใหญ่สหประชาชาติในปี 2561 เธอสวมฮิญาบเพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับชุมชนมุสลิม หลังเกิดเหตุสังหารหมู่ชาวมุสลิมที่เมืองไครสต์เชิร์ชในปี 2562 และประสบความสำเร็จในเบื้องต้นในการรับมือกับโรคโควิด-19 ระบาด เธอประกาศลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนมกราคม 2566 โดยให้เหตุผลว่า หมดพลังแล้ว จากนั้นก็ไม่ปรากฏตัวต่อสื่อเท่าใดนัก.-814.-สำนักข่าวไทย

“แฮร์ริส” ยืนยันไม่แทรกแซงเฟดถ้าได้เป็น ปธน.สหรัฐ

แอริโซนา 11 ส.ค. – รองประธานาธิบดีคอมมาลา แฮร์ริส ของสหรัฐ ย้ำว่า จะไม่แทรกแซงการตัดสินใจของธนาคารกลางของสหรัฐ หรือเฟด (Fed) หากเธอชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี วันที่ 5 พฤศจิกายน นางแฮร์ริส ซึ่งได้รับการเสนอชื่ออย่างเป็นทางการให้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมตามเวลาท้องถิ่น เผยกับสื่อระหว่างหาเสียงที่เมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนาเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า เฟดเป็นสถาบันอิสระ และในฐานะประธานาธิบดีเธอจะไม่มีทางแทรกแซงการตัดสินใจของเฟดอย่างแน่นอน จุดยืนของนางแฮร์ริสแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีและตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่ย้ำระหว่างให้สัมภาษณ์สื่อที่บ้านพักมาร์อะลาโกของเขาในรัฐฟลอริดาเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า ประธานาธิบดีสหรัฐควรมีสิทธิมีเสียงในการตัดสินใจของเฟด ประธานเฟดคนปัจจุบัน คือ นายเจอโรม พาวเวล วัย 71 ปี ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมัยแรกเมื่อปลายปี 2560 โดยทรัมป์ที่เป็นประธานาธิบดีในขณะนั้น และได้รับแต่งตั้งอีกสมัยเมื่อต้นปี 2565 โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน และมีกำหนดครบวาระดำรงตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม 2569.-814.-สำนักข่าวไทย

“แฮร์ริส” ขึ้นเวทีหาเสียงกับผู้สมัครคู่เป็นครั้งแรก

เพนซิลเวเนีย 7 ส.ค.- นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ขึ้นเวทีหาเสียงเป็นครั้งแรกร่วมกับนายทิม วอลซ์ ที่เธอเพิ่งเลือกให้เป็นคู่ชิงเลือกตั้งในตำแหน่งรองประธานาธิบดี นางแฮร์ริส วัย 59 ปี และนายวอลซ์ วัย 60 ปี ขึ้นเวทีหาเสียงร่วมกันที่รัฐเพนซิลเวเนีย เปิดฉากการตระเวนหาเสียงในรัฐสมรภูมิหลายรัฐ หวังเปิดตัวนายวอลซ์ให้เป็นที่รู้จักในระดับประเทศ นายวอลซ์แนะนำตัวเองว่า เติบโตในเมืองเล็ก ๆ ในรัฐรัฐเนแบรสกา รับใช้ชาติในกองกำลังพิทักษ์แห่งชาติเป็นเวลานาน 24 ปี เป็นครูสอนสังคมในโรงเรียนมัธยมศึกษา และเป็นโค้ชฟุตบอล ทั้งคู่ประกาศว่า พร้อมที่จะรักษาทำเนียบขาวและสกัดกั้นนายโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ให้ได้เป็นประธานาธิบดีอีกสมัย นายวอลซ์ ปัจจุบันเป็นผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา มีประสบการณ์มากมายในการทำธุรกิจและในกองทัพ เขาเริ่มงานการเมืองด้วยการเป็น ส.ส. นาน 12 ปี จากนั้นจึงได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐมินนิโซตามาแล้ว 2 สมัย ด้วยการผลักดันนโยบายก้าวหน้าหลายด้าน เช่น อาหารกลางวันนักเรียนฟรี กำหนดเป้าหมายสู้โลกร้อน และลดภาษีเพิ่มสวัสดิการให้คนชั้นกลาง ด้านทีมหาเสียงของทรัมป์โจมตีนายวอลซ์ทันทีว่า มีแนวคิดเสรีนิยมเหมือนนางแฮร์ริส ซึ่งเป็นแนวคิดที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของชาวอเมริกันส่วนใหญ่.-812(814).-สำนักข่าวไทย

