สหรัฐ

จีนยังคงย้ำในท่าทีเดิมในวันนี้ที่จะไม่เรียกการกระทำของรัสเซียต่อยูเครนว่าเป็นการรุกราน หรือกล่าวตำหนิรัฐบาลมอสโกแม้ว่า ทหารรัสเซียจะรุกโจมตีรัสเซียอย่างหนักและทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

ลอนดอน 25 ก.พ. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ได้พยายามใช้วิถีทางการทูตเพื่อต่อต้านการรุกรานยูเครนของรัสเซียมาโดยตลอด เช่น การประกาศเตือนล่วงหน้าหลายครั้งเกี่ยวกับแผนบุกยูเครนของรัสเซีย แต่ก็เน้นย้ำชัดเจนว่า สหรัฐจะไม่ส่งทหารเข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้ ซึ่งทำให้ทั่วโลกตั้งคำถามเกี่ยวกับการตัดสินใจดังกล่าวของผู้นำสหรัฐ บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี ได้วิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ประธานาธิบดีไบเดนตัดสินใจไม่ส่งทหารไปยังยูเครนไว้ 4 ประการ ประการแรก สหรัฐมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในยูเครนไม่มีผลประโยชน์ต่อความมั่นคงของสหรัฐ เนื่องจากยูเครนไม่ได้เป็นประเทศเพื่อนบ้านและไม่มีพรมแดนติดสหรัฐ และสหรัฐเองก็ไม่มีฐานทัพอยู่ในยูเครน นอกจากนี้ ยูเครนยังไม่ใช่ประเทศที่มีรายชื่ออยู่ในแผนน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์และไม่ได้เป็นพันธมิตรทางการค้ารายสำคัญของสหรัฐ ประการที่สอง บีบีซีมองว่า ประธานาธิบดีไบเดนไม่ต้องการใช้อำนาจแทรกแซงทางการทหารและหลีกเลี่ยงการแทรกแซงกิจการภายใน ซึ่งเป็นหลักการที่เขายึดมั่นมาโดยตลอดในเส้นทางนักการเมือง โดยเฉพาะการสนับสนุนคำสั่งถอนกองกำลังทหารสหรัฐออกจากอัฟกานิสถานเมื่อปลายปีก่อน แม้รู้ดีว่าคำสั่งดังกล่าวจะทำให้เกิดความวุ่นวายและวิกฤตทางมนุษยธรรมก็ตาม ประการที่สาม บีบีซีวิเคราะห์ว่าชาวอเมริกันไม่ต้องการทำสงคราม เนื่องจากผลสำรวจความเห็นล่าสุดของสำนักข่าวเอพีและศูนย์วิจัยกิจการสาธารณะ (AP-NORC) ของสหรัฐชี้ว่า ชาวอเมริกันร้อยละ 72 ระบุว่าสหรัฐควรมีบทบาทเพียงเล็กน้อยในสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครน หรือไม่ควรเข้าไปมีส่วนร่วมเลย ทั้งนี้ ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับปัญหาเศรษฐกิจในประเทศมากกว่า โดยเฉพาะปัญหาอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งเป็นประเด็นที่ประธานาธิบดีไบเดนต้องคำนึงถึง ประการสุดท้าย บีบีซีมองว่า สหรัฐไม่ต้องการสร้างอันตรายจากการเผชิญหน้าของชาติมหาอำนาจ เนื่องจากทั้งสหรัฐและรัสเซียถือเป็นสองประเทศมหาอำนาจที่มีหัวรบนิวเคลียร์รวมกันเป็นมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก นอกจากนี้ ประธานาธิบดีไบเดนยังไม่ต้องการทำสงครามโลกที่เสี่ยงต่อการปะทะกันโดยตรงระหว่างกองทหารสหรัฐกับรัสเซียในยูเครน.-สำนักข่าวไทย

