ชาวเมืองติฮัวนาประท้วงขับไล่ผู้อพยพ
ชาวเมืองติฮัวนา รัฐบาฮากาลิฟอร์เนียของเม็กซิโก หลายร้อยคน ชุมนุมประท้วงขับไล่ผู้อพยพจากอเมริกากลางหลายพันคน ที่หลั่งไหลเข้ามาในเมือง
ชาวเมืองติฮัวนา รัฐบาฮากาลิฟอร์เนียของเม็กซิโก หลายร้อยคน ชุมนุมประท้วงขับไล่ผู้อพยพจากอเมริกากลางหลายพันคน ที่หลั่งไหลเข้ามาในเมือง
ผู้อพยพชุดใหม่ราว 200 คนเริ่มเดินทางออกจากเอลซัลวาดอร์ในอเมริกากลางแล้ว มุ่งหน้าขึ้นเหนือหวังเข้าสหรัฐแม้สหรัฐประกาศจะผลักดันผู้อพยพตามพรมแดนก็ตาม
สหรัฐเพิ่มมาตรการเข้มงวด ป้องกันผู้อพยพลักลอบเข้าประเทศ ล่าสุดเสริมรั้วลวดหนามตามชายแดน
สหรัฐนำลวดหนามบริเวณชายแดนที่ติดกับเม็กซิโก และมีเจ้าหน้าที่คอยลาดตระเวนตลอดเวลา
ขบวนรถบัสบรรทุกผู้อพยพจากหลายประเทศในแถบอเมริกากลางเดินทางถึงรัฐซีนาโลอา ของเม็กซิโกแล้ว พร้อมมุ่งหน้าต่อไปยังรัฐโซโนรา โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่บริเวณพรมแดนสหรัฐ
จำนวนผู้อพยพหนีไฟป่าครั้งรุนแรงในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผู้อพยพจำนวนหนึ่งต้องไปนอนค้างอ้างแรมกันที่ลานจอดรถของซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง เพื่อรอรับบริจาคเสื้อผ้า อาหาร และ สิ่งของยังชีพอื่นๆ
ทางการโคลอมเบียย้ายผู้อพยพชาวเวเนซุเอลาที่ไร้ที่อยู่อาศัยไปพักพิงอยู่ภายในสนามฟุตบอลแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาท่ามกลางกระแสต่อต้านของชาวบ้านในบริเวณนั้น
แม้ผู้นำสหรัฐจะลงนามคำสั่งห้ามผู้อพยพเข้าสหรัฐ แต่ที่รัฐกวานาคัวโต คลื่นผู้อพยพยังคงหลั่งไหลเดินทางมาถึงหวังข้ามพรมแดนเข้าไปในสหรัฐ
ทหารสหรัฐเตือนผู้อพยพหลายพันคนที่อยู่ในเม็กซิโก ห้ามยื่นเรื่องขอลี้ภัยในสหรัฐ
ชาวอเมริกากลางยังคงอพยพขึ้นเหนืออย่างต่อเนื่อง ขณะที่สหรัฐได้นำเอาลวดหนามมาขึงกั้นบริเวณชายแดนเพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมือง
นางมาเรีย วัลเลส โบนิลา วัย 106 ปีที่เกิดในเอลซัลวาดอร์ได้สัญชาติอเมริกันเมื่อวันอังคาร 6 พ.ย.ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งกลางสมัยสหรัฐ
กลุ่มแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขบนเรือพยาบาลยูเอส เนเวิลชิพ คอมฟอร์ตเข้าเทียบท่าที่เมืองปาอีตาของเปรูเพื่อบริการด้านสาธารณสุขพื้นฐาน