แนวโน้มดีอุทัยธานีเริ่มมีฝน หลังทิ้งช่วงนาน ห้วยขาแข้งตกหนักแหล่งต้นน้ำ
ผอ.ชลประทานอุทัยธานีพบแนวโน้มดีต่อภาคเกษตรและอ่างเก็บน้ำ ฝนตกทั่วพื้นที่หลังทิ้งช่วงไปนาน โดยเฉพาะตกหนักแหล่งต้นน้ำป่าห้วยขาแข้ง และสัปดาห์หน้าก็จะเข้าสู่ฤดูฝน
ผอ.ชลประทานอุทัยธานีพบแนวโน้มดีต่อภาคเกษตรและอ่างเก็บน้ำ ฝนตกทั่วพื้นที่หลังทิ้งช่วงไปนาน โดยเฉพาะตกหนักแหล่งต้นน้ำป่าห้วยขาแข้ง และสัปดาห์หน้าก็จะเข้าสู่ฤดูฝน
ผอ.โครงการชลประทานอุทัยธานี เผยอ่างเก็บน้ำหลัก 2 แห่ง และตามแหล่งน้ำในพื้นที่ปีนี้น่าห่วงน้ำกักเก็บโดยรวมแค่ร้อยละ 19 น้อยมากในรอบ 30 ปี ต้องเก็บไว้ใช้อุปโภคบริโภค-รักษาโครงสร้างอ่างฯ-ระบบนิเวศน์ในฤดูแล้ง ส่วนภาคเกษตรแจ้งเตือนเพาะปลูกแล้วก่อนงดปล่อยน้ำ
อุทัยธานี 22 ต.ค.- ผอ.ชลประทานอุทัยธานีเผยฝนตกช่วยเติมอ่างเก็บน้ำหลัก “ทับเสลา-ห้วยขุนแก้ว” เร่งกักเก็บก่อนสิ้นสุดฤดู เตรียมไว้ใช้หน้าแล้งเพื่ออุปโภคบริโภค แนะเกษตรกรลดความเสี่ยง ชะลอทำนาปรัง ปลูกพืชน้ำน้อยแทน นายฐกร กาญจน์จิรเดช ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุทัยธานี เปิดเผยถึงสถานการณ์อ่างเก็บน้ำหลัก 2 แห่งในพื้นที่ว่า ฝนที่ตกบ่อยในระยะนี้ แม้มีน้ำไหลเข้าอย่างต่อเนื่องที่อ่างเก็บน้ำทับเสลา อ.ลานสัก และอ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้ว อ.ห้วยคต แต่เป็นฝนช่วงปลายฤดูแล้วที่จะเข้าสู่ฤดูหนาว ประกอบกับที่ผ่านมาในพื้นที่มีฝนทิ้งช่วงพอสมควร ดังนั้น จึงต้องกักเก็บปริมาณน้ำช่วงนี้ไว้ก่อน เพื่อสำรองไว้ใช้ในฤดูแล้ง โดยเฉพาะน้ำอุปโภคบริโภค เพราะขณะนี้อ่างเก็บน้ำทับเสลา มีปริมาณน้ำกักเก็บร้อยละ 31.49 ของความจุ 160 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถใช้การได้ 33.38 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่อ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้ว มีปริมาณน้ำกักเก็บร้อยละ 45.73 ของความจุ 160 ล้านลูกบาศก์เมตร ใช้การได้ 17.68 ล้านลูกบาศก์เมตร นายฐกร กล่าวด้วยว่า ปริมาณน้ำดังกล่าวนอกจากเก็บไว้เพื่ออุปโภคบริโภคแล้ว ยังเป็นการรักษาความสมดุลโครงสร้างของอ่างเก็บน้ำ และรักษาระบบนิเวศน์ จึงยังไม่มีการระบายน้ำในพื้นที่การเกษตร พร้อมกันนี้ต้องขอความร่วมมือเกษตรกรชะลอการทำนาปรัง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดกับผลผลิต โดยควรปลูกพืชทดแทนที่มีความเหมาะสมและใช้น้ำน้อย เช่น […]
อุทัยธานี 13 ส.ค.- อุทัยธานีฝนตกไม่ทั่ว แหล่งต้นน้ำป่าห้วยขาแข้งฝนน้อย ชลประทานจังหวัดร้องขอฝนหลวงเติมอ่างเก็บน้ำทับเสลา คุมปริมาณกักเก็บ และยังต้องพร่องน้ำช่วยนาข้าวอีก 5 อำเภอ นายฐกร กาญจน์จิรเดช ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุทัยธานี เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำว่า แม้ในพื้นที่มีฝนตก แต่ไม่ครอบคลุมทั้งจังหวัด โดยเฉพาะในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เป็นแหล่งต้นน้ำในการกักเก็บน้ำของอ่างเก็บน้ำทับเสลาเพื่อการเกษตร