ดูไบ 24 ก.พ.- ราคาน้ำมันดิบที่ทะลุบาร์เรลละ 100 ดอลลาร์สหรัฐในวันนี้หลังจากรัสเซียบุกยูเครน ทำให้หลายฝ่ายฝากความหวังไว้ที่ประเทศผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในตะวันออกกลางว่าจะช่วยเพิ่มกำลังผลิตเพื่อดึงราคาให้ลดลง แต่อาจไม่ง่ายอย่างที่คิด คาเรน ยัง จากสถาบันตะวันออกกลางในสหรัฐมองว่า ซาอุดีอาระเบียที่เป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่และกาตาร์ที่เป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติรายใหญ่รู้ว่าโลกกำลังต้องการสินค้าของตนเองอย่างมาก แต่การเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันและลำเลียงก๊าซธรรมชาติเหลวชุดใหม่ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ด้านอามีนา บากร์ จากเอนเนอร์จีอินเทลลิเจนซ์ บริษัทข้อมูลพลังงานชี้ว่า กลุ่มโอเปกพลัสที่ประกอบด้วยประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน 13 ประเทศในกลุ่มโอเปก และประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน 10 ประเทศนอกกลุ่มโอเปกแสดงท่าทีแล้วว่า จะยึดมั่นตามข้อตกลงควบคุมกำลังผลิตอย่างเคร่งครัดเพื่อหนุนราคาน้ำมันให้สูงขึ้น ส่วนเบน คาฮิลล์ จากศูนย์ยุทธศาสตร์และนานาชาติศึกษาระบุว่า ซาอุดีอาระเบียและกาตาร์เป็นพันธมิตรทั้งกับสหรัฐและรัสเซีย แม้ทั้งสองประเทศให้สหรัฐเข้ามาตั้งฐานทัพ แต่ก็มีความสัมพันธ์ทางการค้าและการเมืองกับรัสเซียเพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีมานี้.-สำนักข่าวไทย

แคลิฟอร์เนีย 21 ก.พ. – เจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์ของสหรัฐ พบตัว ‘โซอี้’ สุนัขเพศเมียที่หายไป 12 ปีในย่านชนบทในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ และนำตัวส่งคืนอ้อมกอดของเจ้าของอีกครั้ง หลังบริษัทไมโครชิปที่เป็นเจ้าของชิปติดตามที่ฝังอยู่ในตัวโซอี้ระบุว่า สุนัขตัวดังกล่าวเสียชีวิตไปแล้วเมื่อ 7 ปีก่อน บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า โซอี้ถูกทิ้งจากรถยนต์คันหนึ่งในย่านชนบทใกล้เมืองสต็อกตันในรัฐแคลิฟอร์เนีย และมีพลเมืองดีแจ้งตำรวจว่าพบเห็นสุนัขอายุมากที่ดูเหมือนป่วย จากนั้น เจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์ได้สแกนไมโครชิปที่ฝังอยู่ในตัวโซอี้และพบว่ามันหายไปตั้งแต่ 12 ปีก่อน เขาได้ข้อมูลติดต่อเจ้าของสุนัขจากบริษัทที่เป็นเจ้าของไมโครชิปและโชคดีที่เจ้าของยังคงใช้หมายเลขโทรศัพท์เดิม เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวยังระบุว่า พบตัวโซอี้ในพื้นที่ห่างจากจุดที่มันหายไปเมื่อ 12 ปีก่อนราว 100 กิโลเมตร โดยที่เจ้าของสุนัขอาศัยอยู่ในเมืองลาฟาแยตต์ในรัฐแคลิฟอร์เนียเช่นกัน ในขณะเดียวกัน มิเชลล์ ซึ่งเป็นเจ้าของโซอี้ เผยว่า เธอรู้สึกตกใจมากหลังทราบข่าวและไม่คาดคิดว่าสุนัขของเธอจะยังคงมีชีวิต  เธอเลี้ยงโซอี้ตั้งแต่มันยังมีอายุเพียง 6 เดือน โดยเลี้ยงได้ราวครึ่งปีก่อนที่มันจะหายตัวไปในขณะที่เธอและครอบครัวเข้าไปซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ตประมาณ 20 นาที เธอดีใจมากที่โซอี้ยังไม่ตายและจะเลี้ยงดูมันอย่างดีที่สุดต่อไป. -สำนักข่าวไทย

