เครนส์ 16 พ.ย.- เจ้าหน้าที่พิทักษ์เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าชาวออสเตรเลียคนหนึ่งเล่าประสบการณ์รอดตาย หลังจากต่อสู้กับจระเข้น้ำเค็มด้วยการจิ้มลูกตาจระเข้ เพราะเป็นจุดอ่อนอย่างเดียวของสัตว์เลื้อยคลานเกราะเหล็กแบบนี้
นายเครก ดิกแมน วัย 54 ปี เล่าให้สื่อฟังขณะรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในเมืองเครนส์ รัฐควีนส์แลนด์ว่า เหตุเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วเมื่อเขาตัดสินใจไปตกปลาอย่างกะทันหันในเขตห่างไกลทางตอนเหนือของประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเป็นถิ่นจระเข้ จระเข้น้ำเค็มความยาว 2.8 เมตรตัวหนึ่งว่ายเงียบ ๆ มาจากด้านหลังขณะที่เขากำลังจะออกจากฝั่ง จู่ ๆ ก็เห็นหัวของมันพุ่งขึ้นมา เขาไม่มีวันลืมเสียงขากรรไกรของมันตอนงับที่น่องของเขา และสู้กับมันที่พยายามลากเขาลงน้ำ ก่อนใช้นิ้วหัวแม่โป้งจิ้มไปที่ตามันอย่างเต็มแรง เพราะเป็นจุดอ่อนจุดเดียวที่มีอยู่ เขาคิดว่าช่วงเวลานั้นทั้งเขาและมันคงคิดว่าจะเอายังไงดี เขารีบผลักมันให้พ้นตัว แล้วมันก็กลับลงน้ำหายไป เขามีแผลที่แขนและขา แต่ก็แข็งใจขับรถกลับถึงบ้านอีก 45 นาทีต่อมาแล้วเรียกรถพยาบาลมารับ พร้อมกับสำทับว่าจระเข้ตัวนั้นเจ้าเล่ห์และชั่วร้ายมาก
ด้านสำนักงานสิ่งแวดล้อมรัฐควีนส์แลนด์แถลงว่า ได้กำจัดจระเข้ตัวนั้นด้วยวิธีการที่ไม่ทารุณแล้ว และเตือนว่าเป็นที่รู้กันดีว่าพื้นที่เกิดเหตุเป็นถิ่นจระเข้ ประชาชนจึงควรระมัดระวังจระเข้อยู่เสมอ พื้นที่ทางเหนือของออสเตรเลียเป็นเขตร้อนจึงพบจระเข้น้ำเค็มอยู่เสมอ บางตัวโตได้ถึง 7 เมตร จำนวนประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ทางการประกาศให้เป็นสัตว์คุ้มครองในช่วงคริสต์ทศวรรษหลังปี 1970 แต่แทบไม่มีเหตุทำร้ายคนปรากฏเท่าใดนัก มีคนถูกจระเข้น้ำเค็มทำร้ายไม่ถึงตายครั้งหลังสุดเมื่อเดือนมกราคมปีก่อน และมีผู้เสียชีวิตครั้งหลังสุดเมื่อเดือนตุลาคม 2560.-สำนักข่าวไทย