กรมชลประทาน ล่าสุดมีปริมาณน้ำเพียง 54.89 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 34.31 ของความจุ 160 ล้านลูกบาศก์เมตร และเหลือใช้การได้ร้อยละ 26.49 อีกทั้งปัจจุบันยังต้องระบายน้ำช่วยนาข้าวกำลังออกรวงนับหมื่นไร่ของเกษตรกร 5 อำเภอ เนื่องจากฝนทิ้งช่วง ทำให้น้ำไม่เพียงพอหล่อเลี้ยงนาข้าว โดยมีการระบายน้ำออกวันละ 2.30 ล้านลูกบาศก์เมตร มาตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา จนกว่าจะครบตามจำนวนที่มีมติการปล่อยน้ำในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ดังกล่าว โครงการชลประทานจังหวัดอุทัยธานีได้ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง (นครสวรรค์ ) เพื่อช่วยเหลือทำฝนเทียมเติมน้ำในอ่างเก็บน้ำทับเสลาและให้เกิดฝนตกในพื้นที่การเกษตร.-สำนักข่าวไทย
อุทัยธานี 4 ส.ค.- ชลประทานอุทัยธานีระบายน้ำอ่างเก็บน้ำทับเสลา หลังเกษตรกรร้องขอช่วยนาข้าวนับหมื่นไร่ 5 อำเภอ จากฝนทิ้งช่วง นายฐกร กาญจน์จิรเดช ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุทัยธานี ให้สัมภาษณ์เช้านี้ (4 ส.ค.) ว่า ภายหลังได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากชาวนาหลายอำเภอ คือ อำเภอเมือง ทัพทัน ลานสัก หนองขาหย่าง และหนองฉาง ทั้งในเขตและนอกเขตชลประทานที่มีพื้นที่เพาะปลูกข้าวและกำลังออกรวงหลายหมื่นไร่เริ่มขาดน้ำจากภาวะฝนทิ้งช่วง จึงได้ประชุมคณะกรรมการบริหารจัดน้ำร่วมกับกลุ่มตัวแทนผู้ใช้น้ำในเขตชลประทาน และได้มีมติให้ปล่อยน้ำ เพื่อช่วยเหลือการเกษตรทั้ง 5 อำเภอดังกล่าว โดยเริ่มระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำทับเสลา ตำบลระบำ อำเภอลานสัก ตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา และจะระบายน้ำในครั้งนี้จนครบ 25 ล้านลูกบาศก์เมตร ตามมติที่ประชุม เพื่อช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกข้าวทั้งในเขตและนอกเขตชลประทานดังกล่าว และการระบายน้ำยังเป็นการพร่องน้ำเพื่อรองรับช่วงฤดูฝนด้วยในการกักเก็บน้ำเพื่อการเกษตร นายฐกร กล่าวว่า หลังการระบายน้ำไปช่วยในครั้งนี้ครบจำนวนแล้ว จะเร่งทำความเข้าใจผ่านตัวแทนผู้ใช้น้ำแต่ละพื้นที่ เพื่อแจ้งเตือนเกษตรกรในพื้นที่ 5 อำเภอ เพราะหากจะมีการเพาะปลูกข้าวรอบใหม่จะมีความเสี่ยงต่อภาวะน้ำหลากหรือเกิดความเสียหายได้ ดังนั้น ขอให้วางแผนก่อนการเพาะปลูกให้รอบคอบ.-สำนักข่าวไทย
อุทัยธานี 26 ก.พ.- ผอ.ชป.อุทัยธานีห่วงฤดูแล้งกระทบการเกษตร แม้อ่างเก็บน้ำหลักยังมีน้ำเพียงพอ แต่เพื่อใช้อุปโภคบริโภค แนะเกษตรกรไม่ประมาทวางแผนเพาะปลูกไว้ล่วงหน้า-ลดความเสี่ยง นายฐกร กาญจน์จิรเดช ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุทัยธานี เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำของอ่างเก็บน้ำหลักเพื่อการเกษตร 2 แห่งว่า ล่าสุดอ่างเก็บน้ำทับเสลา อำเภอลานสัก มีปริมาณน้ำ 94.51 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 59.07 ของความจุอ่าง 160 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำใช้การได้ 77.51 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนอ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้ว อำเภอห้วยคต มีปริมาณน้ำ 22.93 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 52.82 ของความจุอ่าง มีน้ำใช้การได้ 20.76 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งที่ผ่านมาได้ปล่อยน้ำช่วยพื้นที่การเกษตรได้อย่างเพียงพอทั้งพื้นที่ในเขตและนอกเขตชลประทาน ไม่มีพื้นที่ใดได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะข้าวนาปีและข้าวนาปรังรอบที่ 1 อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของกรมชลประทานและรัฐบาลที่ต้องใช้น้ำประหยัดและรู้คุณค่า ซึ่งปริมาณน้ำที่เหลือจะกักเก็บไว้เพื่อการอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศน์ รวมทั้งรักษาความมั่นคงแข็งแรงของอ่างเก็บน้ำ โครงการชลประทานอุทัยธานีจึงขอความร่วมมือจากเกษตรกรวางแผนการเพาะปลูกไว้แต่เนิ่น ๆ หากไม่มั่นใจว่าแหล่งน้ำเพียงพอหรือไม่ ควรชะลอทำนาปรังรอบ 2 เพราะความแห้งแล้งมีความเสี่ยงต่อการเพาะปลูกทำให้เสียหายได้.-สำนักข่าวไทย
อุทัยธานี 6 ส.ค.- ผอ.ชลประทานอุทัยธานีแจงระบายน้ำ 2 อ่างเก็บน้ำหลักในอำเภอห้วยคตและลานสัก เพื่อรักษาสมดุล-รองรับฝนชุก ก.ย. ป้องกันน้ำท่วม นายฐกร กาญจน์จิรเดช ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุทัยธานี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นฤดูฝนเป็นต้นมา โดยเฉพาะในป่าห้วยขาแข้งเป็นแหล่งต้นน้ำ ซึ่งน้ำจะไหลลงอ่างเก็บน้ำหลักเพื่อการเกษตรทั้ง 2 แห่ง ประกอบด้วยอ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้ว ตำบลทองหลาง อำเภอห้วยคต และอ่างเก็บน้ำทับเสลา ตำบลระบำ อำเภอลานสัก ดังนั้น เพื่อป้องกันปัญหาการเกิดอุทกภัยพื้นที่ตอนท้ายของอ่างเก็บน้ำทั้ง 2 แห่ง จึงจำเป็นต้องระบายออกอย่างเป็นระบบ เพื่อรักษาเกณฑ์ระดับการกักเก็บน้ำและความมั่นคงแข็งแรงของอ่างเก็บน้ำ เนื่องจากมีการคาดการณ์และประมวลกับสถิติของทุกปีที่ผ่านมาจะมีฝนตกหนักอีกระลอกในช่วงเดือนกันยายน นายฐกร อธิบายว่า หากไม่ระบายน้ำออกในระยะนี้ เมื่อเกิดฝนตกหนักตามที่คาดการณ์ อ่างเก็บน้ำจะรับไม่ไหวและล้น ทำให้ต้องมีการระบายน้ำออกไปในครั้งละปริมาณมากก็จะส่งผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่ตอนล่างเกิดน้ำท่วมตามมา อย่างไรก็ตาม นายฐกร กล่าวว่า การระบายน้ำนั้น ได้มีหนังสือแจ้งเตือนไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ทั่วทุกอำเภอที่ได้รับการถ่ายโอนโครงการบำรุงรักษาชลประทานขนาดเล็ก หรืออ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก ให้ระบายน้ำออกและอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถรองรับน้ำในระยะต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบถึงความเสียหายทั้งปัญหาการเกิดอุทกภัย และความมั่นคงแข็งแรงของอ่างเก็บน้ำทั้งหมด เพราะขณะนี้ทุกอ่างเก็บน้ำมีปริมาณน้ำกักเกินเกินร้อยละ 80.-สำนักข่าวไทย