“แฮร์ริส” จะเปิดตัวผู้สมัครคู่ชิงรอง ปธน.สหรัฐ

ฟิลาเดลเฟีย 31 ม.ค. – แหล่งข่าวเผยว่า นางคอมมาลา แฮร์ริส ผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ จะเปิดตัวผู้สมัครคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐ และปราศรัยหาเสียงร่วมกันเป็นครั้งแรกที่รัฐเพนซิลเวเนีย ในวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น การตัดสินใจเลือกผู้สมัครคู่กับนางแฮร์ริสกลายเป็นจุดสนใจ นับตั้งแต่ที่เธอเป็นตัวเต็งที่จะได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 5 พฤศจิกายน หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศสละสิทธิและสนับสนุนเธอ สำหรับรายชื่อผู้ที่อยู่ในการพิจารณาเป็นผู้สมัครคู่กับแฮร์ริส วัย 59 ปี ได้แก่ นายจอช ชาปิโร ผู้ว่าการรัฐเพนซิลเวเนีย วัย 51 ปี, นายแอนดี บะเชียร์ ผู้ว่าการรัฐเคนทักกี วัย 46 ปี, สว. มาร์ก เคลลี รัฐแอริโซนา วัย 60 ปี, นายทิม วอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา วัย 60 ปี และนายพีต บูทิเจจ รัฐมนตรีคมนาคม วัย 42 ปี การเลือกปราศรัยหาเสียงกับผู้สมัครคู่เป็นครั้งแรกที่รัฐเพนซิลเวเนียทำให้นายชาปิโร […]

“ทรัมป์” หาเสียงโจมตี “แฮร์ริส” ชุดใหญ่

มินนิโซตา 28 ก.ค.- โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีและตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐหาเสียงโจมตีรองประธานาธิบดีคอมมาลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ทั้งที่เคยเรียกร้องเรื่องความเป็นเอกภาพในประเทศ หลังรอดชีวิตจากความพยายามลอบสังหาร ทรัมป์ วัย 78 ปี หาเสียงที่เมืองเซนต์คลาวด์ รัฐมินนิโซตาเมื่อวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ เริ่มด้วยการประณามเหตุยิงขีปนาวุธคร่าชีวิตเด็ก ๆ ที่สนามฟุตบอลในที่ราบสูงโกลัน ซึ่งเป็นดินแดนยึดครองของอิสราเอล ทรัมป์ระบุว่า เป็นฝีมือของฮิซบอลเลาะห์ และเกิดขึ้นในที่ราบสูงโกลันที่เขาให้การรับรองในสมัยที่เป็นรัฐบาลว่าเป็นดินแดนของอิสราเอล เหตุโจมตีนี้จะถูกจารึกในประวัติศาสตร์ว่า เกิดจากประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีที่อ่อนแอและไร้ฝีมือของสหรัฐ สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นหากเขายังคงเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ จากนั้นทรัมป์ได้หาเสียงโจมตีแฮร์ริสว่า เป็นพวกบ้าคลั่งที่เป็นฝ่ายซ้ายหัวรุนแรง เรื่องใหญ่ของเธอมีเรื่องเดียวคือ ยุบกองกำลังตำรวจ หากคอมมาลา แฮร์ริสได้เป็นประธานาธิบดี นั่นหมายถึงอีก 4 ปีของกระแสสุดโต่ง ความอ่อนแอ ความล้มเหลว ความโกลาหล และสงครามโลกครั้งที่ 3 ที่อาจจะเกิดขึ้น ทรัมป์กล่าวหาพรรคเดโมแครตว่า เป็นพวกหัวรุนแรง ขี้โกง โกงการเลือกตั้งครั้งก่อน และจะโกงการเลือกตั้งครั้งนี้ พร้อมกับปิดท้ายการปราศรัยหาเสียงว่า เขาจะทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ต่อมานายเจ ดี แวนซ์ ผู้สมัครคู่ชิงรองประธานาธิบดีของทรัมป์ปราศรัยโจมตีแฮร์ริสว่า สงสัยในความจงรักภักดีต่อประเทศชาติของเขา ทั้งที่เขาเคยรับราชการในหน่วยนาวิกโยธิน เคยไปรบที่อิรัก […]

