โคลัมโบ 24 ต.ค.- การท่าศรีลังกาเผยว่า ได้รับคำสั่งจากกระทรวงเกษตรเมื่อวันเสาร์ ให้ท่าเรือทุกแห่งขัดขวางการขนถ่ายปุ๋ยนำเข้าจากจีน และให้เรือจีนออกไปจากท่าเรือ หลังจากพบสิ่งปนเปื้อน รวมถึงเชื้อแบคทีเรียอันตรายในปุ๋ยจากจีน การท่าศรีลังกาเผยหลังจากทำเนียบประธานาธิบดีแถลงว่า สำนักงานกักกันพืชแห่งชาติตรวจตัวอย่างปุ๋ยจากเรือจีนลำหนึ่ง และพบสิ่งปนเปื้อนที่รวมถึงเชื้อแบคทีเรียอันตรายบางชนิด ด้านศาลแพ่งศรีลังกาสั่งห้ามชำระเงิน 42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,400 ล้านบาท) เป็นค่าปุ๋ยจำนวน 96,000 ตัน ให้แก่ชิงเต่าซีวินไบโอเทคกรุ๊ปของจีน เพราะทางการระงับข้อตกลงนำเข้าปุ๋ยดังกล่าวตั้งแต่เดือนก่อน แต่ยังคงมีการลำเลียงมา และเตรียมจะขึ้นที่ท่าเรือในกรุงโคลัมโบ อย่างไรก็ดี ไม่มีการเปิดเผยตำแหน่งของเรือว่าขณะนี้ล่องอยู่ที่จุดใด เดิมศรีลังกาสั่งนำเข้าปุ๋ยอินทรีย์จากจีน หวังทดแทนปุ๋ยเคมีที่จะทยอยยกเลิกใช้ช่วงฤดูเพาะปลูกข้าวที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคมปีนี้ ตามนโยบายก้าวสู่การเป็นประเทศเกษตรอินทรีย์ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เกษตรกรโดยเฉพาะผู้ปลูกชา ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของศรีลังกา ประท้วงว่าการยกเลิกใช้ปุ๋ยเคมีอาจทำให้ผลผลิตลดลงไปถึงครึ่งหนึ่ง รัฐบาลจึงประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยกเลิกคำสั่งห้ามใช้ปุ๋ยเคมีที่มีผลบังคับใช้ไปเมื่อเดือนพฤษภาคม แล้วนำเข้าปุ๋ยโพแทสเซียมคลอไรด์ 30,000 ตัน และปุ๋ยน้ำไนโตรเจน 3 ล้านลิตร จากอินเดียเข้ามาแทน.-สำนักข่าวไทย