ซูริก 20 มี.ค.- เครดิตสวิส (Credit Suisse) วาณิชธนกิจและบริการการเงินข้ามชาติรายใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์ถูกยูบีเอส (UBS) ที่เป็นคู่แข่งสัญชาติเดียวกันเข้าครอบงำกิจการหรือเทคโอเวอร์แล้ว หลังจากเกิดเรื่องอื้อฉาวซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกระทั่งฐานรากสั่นคลอน และถึงจุดจบเมื่อการปิดกิจการธนาคารในสหรัฐจุดชนวนความโกลาหลในภาคการธนาคาร ปัญหาของเครดิตสวิสเริ่มขึ้นตั้งแต่กรีนซิลล์ แคปิตอล บริษัทการเงินในสหราชอาณาจักรยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์ในฐานะล้มลายในเดือนมีนาคม 2564 ทำให้เครดิตสวิสต้องปิดกองทุน 4 กองที่ลงทุนในบริษัทนี้ไปร่วม 10,000 ล้านดอลลาร์สหัรฐ (ราว 340,810 ล้านบาท) สำนักงานกำกับดูแลตลาดการเงินสวิสหรือฟินมา (FINMA) ชี้ว่า เครดิตสวิสละเมิดความรับผิดชอบเรื่องการกำกับดูแลอย่างร้ายแรง และสั่งการให้ออกมาตรการเยียวยา หลังจากนั้น 4 สัปดาห์ เครดิตสวิสถูกกองทุนเก็งกำไรในสหรัฐทำให้ขาดทุนมากกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่า 170,405 ล้านบาท) ต่อมาในเดือนตุลาคม เครดิตสวิสถูกทางการสหรัฐและอังกฤษปรับเป็นเงิน 475 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 16,188 ล้านบาท) โทษฐานพัวพันการทุจริตติดสินบนเกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้ให้แก่รัฐวิสาหกิจในโมซัมบิก โครงการการรายงานการทุจริตและแก๊งอาชญากรรมที่เป็นรายงานการสืบสวนสอบสวนของสื่อมวลชนเผยแพร่เอกสารชื่อ “สวิสซีเคร็ตส์ (Suisse Secrets)” ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 กล่าวหาเครดิตสวิสว่า ถือครองเงินสกปรกของอาชญากร เผด็จการ และผู้ละเมิดสิทธิมากกว่า […]