“แฮร์ริส” หาเสียงครั้งแรก หลัง “ไบเดน” ถอนตัว

วิสคอนซิน 24 ก.ค.- นางคอมมาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐเริ่มการหาเสียงเป็นครั้งแรก ด้วยการสร้างความเชื่อมั่นว่า เธอเป็นมือกฎหมายที่จะมาปราบนาย โดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเดือนพฤศจิกายนนี้ นางแฮร์ริส ได้ปราศัยหาเสียงเป็นครั้งแรก หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนประกาศถอนตัวและสนับสนุนให้เธอเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยเลือกไปเปิดเวทีที่รัฐวิสคอนซิน ที่ซึ่งพรรครีพับลิกันเพิ่งจัดการประชุมใหญ่และประกาศอย่างเป็นทางการให้ทรัมป์ เป็นตัวแทนพรรคชิงทำเนียบขาวเมื่อสัปดาห์ก่อน ใจความหลักของคำปราศัยที่นางแฮร์ริสใช้ในการต่อสู้กับทรัมป์ มาจากประสบการณ์ทำงานในตำแหน่งอัยการของเธอ โดยได้เปรียบเทียบว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นต่อสู้ระหว่างผู้รักษากฎหมายกับอาชญากรผู้ต้องคำพิพากษาคดีอาญา เนื่องจากทรัมป์ เป็นอดีตประธานาธิบดีคนแรกและคนเดียวที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดคดีอาญา จากกรณีจ่ายเงินเปิดปากนักแสดงภาพยนตร์ผู้ใหญ่ แล้วยังมีคดีอาญาอีก 3 คดีที่อยู่ในกระบวนการฟ้องร้อง นางแฮร์ริสกล่าวว่า เธอเป็นผู้คุ้มกฎหมายที่ต่อสู้กับคนร้ายทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นคนล่วงละเมิดทางเพศ คนคดโกง หรือ ผู้หลอกลวงเพื่อประโยชน์ตัวเอง ทั้งนี้นับตั้งแต่นางแฮร์ริสได้กลายเป็นตัวแทนพรรคอย่างไม่เป็นทางการ กระแสตอบรับและคะแนนนิยมดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากยอดเงินบริจาคที่เพิ่มสูง โดยได้รับบริจาคเพิ่มกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 3,600 ล้านบาท)  ในเวลาเพียงเวลาแค่ 1 วันครี่ง ขณะที่ผลการสำรวจของรอยเตอร์พบว่า เธอมีคะแนนนำทรัมป์เล็กน้อยร้อยละ 44 ต่อ 42  ด้านทรัมป์ได้กล่าวโจมตีนางแฮร์ริสว่า เป็นคนพูดปดที่มีแนวคิดซ้ายจัด ซึ่งจะทำลายชาติบ้านเมือง แต่เขาเชื่อว่าจะสามารถเอาชนะแฮร์ริสได้ง่ายกว่าไบเดน ส่วนสมาชิกรีพับลิกันและทีมหาเสียงของทรัมป์มุ่งโจมตีแฮร์ริสว่า ผลงานย่ำแย่เรื่องอาชญากรรม […]

TNA News-Now-next: ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 เกมนี้มีพลิก

วอชิงตัน 23 ก.ค.- การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2024 รูดม่านเปิดเวทีเมื่อต้นปี แบบที่ผู้สนใจการเมืองสหรัฐติดตามอย่างไม่มีลุ้นเท่าใดนัก เพราะตัวเต็งคู่แข่ง คือ คู่ปรับหน้าเดิม ระหว่างโจ ไบเดน ค่ายสีน้ำเงินจากพรรคเดโมแครต กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ค่ายสีแดงจากพรรครีพับลิกัน แต่หลังจากผ่านพ้นไปครึ่งปี ใครจะคิดว่า เกมพลิก เกิดปัจจัยไม่คาดคิด เขย่าการแข่งขันให้สั่นไหวเป็นข่าวใหญ่ระดับโลกติดต่อกันหลายระลอก ศึกนัดล้างตาของ 2 ผู้เฒ่า ศึกครั้งนี้จะเป็นศึกนัดล้างตาของไบเดน วัย 81 ปี กับทรัมป์ วัย 78 ปี หลังจากที่ทรัมป์พ่ายแพ้ให้แก่ไบเดนในการเลือกตั้งปี 2020 โดยที่เจ้าตัวยังคงไม่ยอมรับชัยชนะของไบเดน และยืนยันมาจนถึงทุกวันนี้ว่า ตนเองถูกโกงคะแนน ปีนี้ทั้งคู่เดินหน้าเก็บชัยชนะในการเลือกตั้งขั้นต้นเพื่อเป็นตัวแทนพรรคตามรัฐต่าง ๆ ที่ทั้ง 2 พรรคเริ่มมาตั้งแต่กลางเดือนมกราคม และเสร็จสิ้นลงในต้นเดือนมิถุนายน เป็นที่คาดหมายว่า ต่างฝ่ายต่างจะได้เป็นตัวแทนพรรคสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ ไบเดนและทรัมป์หยิบยกจุดอ่อนของอีกฝ่ายมาโจมตีกันตลอดการหาเสียง ไบเดนสูงวัยกว่าทรัมป์ แต่ดูมีภาษีดีกว่า จากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวได้ดี ดัชนีตลาดหุ้นทำนิวไฮครั้งแล้วครั้งเล่า ขณะที่ทรัมป์มีคดีอาญาติดตัวมากถึง 4 […]

“แฮร์ริส” มีคะแนนเกินเกณฑ์ที่เดโมแครตจะเสนอชื่อแล้ว

เดลาแวร์ 23 ก.ค. – แหล่งข่าวการหาเสียงเลือกตั้งของพรรคเดโมแครตเผยว่า รองประธานาธิบดีคอมมาลา แฮร์ริส มีคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง หรือเดลิเกต (delegate) เกินเกณฑ์ที่จะต้องมีเพื่อให้ได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐแล้ว รอยเตอร์อ้างการตรวจนับของสำนักข่าวเอพี (AP) ว่า แฮร์ริสมีคะแนนเดลิเกต 2,214 คะแนน เกินจากที่ต้องได้อย่างน้อย 1,975 คะแนน จากเดลิเกตทั้งหมด 3,949 คะแนน จึงจะได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคลงเลือกตั้งประธานาธิบดี ในการประชุมใหญ่พรรคที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 สิงหาคมที่เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ อย่างไรก็ดี เอพีระบุว่า การตรวจนับดังกล่าวเป็นการสำรวจที่ไม่ใช่ผลอย่างเป็นทางการ เนื่องจากเดลิเกตของพรรคเดโมแครตมีอิสระในการลงคะแนนเลือกผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรค ด้านนางแฮร์ริสกล่าวกับทีมงานสำนักงานหาเสียงหลักของพรรคเดโมแครตที่เมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์เมื่อวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐว่า เธอมีความมุ่งมั่นที่จะต้องได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรค ดังนั้นจึงจะใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่อีก 106 วัน ทำทุกอย่างที่สามารถทำได้ร่วมกับทีมหาเสียง เพื่อให้พรรคเป็นหนึ่งเดียว และประเทศเป็นหนึ่งเดียว.-814.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำโลกแสดงท่าทีเรื่อง “ไบเดน” ถอนตัวชิง ปธน.อีกสมัย

วอชิงตัน 22 ก.ค.- ผู้นำหลายประเทศแสดงความเห็นและท่าที หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐประกาศยุติการหาเสียงเลือกตั้ง และถอนตัวจากการเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย ผู้นำประเทศตะวันตกที่ส่วนใหญ่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐ เช่น อังกฤษ แคนาดา เยอรมนี สเปน นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย ยกย่องไบเดนที่แสดงความเป็นผู้นำในช่วงที่ผ่านมา และเคารพการตัดสินใจถอนตัวของเขา ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนขอบคุณไบเดนที่สนับสนุนการต่อสู้เพื่อเสรีภาพของยูเครนอย่างไม่หวั่นไหว และมีการตัดสินใจครั้งสำคัญหลายอย่าง ซึ่งจะถูกจดจำว่าเป็นก้าวที่กล้าหาญของประธานาธิบดีไบเดน นายกรัฐมนตรีเบนยามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลยืนยันว่า ไม่ว่าชาวอเมริกันจะเลือกพรรคการเมืองใดในรัฐสภาสหรัฐเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ อิสราเอลจะยังคงเป็นพันธมิตรในตะวันออกกลางที่แข็งแกร่งและขาดไม่ได้ของสหรัฐ เขามีกำหนดเดินทางไปสหรัฐเพื่อพบประธานาธิบดีไบเดน ผู้ที่เขารู้จักมานานกว่า 40 ปี จึงจะถือโอกาสนี้ขอบคุณในสิ่งที่ไบเดนได้ทำให้แก่อิสราเอลในฐานะสมาชิกวุฒิสภา รองประธานาธิบดี และประธานาธิบดี ด้านประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโรของเวเนซุเอลามองว่า ไบเดนตัดสินใจได้สมเหตุสมผลและถูกต้องที่สุด ไบเดนให้ความสำคัญกับสุขภาพและครอบครัว หลังจากตระหนักว่า อายุขนาดนั้นและสุขภาพที่อ่อนแอทำให้ไม่สามารถปกครองประเทศได้แล้ว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องชิงตำแหน่งประธานาธิบดี โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียแสดงความเห็นว่า ยังเหลือเวลาอีก 4 เดือนกว่าจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เป็นช่วงเวลานานพอสมควรที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้มากมาย รัสเซียจึงต้องใจเย็นและติดตามอย่างรอบคอบ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดของรัสเซียในเวลานี้ คือ ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร ซึ่งเป็นคำที่รัสเซียใช้หมายถึง สงครามในยูเครน ส่วนโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนไม่ขอแสดงความเห็นในเรื่องนี้ โดยให้เหตุผลว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นเรื่องภายในของสหรัฐ.-814.-สำนักข่าวไทย

