เมียนมาจะนิรโทษกรรม 1,600 คนในวันขึ้นปีใหม่

ย่างกุ้ง 17 เม.ย.- ครอบครัวของผู้ต้องขังจำนวนมากรวมตัวกันหน้าเรือนจำอินเส่งใกล้นครย่างกุ้งของเมียนมา หลังจากรัฐบาลทหารเมียนมาประกาศว่า จะนิรโทษกรรมผู้ต้องขังประมาณ 1,600 คน ในวันนี้ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ของเมียนมา ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นรายงานโดยไม่เปิดเผยชื่อว่า หลายครอบครัวที่ดูกระวนกระวายถือป้ายเขียนชื่อผู้ต้องขังที่เป็นสมาชิกในครอบครัว โดยมีตำรวจนอกเครื่องแบบยืนสังเกตการณ์อยู่ใกล้ ๆ สตรีคนหนึ่งที่บุตรชายวัย 22 ปี ถูกจับกุมขณะประท้วงเมื่อ 8 เดือนก่อนเผยว่า มารอหน้าเรือนจำเนื่องจากบุตรชายส่งจดหมายมาบอกว่าอาจได้รับนิรโทษกรรมในเดือนนี้ ส่วนสตรีอีกคนที่บุตรชายซึ่งเป็นตำรวจถูกจับกุมในเดือนมิถุนายนปีก่อนโทษฐานเข้าร่วมการดื้อแพ่งประท้วงรัฐบาลเผยว่า มารอหน้าเรือนจำทุกครั้งที่มีการนิรโทษกรรม หวังว่าบุตรชายจะได้รับการปล่อยตัวในวันนี้ พล.ท.อ่อง ลิน เว เลขาธิการสภาบริหารแห่งรัฐของเมียนมาลงนามแถลงการณ์ที่ประกาศว่า ผู้ต้องขัง 1,619 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวต่างชาติ 42 คน จะได้รับการปล่อยตัวด้วยการนิรโทษกรรม เป็นส่วนหนึ่งของฉลองวันขึ้นปีใหม่ของเมียนมา เพื่อนำมาซึ่งความสุขให้แก่ประชาชนและแก้ปัญหาด้านมนุษยธรรม รอยเตอร์ระบุว่า จำนวนผู้ต้องขังที่จะได้รับการปล่อยตัวในวันนี้ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับที่แล้วที่ปล่อยมากถึง 23,000 คน และยังไม่ชัดเจนว่าจะมีสมาชิกรัฐบาลพลเรือนที่ถูกกองทัพรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 หรือไม่ ด้านสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองเผยว่า ตั้งแต่รัฐประหารรัฐบาลทหารเมียนมาได้จับกุมคนไปแล้ว 13,282 คน และสังหารผู้ต่อต้าน 1,756 คน.-สำนักข่าวไทย

เชียงใหม่โควิดพุ่ง-พบติดเชื้อในครอบครัวมากขึ้น

ชาวเชียงใหม่ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูงทยอยตรวจหาเชื้อโควิดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน พบจากจำนวนผู้มาตรวจเกือบครึ่งหนึ่งผลเป็นบวก และพบเป็นการติดเชื้อในครอบครัวมากขึ้นในหลายพื้นที่

“โจลี” วอนเร่งผ่านกฎหมายจัดการความรุนแรงในครอบครัว

วอชิงตัน 10 ก.พ.- แอนเจลีนา โจลี นักแสดงหญิงฮอลลีวูดเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาสหรัฐเร่งผ่านร่างกฎหมายจัดการกับการใช้ความรุนแรงในครอบครัวโดยทันที โจลี วัย 46 ปี น้ำตาคลอขณะแถลงข่าวที่อาคารรัฐสภา เรียกร้องให้สมาชิกสภาให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกกับการบังคับใช้กฎหมายการใช้ความรุนแรงต่อสตรี (Violence Against Women Act หรือ VAWA) อีกครั้ง เพื่อช่วยให้เหยื่อความรุนแรงในครอบครัวได้รับความช่วยเหลือทางการแพทย์และทางกฎหมาย และช่วยให้เด็กที่เผชิญกับการใช้ความรุนแรงในบ้านได้รับความช่วยเหลือ เธอกล่าวว่า ความจริงที่น่าเจ็บปวดคือ การใช้ความรุนแรงในครอบครัวถูกทำให้เป็นเรื่องปกติธรรมดาไปแล้วในสหรัฐ กฎหมายดังกล่าวลงนามบังคับใช้ครั้งแรกในปี 2537 มีประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ขณะนั้นเป็นสมาชิกวุฒิสภาเป็นผู้ร่างเนื้อหาหลัก หลังจากนั้นมีการแก้ไขกฎหมายหลายครั้ง โดยผ่านความเห็นชอบจากสมาชิกสภาทั้งพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันทุกครั้ง แต่กฎหมายฉบับแก้ไขในปี 2562 ที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรกลับไปค้างในวุฒิสภา ที่ขณะนั้นพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ทำให้ไม่มีการลงมติในขั้นสุดท้าย อย่างไรก็ดี กฎหมายฉบับที่มีการนำเสนอเมื่อวันพุธได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสภาทั้งสองพรรค ด้านประธานาธิบดีไบเดน ขอบคุณกลุ่มสมาชิกสภาที่ผลักดันให้มีการบังคับใช้กฎหมายนี้อีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ครอบครัว-บุคคลใกล้ชิดร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ “หมอกระต่าย”