อุทัยธานี 30 พ.ค.- ผอ.โครงการชลประทานยืนยันอ่างเก็บน้ำหลักยังแข็งแรง แม้ตลอด 2 สัปดาห์ฝนกระหน่ำหนัก น้ำไหลเข้าเพิ่ม ชี้ไม่น่าห่วงยังรับน้ำได้อีกมาก นายฐกร กาญจน์จิรเดช ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุทัยธานี พร้อมนายช่างวิศกรรม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้ว ต.ทองหลาง อ.ห้วยคต หลังจากมีฝนตกมาตลอดกว่า 2 สัปดาห์ จากการตรวจสอบสภาพอาคาร ระบบการส่งน้ำ และความแข็งแรงของอ่างเก็บน้ำอยู่ในสภาพปกติ มั่นคงแข็งแรงดี นายฐกร กล่าวว่า ฝนที่ตกต่อเนื่องเป็นผลดี ทำให้อ่างเก็บน้ำมีปริมาณน้ำเพิ่มมากกว่าปีที่ผ่านมาเกือบ 2 เท่าตัว ล่าสุดมีปริมาณน้ำ 17.50 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 40.31 ลบ.ม. ของความจุอ่าง 43 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถใช้การได้ 15.33 ล้านลูกบาศก์เมตร เทียบปีที่ผ่านมาช่วงเดียวกันนี้มีน้ำเพียง 5 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 11 และมีน้ำใช้การได้เพียง 3 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น ส่วนอ่างเก็บน้ำทับเสลา ต.ระบำ อ.ลานสัก มีน้ำไหลเข้าและน้ำกักเก็บมากขึ้น ขณะนี้อยู่ที่ 94.92 […]
อุทัยธานี 29 มี.ค.- ชป.อุทัยธานีเผยอิทธิพลพายุฤดูร้อนส่งผลดี 2 อ่างเก็บน้ำหลัก มีปริมาณน้ำกักเก็บเพิ่มกว่าปีที่แล้วกว่าเท่าตัว เพียงพออุปโภคบริโภคแน่นอน ส่วนนาปรังต้องควบคุม ชี้ยังเสี่ยงอยู่ นายฐกร กาญจน์จิรเดช ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุทัยธานี เปิดเผยถึงสถานการณ์อ่างเก็บน้ำหลักของชลประทานทั้ง 2 แห่งว่า ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานั้นเกิดพายุฤดูร้อนหลายพื้นที่ โดยเฉพาะป่าห้วยขาแข้งแหล่งต้นน้ำของอ่างเก็บน้ำทับเสลา อำเภอลานสัก และอ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้ว อำเภอห้วยคต มีปริมาณน้ำไหลเข้าเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมากว่า 1 เท่าตัว โดยอ่างเก็บน้ำทับเสลาเดือน มี.ค.2559 มีปริมาณน้ำกักเก็บ 45.39 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 28.36 และปีนี้มีน้ำอยู่ที่ 85.22 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 53.26 ส่วนอ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้วขณะนี้มีน้ำกักเก็บ 9.09 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 43.98 เทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 6.04 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 13.91 ดังนั้น จึงไม่น่าเป็นห่วงเรื่องน้ำอุปโภคบริโภคและเพียงพอไปถึงก่อนฤดูฝนแน่นอน อย่างไรก็ตาม นายฐกร ย้ำว่า […]