ชื่อ Kamala Harris อ่านว่า คอมมาลา แฮร์ริส

วอชิงตัน 22 ก.ค.- ชื่อของคอมมาลา แฮร์ริส (Kamala Harris) รองประธานาธิบดีสหรัฐกลับมาปรากฏในข่าวอีกครั้ง หลังจากที่เคยสร้างความสงสัยตั้งแต่เมื่อครั้งการเลือกตั้งปี 2563 ว่าชื่อต้นของเธอออกเสียงว่าอย่างไร ทั้งนี้นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนประกาศถอนตัวจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และสนับสนุนให้เธอเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงชัยแทนเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม 2567 ตามเวลาสหรัฐ ชื่อของเธอก็กลายเป็นที่จับตาทันที อย่างไรก็ดี สิ่งที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือ การออกเสียงชื่อต้นที่ถูกต้องของเธอว่า ควรจะเป็นกมลา, คามาลา หรือคอมมาลา ชื่อต้นของแฮร์ริสเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนตั้งแต่เมื่อครั้งที่เธอประกาศตัวในเดือนมกราคม 2562 ขณะดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภารัฐแคลิฟอร์เนียว่า จะสมัครเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีปี 2563 เนื่องจากผู้ประกาศข่าวหลายคนออกเสียงแตกต่างกัน คริส นิโคลส์ ผู้สื่อข่าวของสถานีวิทยุแคปเรดิโอ (Capradio) ในขณะนั้นสืบค้นได้ว่า อ่านว่า คอมมาลา เป็นภาษาสันสฤต เนื่องจากมารดาของเธอเป็นชาวอินเดีย แฮร์ริสชี้แจงเมื่อถูกพิธีกรรายการโทรทัศน์ถามในเรื่องนี้ว่า ชื่อต้นของเธอออกเสียงเหมือนคำว่า “คอมมา” (comma) (เป็นเครื่องหมายจุลภาค ,) แล้วตามด้วยคำว่า “ลา” แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีผู้ประกาศข่าวหลายคนที่ออกเสียงผิด ทำให้เธอต้องออกคลิปสั้นให้เด็ก ๆ มาอ่านออกเสียงที่ถูกต้องว่า คือ “คอมมาลา แฮร์ริส” […]

