ไฟไหม้ท่าเรือบกบังกลาเทศ ตายเพิ่มเป็น 41 ราย

ธากา 6 มิ.ย. – เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของบังกลาเทศยังคงเร่งดับไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่สถานีตู้สินค้าที่มีพิธีการสินค้าขาเข้าและขาออก หรือท่าเรือบก ทางตะวันออกเฉียงใต้ของบังกลาเทศ เป็นวันที่สามนับตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 41 ราย และผู้บาดเจ็บกว่า 200 คน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเมืองสิตากุนทะระบุว่า เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงไหม้ส่วนใหญ่ได้แล้ว แต่ยังไม่สามารถดับเพลิงได้ทั้งหมด เนื่องจากตู้สินค้าสารเคมีที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุเสี่ยงระเบิดเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ ทั้งยังระบุว่า ทหารบังกลาเทศได้เข้าร่วมในภารกิจดับเพลิงเพื่อป้องกันไม่ให้สารเคมีรั่วไหลลงคลองและอ่าวเบงกอล ในขณะเดียวกัน ทางการบังกลาเทศได้ปรับลดยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ท่าเรือบกเหลือ 41 ราย จากเดิม 49 ราย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 200 คน ในจำนวนนี้ มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเสียชีวิตอย่างน้อย 9 ราย และมีตำรวจบาดเจ็บ 10 นายจากจำนวนเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่บาดเจ็บทั้งหมด 50 คน ด้านแพทย์ของเมืองจิตตะกองระบุว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ เนื่องจากมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัสหลายราย อย่างไรก็ดี ทางการบังกลาเทศยังคงไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดที่ทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ แต่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงคาดว่า อาจเกิดขึ้นจากเหตุเพลิงไหม้ตู้สินค้าไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ก่อนลุกลามอย่างรวดเร็วไปทั่วท่าเรือบกแห่งนี้. -สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ท่าเรือบกบังกลาเทศเสียชีวิตเพิ่มเป็น 28 คนแล้ว

ธากา 5 มิ.ย.- เหตุไฟไหม้ขนาดใหญ่ที่สถานีตู้สินค้าที่มีพิธีการศุลกากรสินค้าขาเข้าและขาออก หรือท่าเรือบก ทางตะวันออกเฉียงใต้ของบังกลาเทศตั้งแต่เมื่อคืนวันเสาร์ มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 28 คนแล้ว และมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 100 คน ขณะที่นักดับเพลิงยังคงหาทางควบคุมไฟอยู่ สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตล้ว 28 คน ส่วนใหญ่เสียชีวิตที่โรงพยาบาลใกล้เคียง ที่เหลือเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ สำนักงานดับเพลิงและป้องกันภัยพลเรือนบังกลาเทศแจ้งว่า มีนักดับเพลิงเสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน และถูกไฟลวกขณะปฏิบัติหน้าที่อีก 15 คน เหตุเกิดขึ้นที่ท่าเรือบกบีเอ็ม (BM) ในเมืองจิตตะกอง ห่างจากกรุงธากาไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 216 กิโลเมตรราวเที่ยงคืนวันเสาร์ เป็นท่าเรือร่วมลงทุนบังกลาเทศ-เนเธอร์แลนด์ โดยเกิดระเบิดขึ้นหลายครั้งหลังจากที่เกิดระเบิดครั้งแรก และไฟยังคงลุกไหม้อยู่ แรงระเบิดทำให้หน้าต่างอาคารใกล้เคียงแตกละเอียด และรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้ไกลถึง 4 กิโลเมตร ทางการได้ขอให้ผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิดของกองทัพมาช่วยเหลือนักดับเพลิงแล้ว เพราะคาดว่าตู้สินค้าจำนวนมากในที่เกิดเหตุเป็นตู้สินค้าสารเคมี บังกลาเทศเกิดภัยพิบัติทางอุตสาหกรรมหลายครั้ง กลุ่มสังเกตการณ์กล่าวโทษว่า เกิดจากการทุจริตรับสินบนและความย่อหย่อนในการบังคับใช้กฎหมาย อุตสาหกรรมสิ่งทอที่จ้างงานชาวบังกลาเทศมากถึง 4 ล้านคน ถูกสินค้ายี่ห้อดังระดับโลกที่ผลิตในบังกลาเทศกดดันให้ปฏิรูปขนานใหญ่จนมีความปลอดภัยเพิ่มขึ้น แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า อุตสาหกรรมอื่น ๆ ยังไม่มีการปรับปรุงมากนัก.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ท่าเรือบกในบังกลาเทศ ตายเพิ่มเป็น 16 คนแล้ว

ธากา 5 มิ.ย.- เหตุไฟไหม้ขนาดใหญ่ที่สถานีตู้สินค้าที่มีพิธีการศุลกากรสินค้าขาเข้าและขาออก หรือท่าเรือบก ทางตะวันออกเฉียงใต้ของบังกลาเทศตั้งแต่เมื่อคืนวันเสาร์ มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 16 คนแล้ว และมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 150 คน ไฟไหม้เกิดขึ้นที่ท่าเรือบกบีเอ็ม (BM) ในเมืองจิตตะกอง ห่างจากกรุงธากาไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 216 กิโลเมตรราวเที่ยงคืนวันเสาร์ เป็นท่าเรือร่วมลงทุนบังกลาเทศ-เนเธอร์แลนด์ สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ไฟไหม้เกิดขึ้นหลังจากตู้สินค้าตู้หนึ่งที่เต็มไปด้วยสารเคมีระเบิด ทำให้ตู้สินค้าจำนวนมากระเบิดตามไปด้วย นักดับเพลิงยังคงหาทางดับไฟอยู่ในเช้าวันนี้ สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นรายงานว่า ท่าเรือบกแห่งนี้มีตู้สินค้าราว 5,000 ตู้ พร้อมกับอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า ยอดผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งเพิ่มเป็น 16 คนแล้ว และอาจจะมีผู้เสียชีวิตgพิ่มขึ้นเนื่องจากมีผู้บาดเจ็บสาหัสหลายคน ในจำนวนนี้มีนักดับเพลิงและตำรวจรวมอยู่ด้วย.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ท่าเรือบกในบังกลาเทศ

ธากา 5 มิ.ย.- เจ้าหน้าที่บังกลาเทศแจ้งว่า เกิดไฟไหม้ขนาดใหญ่ที่สถานีตู้สินค้าที่มีพิธีการศุลกากรสินค้าขาเข้าและขาออกหรือท่าเรือบก ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศตั้งแต่เมื่อคืนวันเสาร์ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 คน บาดเจ็บมากกว่า 100 คน ไฟไหม้เกิดขึ้นที่ท่าเรือบกในเขตสิตาคุนดู เมืองจิตตะกอง ทำให้ตู้สินค้าจำนวนมากระเบิดหลังมีการระเบิดขนาดใหญ่ นักดับเพลิงยังคงหาทางดับไฟอยู่ในเช้าวันนี้ ขณะที่ชาวบ้านเผยว่า แรงระเบิดทำให้กระจกหน้าต่างอาคารใกล้เคียงแตกละเอียด ศัลยแพทย์เมืองจิตตะกองเผยว่า ผู้บาดเจ็บมีนักดับเพลิงและตำรวจรวมอยู่ด้วย คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นเพราะมีคนบาดเจ็บสาหัสหลายคน ขอให้แพทย์ในพื้นที่เร่งรับมือสถานการณ์ และขอให้ประชาชนบริจาคโลหิตช่วยผู้เคราะห์ร้าย ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุของการระเบิด นักดับเพลิงสันนิษฐานว่า อาจมาจากตู้สินค้าบรรจุไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ แล้วลามไปยังตู้สินค้าอื่น ๆ อย่างรวดเร็ว.-สำนักข่าวไทย

