จับแล้ว! จระเข้น้ำเค็มโผล่ขุมน้ำเอกชนภูเก็ต
จับได้แล้ว “น้องพารา” จระเข้น้ำเค็ม โผล่ขุมน้ำเอกชน จ.ภูเก็ต หลังใช้เวลาตามจับ 5 คืน 6 วัน นำไปไว้ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งภูเก็ต ก่อนประกาศตามหาเจ้าของและดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย
จับได้แล้ว “น้องพารา” จระเข้น้ำเค็ม โผล่ขุมน้ำเอกชน จ.ภูเก็ต หลังใช้เวลาตามจับ 5 คืน 6 วัน นำไปไว้ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งภูเก็ต ก่อนประกาศตามหาเจ้าของและดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย
ประมงภูเก็ตร่วมกับทีมไกรทองเดินหน้าจับ “น้องพารา” จระเข้น้ำเค็ม ในขุมน้ำเอกชน ปรับแผนให้เหลือคนทำงานน้อยที่สุด ไม่ให้จระเข้แตกตื่น
ปาลู 9 ก.พ. – เจ้าหน้าที่และชาวบ้านในเมืองปาลูบนเกาะสุลาเวสีของอินโดนีเซีย ช่วยเหลือจระเข้ที่มียางรถจักรยานยนต์รัดคอมากว่า 5 ปีสำเร็จ โดยสามารถตัดยางรถที่รัดคอออกและปล่อยจระเข้คืนสู่ธรรมชาติในทันที เจ้าหน้าที่อนุรักษ์ของอินโดนีเซียได้พยายามล่อจระเข้น้ำเค็มตัวหนึ่งให้ขึ้นจากแม่น้ำมาตั้งแต่ปี 2559 หลังมีชาวบ้านในเมืองปาลูแจ้งว่าพบเห็นจระเข้ที่มียางรถจักรยานยนต์รัดคอ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ดี นายทิลี ชาวเมืองปาลู วัย 34 ปี เผยเมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ว่า เขาได้ใช้ไก่เป็นเหยื่อล่อจระเข้ตัวดังกล่าวจนสามารถใช้เชือกมัดปากมันได้ในที่สุด โดยใช้ความพยายามยาวนานถึง 3 สัปดาห์ ก่อนที่ชาวบ้านหลายสิบคนจะช่วยกันดึงจระเข้ขึ้นฝั่งและตัดยางรถจักรยานยนต์ที่รัดคอออก ทั้งนี้ จระเข้ตัวดังกล่าวได้รับการปล่อยลงแม่น้ำทันทีหลังเสร็จสิ้นภารกิจช่วยเหลือที่ได้รับเสียงปรบมือกึกก้องจากชาวบ้าน ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่อนุรักษ์ของอินโดนีเซียคาดว่า สาเหตุที่จระเข้ตัวนี้มียางรถจักรยานยนต์รัดคออาจเกิดขึ้นจากการที่ชาวบ้านใช้ยางรถดักจับจระเข้มาเป็นสัตว์เลี้ยง แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ ก่อนหน้านี้ สื่อของอินโดนีเซียได้รายงานข่าวเกี่ยวกับจระเข้ตัวนี้เมื่อช่วงต้นปี 2563 หลังทางการท้องถิ่นประกาศให้เงินรางวัลแก่ชาวบ้านที่สามารถจับจระเข้และตัดยางรถจักรยานยนต์ออกจากคอของมันได้ แต่ก็ประกาศยกเลิกรางวัลดังกล่าวในเวลาต่อมา เนื่องจากเกรงว่าอาจทำให้เกิดอันตรายต่อชาวบ้าน อย่างไรก็ดี สำนักงานอนุรักษ์ของเมืองปาลูระบุว่า จะมอบเงินรางวัลจำนวนหนึ่งให้แก่นายทิลีสำหรับความพยายามอันกล้าหาญเพื่อช่วยเหลือสัตว์ป่าในครั้งนี้.-สำนักข่าวไทย
