“ไบเดน” ประกาศนโยบายใหม่รับมือผู้อพยพ
ประธานาธิบดีสหรัฐประกาศใช้มาตรการใหม่ควบคุมพรมแดนสำหรับผู้อพยพที่ไม่มีใบอนุญาตที่ถูกต้องตามกฎหมาย หลังพบผู้อพยพจำนวนมากเดินทางข้ามพรมแดนเม็กซิโกมายังสหรัฐ
ประธานาธิบดีสหรัฐประกาศใช้มาตรการใหม่ควบคุมพรมแดนสำหรับผู้อพยพที่ไม่มีใบอนุญาตที่ถูกต้องตามกฎหมาย หลังพบผู้อพยพจำนวนมากเดินทางข้ามพรมแดนเม็กซิโกมายังสหรัฐ
ผู้อพยพชาวเวเนซุเอลาจำนวนมากต้องติดค้างอยู่ในเม็กซิโก เพื่อรอข้ามพรมแดนไปสหรัฐ หลังทางการเม็กซิโกนำตู้คอนเทนเนอร์มาตั้งเป็นกำแพงกั้นตามแนวพรมแดน ทำให้ผู้อพยพไม่สามารถเดินทางผ่านไปได้
ลอนดอน 14 ธ.ค. – เกิดเหตุเรือเล็กที่บรรทุกผู้อพยพล่มในน่านน้ำนอกชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษในวันนี้ แต่ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับตัวเลขผู้เสียชีวิตหรือผู้บาดเจ็บอย่างแน่ชัด บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า เกิดเหตุเรือเล็กที่บรรทุกผู้อพยพล่มในน่านน้ำนอกชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ช่องแคบอังกฤษ และคาดว่าอาจมีผู้อพยพที่อยู่บนเรือเสียชีวิต แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันจากหน่วยงานของทางการอังกฤษ ขณะที่โฆษกชายของกระทรวงกลาโหมอังกฤษยืนยันว่า เกิดเหตุเรือเล็กที่บรรทุกผู้อพยพล่มในน่านน้ำนอกชายฝั่งของเมืองเคนต์จริงตามที่บีบีซีรายงาน ส่วนหน่วยยามฝั่งของอังกฤษ ระบุว่า ได้ส่งเรือช่วยชีวิต เจ้าหน้าที่กู้ภัย และเฮลิคอปเตอร์ไปสำรวจจุดเกิดเหตุแล้ว บีบีซียังระบุว่า ขณะนี้ อังกฤษมีอุณหภูมิลดต่ำลงทั่วประเทศ และมีหิมะตกในบางพื้นที่ของประเทศอีกด้วย ส่วนเมืองที่ตั้งอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุเรือล่มมีอุณหภูมิ 2 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ อังกฤษพบผู้อพยพที่โดยสารเรือยางอัดลมขนาดเล็กจากฝรั่งเศสมายังอังกฤษที่ช่องแคบอังกฤษเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดกว่า 40,000 คนในปีนี้ ก่อนหน้านี้ เคยเกิดเหตุเรือยางอัดลมล่มในช่องแคบอังกฤษเมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2564 ที่ทำให้มีผู้อพยพเสียชีวิต 27 คน ซึ่งถือเป็นเหตุโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นในช่องแคบแห่งนี้. -สำนักข่าวไทย
รถบรรทุกขนผู้อพยพพลิกคว่ำในเมืองลาส โชอาปาส ของเม็กซิโก ทำให้ผู้อพยพเสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บอย่างน้อย 24 คน
เคียฟ 26 ต.ค. – ยูเครนขอให้ประชาชนที่อพยพออกจากประเทศตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ พำนักอาศัยอยู่ในต่างประเทศต่อไปจนสิ้นสุดฤดูหนาว เนื่องจากยูเครนกำลังเผชิญกับสถานการณ์ไฟดับที่เกิดจากการที่รัสเซียโจมตีระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในยูเครน ไอรีนา เวเรชชุก รองนายกรัฐมนตรีของยูเครน กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ของยูเครนเมื่อวันอังคารว่า เธอขอให้ประชาชนที่อพยพออกนอกประเทศพำนักอาศัยอยู่ในต่างประเทศไปจนถึงฤดูใบไม้ผลิก่อนที่จะเดินทางกลับมายูเครน และไม่ควรเดินทางกลับประเทศในตอนนี้ เนื่องจากยูเครนกำลังประสบปัญหาด้านพลังงานไม่เพียงพอในช่วงฤดูหนาว