มอสโก 21 ก.พ.- รัสเซียและสหรัฐยังคงสงวนท่าทีเรื่องจะจัดการประชุมสุดยอดหรือซัมมิตว่าด้วยเรื่องยูเครนตามที่ฝรั่งเศสเป็นผู้เสนอ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียแถลงวันนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียและประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐอาจสนทนาทางโทรศัพท์หรือประชุมกันได้ทุกเมื่อ แต่เรื่องซัมมิตยังไม่มีแผนการที่เป็นรูปธรรม ความตึงเครียดเรื่องยูเครนกำลังเพิ่มขึ้น แต่ก็มีการติดต่อทางการทูตอย่างแข็งขัน ประธานาธิบดีปูตินจะแถลงชี้แจงต่อที่ประชุมพิเศษของสภาความมั่นคงรัสเซียในเร็ว ๆ นี้ โฆษกรัสเซียยังได้กล่าวถึงรายงานข่าวของสื่ออเมริกันเรื่องรัสเซียมีรายชื่อชาวยูเครนที่จะถูกจับหรือสังหารหลังรัสเซียรุกรานยูเครนว่า เป็นเรื่องโกหกทั้งเพ และมองว่าเป็นเรื่องผิดปกติอย่างมากที่สถานทูตสหรัฐเตือนพลเมืองชาวอเมริกันในรัสเซียเมื่อวันอาทิตย์ให้เตรียมแผนการอพยพออกจากรัสเซียในกรณีที่จำเป็น สถานทูตสหรัฐอ้างแหล่งข่าวว่า เสี่ยงเกิดการโจมตีห้างสรรพสินค้า สถานีรถไฟ และสถานที่สาธารณะในกรุงมอสโก นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และพื้นที่ใกล้พรมแดนรัสเซียด้านติดกับยูเครน ด้านโฆษกทำเนียบขาวของสหรัฐแถลงเมื่อค่ำวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ประธานาธิบดีไบเดนตกลงในหลักการเรื่องจัดซัมมิตกับผู้นำรัสเซียตามที่ฝรั่งเศสเสนอ ตราบใดที่รัสเซียไม่รุกคืบเข้ายูเครน และจะเกิดขึ้นหลังจากนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐพบกับนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียในวันที่ 24 กุมภาพันธ์แล้วเท่านั้น สหรัฐพร้อมใช้วิถีทางทางการทูต แต่ก็พร้อมใช้มาตรการที่ส่งผลทันทีและร้ายแรง หากรัสเซียเลือกทำสงคราม เพราะดูเหมือนรัสเซียยังเดินหน้าตระเตรียมทำสงครามเต็มรูปแบบกับยูเครนในเร็ว ๆ นี้.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 21 ก.พ.- แหล่งข่าวเผยว่า รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐได้เตรียมมาตรการเบื้องต้นในการลงโทษรัสเซียในกรณีที่รุกรานยูเครน ด้วยการจะห้ามสถาบันการเงินของสหรัฐทำธุรกรรมระหว่างประเทศกับธนาคารใหญ่ของรัสเซีย หวังทำให้เศรษฐกิจรัสเซียเสียหาย แหล่งข่าวเผยว่า ที่ผ่านมาสหรัฐเคยขู่ว่าจะจำกัดการทำธุรกรรมด้านการธนาคารเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการลงโทษ แต่ไม่เคยหยิบยกเรื่องจะตัดสัมพันธ์ของธนาคารสหรัฐและรัสเซียที่เป็นคู่สัญญากัน และเป็นกลไกขับเคลื่อนกระแสเงินสดไหลเวียนในระดับโลก นอกจากนี้ยังจะขึ้นชื่อบุคคลและนิติบุคคลรัสเซียไว้ในบัญชีที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ (Specially Designated Nationals หรือ SDN) ซึ่งเป็นเครื่องมือลงโทษรุนแรงที่สุด เพราะผู้ถูกขึ้นบัญชีจะถูกตัดออกจากระบบการธนาคารของสหรัฐ จะไม่สามารถค้าขายกับชาวอเมริกัน และจะถูกอายัดทรัพย์สินในสหรัฐ ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าระหว่างประเทศมองว่า มาตรการนี้จะทำให้เศรษฐกิจรัสเซียเสียหายอย่างหนัก เพราะการค้าโลกส่วนใหญ่เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หากธนาคารใหญ่รัสเซียถูกตัดสัมพันธ์กับธนาคารสหรัฐ ธุรกรรมทั้งหมดก็จะสะดุด นายปีเตอร์ แฮร์เรลล์ ซึ่งอยู่ในสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐเผยเมื่อเดือนก่อนว่า มาตรการลงโทษทางการเงินสถานหนักเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ทำร้ายเศรษฐกิจรัสเซีย โดยไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน เป้าหมายของมาตรการต้องการทำให้รัสเซียมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในระยะสั้น กระตุ้นเงินทุนไหลออก ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ และธนาคารกลางรัสเซียต้องเข้ามาช่วยเหลือธนาคารพาณิชย์.-สำนักข่าวไทย