เผยสาเหตุที่ทำให้ “ไบเดน” ตัดสินใจถอนตัวกะทันหัน

วอชิงตัน 22 ก.ค.- แหล่งข่าวเผยสาเหตุที่ทำให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ตัดสินใจถอนตัวจากการชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 อย่างกะทันหัน หลังจากถูกสมาชิกพรรคเดโมแครตกดดันมาหลายสัปดาห์ แหล่งข่าวเผยว่า หนึ่งวันก่อนหน้านั้นไบเดนยังบอกกับคนสนิทหลายคนว่า จะเดินหน้าหาเสียงเพื่อเอาชนะโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ เป็นการส่งสัญญาณให้เดินหน้าทุกอย่างอย่างเต็มกำลัง แต่หลังจากที่ได้วิเคราะห์ข้อมูลการหยั่งเสียงเมื่อคืนวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ไบเดนได้เปลี่ยนใจ และโทรศัพท์ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสในทำเนียบขาวและทีมหาเสียงเลือกตั้งก่อนเวลา 13:45 น.วันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนประกาศการตัดสินใจต่อสาธารณะเมื่อเวลา 13:46 น. ผ่านการเผยแพร่จดหมายถึงชาวอเมริกันทั้งประเทศ แหล่งข่าวเผยว่า คนสนิทระดับสูงได้นำผลการหยั่งเสียงภายในและข่าวที่น่าตกใจมาแจ้งให้ไบเดนทราบเมื่อคืนวันเสาร์ ระหว่างที่เขากักตัวที่บ้านพักในรัฐเดลาแวร์ ตั้งแต่ตรวจพบว่าติดโควิดเมื่อวันพุธว่า ไบเดนไม่เพียงมีคะแนนตามหลังทรัมป์ในรัฐสมรภูมิหรือสวิงสเตทสำคัญ 6 รัฐที่อาจจะชี้ชะตาผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่ยังเสี่ยงพ่ายแพ้ในรัฐเวอร์จิเนียและรัฐมินนิโซตาที่พรรคเดโมแครตไม่คิดจะทุ่มทรัพยากรหาเสียงด้วย จากนั้นไบเดนเรียกประชุมทีมงานทางโทรศัพท์ และอ่านจดหมายแจ้งถอนตัวให้ฟัง โดยระบุว่า เขาได้ขบคิดเรื่องนี้อย่างหนักตลอด 48 ชั่วโมงก่อนหน้านั้น แหล่งข่าวเผยด้วยว่า ไบเดนได้คุยกับรองประธานาธิบดีคอมมาลา แฮร์ริสหลายครั้งตลอดทั้งวันอาทิตย์ ก่อนประกาศตัดสินใจถอนตัวจากการเลือกตั้ง ไบเดนวัย 81 ปี เผชิญแรงกดดันมาตั้งแต่แสดงให้เห็นถึงความชราภาพในการโต้วาทีแสดงวิสัยทัศน์หรือดีเบตกับทรัมป์ครั้งแรกเมื่อค่ำวันที่ 27 มิถุนายนตามเวลาสหรัฐ.-814.-สำนักข่าวไทย

“แฮร์ริส” เดินหน้าหาเสียงสนับสนุนภายในพรรคเดโมแครต

วอชิงตัน 22 ก.ค.- นางคอมมาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐเริ่มหาเสียงสนับสนุนภายในพรรคเดโมแครต หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศยุติการหาเสียง และเสนอชื่อเธอเป็นตัวแทนพรรคเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่5 พฤศจิกายน แฮร์ริสวัย 59 ปี โพสต์ข้อความที่เป็นแถลงการณ์ลงสื่อสังคมออนไลน์เอ็กซ์ (X) ขอขอบคุณไบเดน ที่ทำงานอุทิศตนเพื่อประเทศมายาวนาน มีผลงานเป็นที่จดจำมากมาย การตัดสินใจถอนตัวของไบเดน เป็นการกระทำที่ไม่เห็นแก่ตัวและรักชาติ เธอรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีไบเดน เธอจะทำทุกอย่างเพื่อสร้างความเป็นเอกภาพในพรรคเดโมแครตและในประเทศ เพื่อเอาชนะนายทรัมป์ ตอนนี้เหลือเวลา 107 วัน จะถึงวันเลือกตั้ง พวกเราจะร่วมใจกันต่อสู้และจะเป็นฝ่ายชนะเลือกตั้ง แหล่งข่าวระบุว่า ทีมหาเสียงและพันธมิตรของแฮร์ริสเริ่มกระบวนการหาเสียงด้วยการโทรศัพท์หลายร้อยสาย ระดมการสนับสนุนจากคณะผู้เลือกตั้ง ก่อนการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตช่วงวันที่19-22 สิงหาคม และจะพยายามสกัดผู้ที่อาจสมัครเป็นคู่แข่ง เธอต้องได้รับการสนับสนุนจากคณะผู้เลือกตั้งของพรรคเดโมแครต 1,969 เสียงขึ้นไปจากทั้งหมด 3,936 เสียง จึงจะได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงตำแหน่งประธานาธิบดี.-810(814).-สำนักข่าวไทย

1 2 3 4 5 6 15
...