บริสเบน 10 พ.ย. – ชายชาวออสเตรเลีย วัย 60 ปี รอดพ้นคมเขี้ยวจระเข้ตัวยักษ์ราวปาฏิหาริย์ด้วยการใช้มีดพกกระหน่ำแทงหัวจระเข้นับครั้งไม่ถ้วนในขณะมันกำลังลากเขาลงไปในแม่น้ำ หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมของรัฐควีนส์แลนด์ในออสเตรเลียระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ชายคนดังกล่าวไปตกปลาในที่ดินของเขาใกล้เมืองโฮปเวล ซึ่งใช้เวลาขับรถยนต์ประมาณ 5 ชั่วโมงจากเมืองแคนส์ และได้ไล่วัวตัวหนึ่งออกไปจากริมฝั่งแม่น้ำเพื่อใช้พื้นที่ดังกล่าว ทันใดนั้น จระเข้น้ำเค็มตัวใหญ่ ซึ่งเชื่อว่ามาดักรอโจมตีวัวเพื่อเป็นอาหาร ก็พุ่งเข้าจู่โจมชายคนนี้ โดยที่เขาระบุว่าเห็นจระเข้เพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่มันจะพุ่งใส่และชนเขาล้มลงพื้นในตอนที่เขากำลังเหวี่ยงคันเบ็ด เขาจับกิ่งไม้ต้นโกงกางไว้เพื่อไม่ให้ถูกจระเข้ลากลงแม่น้ำในขณะที่มันใช้คมเขี้ยวงับรองเท้าบู๊ตที่เขาสวมอยู่ อย่างไรก็ดี ในช่วงที่จระเข้กำลังลากเขาลงแม่น้ำ เขาตัดสินใจหยิบมีดพกที่คาดไว้ตรงเข็มขัดออกมากระหน่ำแทงหัวจระเข้จนกระทั่งมันปล่อยเขาและหนีลงน้ำไป แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุว่า หลังเหตุการณ์สุดระทึกจบสิ้นลง ชายคนนี้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับจระเข้ก็ตะเกียกตะกายขึ้นฝั่งและขับรถยนต์ไปโรงพยาบาลคุกทาวน์เพื่อรับการรักษา หลังจากนั้น เขาถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลแคนส์เป็นเวลาอีก 1 สัปดาห์ ทั้งนี้ จระเข้น้ำเค็มในออสเตรเลีย ซึ่งตัวโตเต็มวัยอาจมีลำตัวยาวถึง 7 เมตรและมีน้ำหนักกว่า 1 ตัน มีจำนวนพุ่งสูงขึ้นนับตั้งแต่ได้รับการประกาศให้เป็นสัตว์คุ้มครองในปี 2514 และเหตุการณ์ระทึกขวัญในครั้งนี้ก็ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการหาทางควบคุมพวกมัน.-สำนักข่าวไทย
ชาวบ้านจับจระเข้น้ำเค็มตัวใหญ่ ขนาดยาวกว่า 4 เมตร หลังพบเกยตื้นในร่องน้ำป่าชายเลนคลองราง เบื้องต้นคาดเป็นตัวเดียวกับที่ชาวบ้านพบเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่พิทักษ์เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าชาวออสเตรเลียเล่าประสบการณ์รอดตายด้วยการจิ้มลูกตาจระเข้ เพราะเป็นจุดอ่อนอย่างเดียวของสัตว์เลื้อยคลานเกราะเหล็กแบบนี้
ตำรวจรัฐฟลอริดาของสหรัฐ โพสต์คลิปวีดีโอ ขณะกำลังช่วยกันจับจระเข้น้ำเค็มตัวหนึ่ง ความยาว 3.4 เมตร ขณะลงไปในสระว่ายน้ำของบ้านหลังหนึ่ง ในเมืองโนโกมิส