เรือโรฮิงญา 90 ชีวิตล่มนอกชายฝั่งเมียนมา

เนปิดอว์ 24 พ.ค.- สื่อหลายแห่งรายงานว่า เรือที่มีชาวโรฮิงญาโดยสารอยู่ราว 90 คน อับปางนอกชายฝั่งเมียนมาช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาท่ามกลางสภาพอากาศไม่ดี คาดว่ามีผู้เสียชีวิตหรือสูญหายหลายสิบคน วิทยุเอเชียเสรีที่ได้รับทุนสนับสนุนจากสหรัฐรายงานอ้างประชาชนริมชายฝั่งในย่านชเว ดอง ยาน เขตอิรวดี ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมียนมาว่า ทางการควบคุมตัวผู้รอดชีวิตมากกว่า 20 คน พบผู้เสียชีวิตแล้ว 14 คน และยังสูญหายอยู่มากกว่า 50 คน บนเรือมีเด็กรวมอยู่ด้วย ด้านอิรวดี ไทมส์ รายงานอ้างข้อมูลจากผู้รอดชีวิตว่า เรือซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปมาเลเซียเกิดปัญหา หลังล่องออกจากเมืองซิตตเว รัฐยะไข่เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ชาวโรฮิงญามีสถานภาพเป็นคนไร้รัฐในเมียนมา ขณะนี้เหลืออยู่ในเมียนมาประมาณ 600,000 คน สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอชซีอาร์ (UNHCR) ประเมินว่า มีชาวโรฮิงญาพลัดถิ่นประมาณ 148,000 คน ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ตามค่ายผู้ลี้ภัย และว่าช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้มีชาวโรฮิงญาเสี่ยงชีวิตล่องเรือข้ามอ่าวเบงกอลประมาณ 630 คน ในจำนวนนี้ร้อยละ 60 เป็นเด็กและผู้หญิง กองทัพเมียนมาอ้างว่า ใช้ปฏิบัติการในรัฐยะไข่ตั้งแต่ปี 2560 เพื่อกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธ […]

โรฮิงญาในบังกลาเทศดีใจสหรัฐชี้ขาดเมียนมาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

ธากา 22 มี.ค. – ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาในบังกลาเทศแสดงความยินดีที่รัฐบาลสหรัฐประกาศว่า การที่รัฐบาลทหารเมียนมาใช้ความรุนแรงกดขี่ชนกลุ่มน้อยมุสลิมโรฮิงญาถือเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ชายชาวโรฮิงญาวัย 60 ปี ที่ลี้ภัยอยู่ในค่ายแห่งหนึ่งในเขตค็อกบาซาร์ของบังกลาเทศเผยว่า ดีใจมากที่นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐประกาศขณะกล่าวสุนทรพจน์ที่พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์สหรัฐในกรุงวอชิงตันเมื่อวันจันทร์ว่า การปราบปรามของเมียนมาถือเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ โดยอ้างตามคำให้การที่มีการยืนยันเรื่องกองทัพเมียนมากระทำความโหดร้ายกับพลเรือนอย่างกว้างขวางและเป็นระบบต่อชาวโรฮิงญา ชายคนนี้กล่าวว่า รัฐบาลเมียนมาทรมานชาวโรฮิงญาและชุมชนต่าง ๆ มานาน 60 ปีแล้วเริ่มตั้งแต่ปี 2505 เขาเชื่อว่าการประกาศของสหรัฐเปิดทางให้ประชาคมโลกสามารถดำเนินการกับเมียนมาได้ ด้านศูนย์เพื่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ศึกษา มหาวิทยาลัยธากาในบังกลาเทศมองว่า การประกาศของสหรัฐถือเป็นก้าวเชิงบวก แต่จำเป็นต้องดูต่อไปว่า จะมีก้าวที่เป็นรูปธรรมติดตามมาหรือไม่ ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าการประกาศของสหรัฐจะทำให้ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาได้รับการรับรองสถานภาพพลเมืองในเมียนมา คำถามพื้นฐานคือผู้ลี้ภัยที่อยู่ตามค่ายต่าง ๆ ในเขตค็อกบาซาร์ราว 1 ล้านคนจะได้กลับเมียนมาอย่างไรและเมื่อใด ทางศูนย์คาดว่า สหรัฐอาจใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงต่อเมียนมาเป็นมาตรการขั้นถัดไป และต้องรอดูว่าสหรัฐจะสนับสนุนกระบวนการของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกในกรุงเฮกที่กำลังไต่สวนเมียนมาในคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญาตามที่แกมเบียยื่นฟ้องหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บังกลาเทศปิดโรงเรียนอีกครั้งเพราะโอไมครอนระบาด

ธากา 3 ก.พ.- บังกลาเทศปิดโรงเรียนอีกครั้ง เนื่องจากมีผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์โอไมครอน เดิมบังกลาเทศประกาศปิดโรงเรียนเป็นเวลา 2 สัปดาห์จนถึงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ แต่กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศเมื่อวานนี้ว่าจะขยายการปิดโรงเรียนต่อไปอีก ครูที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงธากาไม่พอใจที่นักเรียน 500 คนต้องกลับมาเรียนออนไลน์ เพราะเด็กจะไม่ได้รับความรู้เหมือนการเรียนในชั้นเรียน และครูผู้สอนต้องใช้อุปกรณ์การสอนเพิ่มเติมเพื่อให้เด็กเข้าใจมากขึ้น นอกจากนี้การที่เด็กไม่ได้มาเจอเพื่อนที่โรงเรียน ทำให้เสียโอกาสเรื่องการพัฒนาทักษะในการเข้าสังคม หลายฝ่ายรู้สึกแปลกใจที่ทางการบังกลาเทศสั่งปิดโรงเรียน แต่ให้จัดงานทางธุรกิจ เช่น งานจัดแสดงสินค้านาน 1 เดือนที่เริ่มขึ้นเมื่อเดือนก่อน มีคนจำนวนมากแห่แหนเข้าไปดูสินค้าทุกวัน โดยไม่ใส่ใจต่อระเบียบด้านสาธารณสุข และในเดือนนี้ยังจะมีเทศกาลหนังสือนาน 1 เดือนในกรุงธากาที่คาดว่าจะมีคนไปร่วมงานหนาแน่นยิ่งขึ้นไปอีก บังกลาเทศมียอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 1 ล้าน 8 แสนคน และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 28,000 คน เดือนมกราคมที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 200,000 คน และเสียชีวิต 322 คน เพิ่มขึ้นอย่างมากจากเดือนธันวาคมที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ไม่ถึง 9,000 คน และเสียชีวิต 92 คน ขณะนี้เชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนยังไม่สร้างความโกลาหลมากเท่าสายพันธุ์เดลตาที่ระบาดก่อนหน้านี้ แต่สถานการณ์อาจย่ำแย่ลงหากยอดติดเชื้อเพิ่มขึ้นไม่หยุด […]

บังกลาเทศจับเจ้าของเรือข้ามฟากที่เกิดเหตุไฟไหม้แล้ว

ธากา 27 ธ.ค. – ตำรวจบังกลาเทศจับกุมเจ้าของเรือข้ามฟากที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เมื่อวันศุกร์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 39 ราย หลังเจ้าหน้าที่สืบสวนระบุว่าเรือลำดังกล่าวบรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่กำหนดและละเลยมาตรการด้านความปลอดภัย โฆษกสำนักงานตำรวจของบังกลาเทศเผยว่า ตำรวจบังกลาเทศได้จับกุมเจ้าของเรือข้ามฟากโอบีจัน-10 (Obhijaan-10) ในวันนี้ หลังจากที่เมื่อวานนี้ศาลบังกลาเทศได้ออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุเพลิงไหม้เรือข้ามฟาก 8 คน ซึ่งรวมกัปตันและลูกเรือ ขณะที่ตำรวจน้ำของบังกลาเทศระบุว่า เรือลำดังกล่าวไม่มีถังดับเพลิงและเสื้อชูชีพเพียงพอในขณะที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือกลางแม่น้ำสุกันธาเมื่อช่วงเช้ามืดวันศุกร์ ผู้รอดชีวิตจากเหตุดังกล่าวเล่าว่า คนขับเรือข้ามฟากยังคงฝืนแล่นเรือต่อไปอีกเกือบ 1 ชั่วโมงทั้งที่รู้ว่าห้องเครื่องยนต์ถูกไฟไหม้ ถ้าพวกเขายอมหยุดเรือและทอดสมอในทันที ก็อาจช่วยรักษาชีวิตผู้คนบนเรือได้มากกว่านี้ เหตุเพลิงไหม้เรือข้ามฟากเกิดขึ้นในขณะที่เรือกำลังแล่นอยู่กลางแม่น้ำสุกันธา ในพื้นที่ใกล้เขตพรคุนาในช่วงเช้ามืดของวันศุกร์ เรือบรรทุกผู้โดยสารมากถึง 700 คน ทั้งที่ได้รับการออกแบบให้บรรทุกผู้โดยสารสูงสุด 420 คน ผู้โดยสารที่รอดชีวิตเล่าว่า กำลังนอนหลับอยู่ และต้องกระโดดหนีออกจากเรือที่มี 3 ชั้นลงแม่น้ำสุกันธา ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ถูกไฟคลอกตาย และมีบางส่วนเสียชีวิตจากการจมน้ำที่เย็นจัด. -สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้เรือข้ามฟากในบังกลาเทศ เสียชีวิตแล้ว 37 ราย