โดยที่ในขณะนี้มีชาวยูเครนกว่า 1 ล้านคนที่ต้องใช้ชีวิตท่ามกลางไฟดับหลังถูกรัสเซียโจมตีระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานทั่วประเทศ ยูเครนระบุว่า รัสเซียได้เปิดฉากยิงจรวดและใช้โดรนโจมตีทางอากาศใส่โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครน จนทำให้ยูเครนเผชิญกับปัญหาไฟดับและระบบส่งน้ำขัดข้อง นับตั้งแต่ที่เกิดเหตุระเบิดบนสะพานเชื่อมรัสเซียกับคาบสมุทรไครเมียเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ซึ่งรัสเซียเชื่อว่าเป็นฝีมือของกองทัพยูเครน ยูเครนยังระบุว่า รัสเซียได้ทำลายโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนไปแล้วร้อยละ 40 ขณะที่เจ้าหน้าที่ในกรุงเคียฟเตือนเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ชาวยูเครนต้องเตรียมรับมือกับเหตุไฟดับที่อาจเกิดขึ้นเป็นเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ ทั้งนี้ เหตุโจมตีระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในยูเครนของรัสเซียมีขึ้นในขณะที่หลายประเทศในทวีปยุโรปที่ชาวยูเครนอพยพไปพำนักอาศัยกำลังเผชิญกับปัญหาด้านพลังงาน อาหาร และค่าครองชีพอื่น ๆ ที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งทำให้ผู้อพยพชาวยูเครนยิ่งประสบปัญหาหนักขึ้นจากเดิมที่ต้องการหางานประจำที่มีรายได้ดีในประเทศใหม่. -สำนักข่าวไทย
ตาก 29 มิ.ย. – สถานการณ์สู้รบชายแดนไทย-เมียนมา เข้าสู่วันที่ 4 มีชาวบ้านฝั่งเมียนมากว่า 270 คน อพยพหนีตายจากการบินรบทิ้งระเบิดมาหลบพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ส่งผลให้ทหารและฝ่ายปกครอง อ.พบพระ ต้องร่วมกันดูแลความปลอดภัย
การสู้รบติดแนวชายแดนไทย-เมียนมา ในรัฐกะเหรี่ยง เข้าสู่วันที่ 4 ซึ่งเป็นการสู้รบระหว่างทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยู ที่มีกำลังทหารไม่ต่ำกว่า 200 นาย เข้าปิดล้อมเพื่อจะยึดฐานปฏิบัติการขนาดใหญ่ของทหารเมียนมา บ้านอูเกรทะ อ.ซูการี จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ฝั่งตรงข้ามกับห้วยแม่หม้าย หมู่ที่ 2 บ้านวาเล่ย์ใต้ อ.พบพระ จ.ตาก โดยมีการยิงปะทะกันอย่างหนัก ผ่านมาถึงวันที่ 4 การปะทะยังคงดุเดือด และทำให้ทหารทั้ง 2 ฝ่าย บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก
สถานการณ์บริเวณพื้นที่แนวชายแดน จ.ตาก ในช่วง 4 วันที่ผ่านมา ส่งผลกระทบให้พื้นที่ชายแดน จ.ตาก มีกระสุนไม่ทราบชนิด/ไม่ทราบฝ่าย จำนวน 2 ลูก ลอยข้ามมาตกยังฝั่งไทย บริเวณพื้นที่ทำการเกษตรของราษฎรบ้านวาเล่ย์ใต้ อ.พบพระ จ.ตาก
ด้านทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 ได้ยิงเตือนด้วยกระสุนควันไปยังฝั่งเมียนมา รับทราบว่ามีกระสุนข้ามมาตกในฝั่งไทย พร้อมทั้งดำเนินการแจ้งเตือนและทำหนังสือประท้วงไปยังคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา โดยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 ร่วมกับฝ่ายปกครอง อ.พบพระ เข้าสำรวจบริเวณที่พบกระสุนข้ามมาตกยังฝั่งไทย ไม่มีประชาชนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากสถานการณ์ดังกล่าว โดยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 ได้เพิ่มมาตรการในการลาดตระเวนเฝ้าตรวจแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง พร้อมตอบโต้หากมีการรุกล้ำอธิปไตย หรือมีสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไทย
สำหรับบุคคลสัญชาติเมียนมาที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ และขอเดินทางเข้ามารับการรักษาในฝั่งไทยนั้น ได้รับความช่วยเหลือและการดูแลตามหลักมนุษยธรรม ล่าสุดศูนย์สั่งการชายแดน จ.ตาก อยู่ระหว่างการเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หลังการสู้รบในฝั่งเมียนมาดำเนินมาต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 โดยมีผู้อพยพทะลักเข้ามาในไทยแล้วกว่า 270 คน. – สำนักข่าวไทย
ทางการรัสเซียเปิดทางให้ผู้อพยพออกจากโรงงานเหล็กอาซอฟสตัล ในเมืองมารีอูปอลของยูเครน ด้านยูเครนระบุว่า รัสเซียระดมโจมตีโรงงานเหล็กอย่างหนัก หวังยึดให้ได้โดยสิ้นเชิงในวันจันทร์นี้
ผู้อพยพชาวยูเครนราว 500 คน รออยู่บริเวณที่พักชั่วคราวที่ทางการเม็กซิโกจัดไว้ทางตะวันออกของเมืองหลวง ระหว่างรอรัฐบาลสหรัฐอนุญาตให้เข้าประเทศ ตามโครงการที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้
เร่งอพยพประชาชนกว่าพันคน ออกจากหมู่บ้านโบบริค ที่ถูกรัสเซียยึด ชาวบ้านเผยเขาต้องซ่อนตัวอยู่ในที่หลบภัยทั้งอาทิตย์ โดยไม่มีน้ำและไฟฟ้าใช้
ผู้อพยพชาวยูเครนจำนวนมากในโปแลนด์กำลังเผชิญกับปัญหาด้านสุขภาพ ซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุจากการเดินทางไกล อากาศที่หนาวเย็น และความเครียด
สหประชาชาติ ระบุมีผู้อพยพจากยูเครนข้ามพรมแดนไปยังโปแลนด์แล้วกว่า 1.8 ล้านคน ซึ่งสหประชาชาติได้ส่งเจ้าหน้าที่และสิ่งของช่วยเหลือเพิ่มเติมไปยังโปแลนด์
เคียฟ 14 มี.ค. – ชาวยูเครนที่สามารถอพยพออกมาจากเมืองมารีอูปอล ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญทางตอนใต้ของยูเครนที่ถูกรัสเซียปิดล้อม ระบุว่า กองทัพรัสเซียใช้การโจมตีทางอากาศใส่ย่านที่อยู่อาศัยของประชาชนอย่างหนักหน่วงตลอดทั้งวันทั้งคืน บาทหลวงพาเวล โกมาเชฟสกี หนึ่งในผู้ที่สามารถอพยพออกจากเมืองมารีอูปอล เผยกับบรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี ว่า กองทัพรัสเซียใช้เครื่องบินขับไล่และขีปนาวุธแกรด (Grad) โจมตีย่านที่อยู่อาศัยในเมืองมารีอูปอลอย่างหนักหน่วงตลอดทั้งวันทั้งคืน ชาวเมืองต้องใช้ชีวิตท่ามกลางสถานการณ์ที่ไฟฟ้าถูกตัด รวมถึงประสบปัญหาขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม จนทำให้มีประชาชนบางส่วนจำเป็นต้องไปลักขโมยของตามร้านค้าและร้านขายยา บาทหลวงพาเวลยังระบุว่า เขาออกจากเมืองมารีอูปอลได้เมื่อไม่กี่วันก่อนพร้อมผู้อพยพรายอื่น ๆ โดยขบวนรถยนต์ส่วนตัวราว 100 คัน ขณะที่แผนการเปิดระเบียงมนุษยธรรม (humanitarian corridor) ยังคงไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากการโจมตีอย่างหนักหน่วงของกองทัพรัสเซีย ทั้งนี้ องค์กรกาชาดระหว่างประเทศ (International Red Cross) ได้เรียกร้องเมื่อวันอาทิตย์ให้รัสเซียและยูเครนทำข้อตกลงร่วมกันเพื่อเปิดเส้นทางอพยพประชาชนออกจากเมืองมารีอูปอล รวมถึงการส่งความช่วยเหลือเข้าไปยังเมืองดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย