เนปิดอว์ 24 พ.ค.- สื่อหลายแห่งรายงานว่า เรือที่มีชาวโรฮิงญาโดยสารอยู่ราว 90 คน อับปางนอกชายฝั่งเมียนมาช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาท่ามกลางสภาพอากาศไม่ดี คาดว่ามีผู้เสียชีวิตหรือสูญหายหลายสิบคน
วิทยุเอเชียเสรีที่ได้รับทุนสนับสนุนจากสหรัฐรายงานอ้างประชาชนริมชายฝั่งในย่านชเว ดอง ยาน เขตอิรวดี ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมียนมาว่า ทางการควบคุมตัวผู้รอดชีวิตมากกว่า 20 คน พบผู้เสียชีวิตแล้ว 14 คน และยังสูญหายอยู่มากกว่า 50 คน บนเรือมีเด็กรวมอยู่ด้วย ด้านอิรวดี ไทมส์ รายงานอ้างข้อมูลจากผู้รอดชีวิตว่า เรือซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปมาเลเซียเกิดปัญหา หลังล่องออกจากเมืองซิตตเว รัฐยะไข่เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม
ชาวโรฮิงญามีสถานภาพเป็นคนไร้รัฐในเมียนมา ขณะนี้เหลืออยู่ในเมียนมาประมาณ 600,000 คน สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอชซีอาร์ (UNHCR) ประเมินว่า มีชาวโรฮิงญาพลัดถิ่นประมาณ 148,000 คน ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ตามค่ายผู้ลี้ภัย และว่าช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้มีชาวโรฮิงญาเสี่ยงชีวิตล่องเรือข้ามอ่าวเบงกอลประมาณ 630 คน ในจำนวนนี้ร้อยละ 60 เป็นเด็กและผู้หญิง กองทัพเมียนมาอ้างว่า ใช้ปฏิบัติการในรัฐยะไข่ตั้งแต่ปี 2560 เพื่อกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธ แต่คณะสอบสวนของสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) แย้งว่า เป็นการจงใจฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ มีการสังหารหมู่และข่มขืน ทำให้ชาวโรฮิงญาหนีข้ามพรมแดนเข้าไปในบังกลาเทศแล้วมากกว่า 730,000 คน.-สำนักข่าวไทย