ธากา 24 ธ.ค. – เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือข้ามฟากที่บรรทุกผู้โดยสารเต็มลำในพื้นที่ทางใต้ของบังกลาเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 37 รายและบาดเจ็บ 72 ราย ตำรวจบังกลาเทศรายงานวันนี้ว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือข้ามฟาก “อาวิจัน” เมื่อช่วง 3.00 น. เช้ามืดของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่นที่เมืองฌาลกาฐิ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงธากาไปทางใต้ราว 250 กิโลเมตร โดยที่มีผู้โดยสารอยู่บนเรือราว 500 คน เรือลำนี้มี 3 ชั้นและเกิดเพลิงไหม้ขณะแล่นอยู่กลางแม่น้ำสุกันธา ขณะนี้ เจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิตแล้ว 37 ราย และอาจมียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บอีก 72 คน ซึ่งส่งตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว ตำรวจบังกลาเทศยังระบุว่า ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ถูกไฟคลอกตายบนเรือ และมีบางส่วนที่จมน้ำตายเพราะกระโดดลงน้ำ ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุของเพลิงไหมครั้งนี้ แต่ตำรวจสันนิษฐานว่า เพลิงไหม้ดังกล่าวมีที่มาจากห้องควบคุมเครื่องยนต์ก่อนที่จะลุกลามไปทั่วเรือที่บรรทุกผู้โดยสารหนาแน่น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ต้องการเดินทางกลับบ้านจากกรุงธากา.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐคว่ำบาตรหลายประเทศเพราะเรื่องสิทธิมนุษยชน

วอชิงตัน 11 ธ.ค.- สหรัฐประกาศมาตรการคว่ำบาตรอย่างครอบคลุมกับบุคคลและนิติบุคคลในจีน เมียนมา เกาหลีเหนือ และบังกลาเทศ เพราะเรื่องละเมิดสิทธิมนุษยชนเนื่องในวันสิทธิมนุษยชน 10 ธันวาคม ขณะที่แคนาดาและสหราชอาณาจักรร่วมคว่ำบาตรเมียนมาด้วย นายวัลลี อะเดเยโม รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลังสหรัฐแถลงว่า การกระทำของสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีแคนาดาและสหราชอาณาจักรเข้าร่วม เป็นการส่งสัญญาณว่า ประชาธิปไตยทั่วโลกจะต่อต้านผู้นำอำนาจรัฐมาใช้โดยมิชอบในการทำให้เกิดความทุกข์ยากและการกดขี่ ด้านสถานทูตจีนในสหรัฐประณามการเคลื่อนไหวของสหรัฐว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีนอย่างร้ายแรง และละเมิดบรรทัดฐานพื้นฐานว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อความสัมพันธ์ของสองประเทศ ขอให้สหรัฐล้มเลิกการตัดสินใจดังกล่าว ขณะที่เกาหลีเหนือ เมียนมาและบังกลาเทศยังไม่แสดงท่าทีใด ๆ กระทรวงคลังสหรัฐได้เพิ่มชื่อของเซนซ์ไทม์ (SenseTime) บริษัทปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอของจีนไว้ในรายชื่อบริษัทอุตสาหกรรมทางทหารของจีน เนื่องจากพัฒนาโครงการจดจำใบหน้าที่สามารถระบุเชื้อชาติของเป้าหมาย โดยมุ่งที่ชนกลุ่มน้อยอุยกูร์เป็นพิเศษ ดังนั้นบริษัทนี้จะอยู่ในรายชื่อที่ห้ามชาวอเมริกันเข้าไปลงทุน ส่วนเมียนมาที่ถูกสหรัฐคว่ำบาตรประกอบด้วยมุขมนตรี 4 คน หน่วยงานและองค์กรทางทหาร 2 แห่งที่จัดหากำลังสำรองให้กองทัพ เช่น อาวุธที่ใช้ปราบปรามผู้ประท้วงรัฐประหาร ขณะที่แคนาดาคว่ำบาตรหน่วยงาน 4 แห่งที่โยงกับกองทัพเมียนมา และสหราชอาณาจักรออกมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อกองทัพเมียนมา กระทรวงคลังสหรัฐยังได้ขึ้นบัญชีดำสำนักงานอัยการกลางของเกาหลีเหนือ อดีตรัฐมนตรีสวัสดิการสังคม รัฐมนตรีกองทัพประชาชน และกล่าวหาเอสอีเคสตูดิโอ (SEK Studio) บริษัทแอนิเมชันของทางการ รวมทั้งบริษัทและบุคคลที่เกี่ยวข้องว่า กดขี่คนทำงานชาวเกาหลีเหนือเพื่อหาเงินตราต่างประเทศ และหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร บริษัทนี้มีผลงานในแอนิเมชันชื่อดังของดิสนีย์อย่าง The […]

บังกลาเทศเปิดโรงเรียนแล้ว หลังปิดมา 18 เดือน

ธากา 12 ก.ย.- เด็กนักเรียนในบังกลาเทศได้กลับเข้าโรงเรียนอีกครั้งในวันนี้ หลังจากโรงเรียนปิดนานถึง 18 เดือนเพราะการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงธากา เมืองหลวงของบังกลาเทศ มีเจ้าหน้าที่คอยวัดอุณหภูมิเด็กที่หน้าประตู ตระเตรียมดอกไม้และขนมไว้ต้อนรับเด็ก ๆ พร้อมกับย้ำให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาและล้างมือบ่อย ๆ นักเรียนบางคนสวมกอดกันอย่างดีใจ เพราะคิดถึงเพื่อนและครู อยากเจอกันจริง ๆ มากกว่าผ่านจอแล็ปท็อป อาจารย์ใหญ่เผยว่า ไม่คิดว่าจะมีนักเรียนมาโรงเรียนวันแรกมากขนาดนี้ องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติหรือยูนิเซฟออกรายงานเตือนเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า การปิดโรงเรียนนานเกินไปทำให้เด็กในเอเชียใต้มากกว่า 430 ล้านคนเกิดความไม่เท่าเทียมทางการศึกษามากยิ่งขึ้นไปอีก ประชากรบังกลาเทศ 169 ล้านคน มีสมาร์ทโฟนเพียงร้อยละ 41 เด็กหลายล้านคนจึงไม่สามารถเข้าถึงการเรียนออนไลน์ นอกจากนี้พื้นที่ตามชนบทหลายแห่งยังไม่มีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสำหรับเรียนออนไลน์ด้วย ส่วนอินเดีย เด็กวัย 14-18 ปีมากถึงร้อยละ 80 ยอมรับว่า เรียนออนไลน์ได้ไม่ดีเท่าเรียนในชั้นเรียน และเด็กวัย 6-13 ปีราวร้อยละ 42 ไม่สามารถเข้าถึงการเรียนออนไลน์ เช่นเดียวกับเด็กปากีสถานร้อยละ 23 ขณะที่เนปาลใช้วิธีเรียนทางวิทยุ เพราะคนส่วนใหญ่เข้าไม่ถึงอินเทอร์เน็ต.-สำนักข่าวไทย

1 7 8 9 10 11 36
...