ครอบครัวและบุคคลใกล้ชิดจำนวนมากหลั่งไหลร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ “หมอกระต่าย” ด้วยความอาลัยรักเป็นครั้งสุดท้าย ขณะที่ ส.ต.ต.นรวิชญ์ หรือพระนรวิชญ์ ผู้ต้องหา เดินทางร่วมส่งวิญญาณ “หมอกระต่าย” ด้วยเช่นกัน

สหรัฐเล็งให้นักการทูตออกจากจีนเพราะระเบียบโควิด

วอชิงตัน 26 ม.ค.- กระทรวงต่างประเทศสหรัฐกำลังพิจารณาเรื่องให้นักการทูตและครอบครัวเดินทางออกจากจีนตามความต้องการ เนื่องจากไม่สามารถห้ามทางการจีนใช้มาตรการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่เคร่งครัดจนเป็นการล่วงล้ำการดำเนินชีวิต แหล่งข่าวเผยว่า สถานทูตสหรัฐในกรุงปักกิ่งได้ส่งคำขอมายังรัฐบาลสหรัฐเมื่อวันจันทร์ให้อนุมัติอย่างเป็นทางการ เนื่องจากจีนได้เพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมการระบาดก่อนที่กรุงปักกิ่งจะเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาวในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่สถานทูตบางคนผิดหวังที่รัฐบาลสหรัฐไม่เต็มใจหรือไม่สามารถทำให้พวกเขาได้รับการยกเว้นจากมาตรการกักโรคที่เคร่งครัดของจีน เช่น บังคับให้เข้ารับการรักษาตามคลินิกโควิด แยกพวกเขาจากบุตรหลาน ด้านโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงเมื่อวันอังคารว่า สถานะการบริหารงานที่สถานทูตและสถานกงสุลในจีนยังคงเหมือนเดิม การเปลี่ยนแปลงใด ๆ จะเกิดขึ้นต่อเมื่อเป็นไปเพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และความมั่นคงของนักการทูตและครอบครัวเท่านั้น ผลการสำรวจภายในสถานทูตสหรัฐประจำกรุงปักกิ่งพบว่า เจ้าหน้าที่และครอบครัวมากถึง 1 ใน 4 ต้องการเดินทางออกจากจีนโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ช่วงที่จีนเกิดการระบาดใหม่ ๆ สหรัฐได้อพยพนักการทูตและครอบครัวออกจากจีนประมาณ 1,300 คน.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐสั่งให้ครอบครัว จนท. สถานทูตเดินทางออกจากยูเครน

วอชิงตัน 24 ม.ค. – สหรัฐสั่งให้ครอบครัวของเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐประจำยูเครนเดินทางออกจากยูเครน และแจ้งเตือนพลเมืองไม่ให้เดินทางไปยูเครนกับรัสเซีย ในขณะที่ยูเครนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น หลังมีรายงานว่ารัสเซียกำลังวางแผนใช้ปฏิบัติการทหารต่อยูเครน กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐระบุในแถลงการณ์ว่า ทางการได้สั่งให้ครอบครัวของเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐประจำยูเครนเดินทางออกนอกประเทศ อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ที่ไม่มีภารกิจจำเป็นของสถานทูตสหรัฐประจำยูเครนทำเรื่องเดินทางกลับสหรัฐได้ และประกาศแจ้งเตือนให้พลเมืองสหรัฐที่อาศัยอยู่ในยูเครนพิจารณาการเดินทางออกนอกประเทศ เนื่องจากได้รับรายงานว่ารัสเซียกำลังวางแผนใช้กำลังทหารต่อยูเครน อย่างไรก็ดี รัสเซียได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริง และรัสเซียไม่ได้วางแผนบุกยูเครน แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุว่า กระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้แจ้งเตือนพลเมืองไม่ให้เดินทางไปยูเครนกับรัสเซีย เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและอาจทำให้เกิดภัยคุกคามต่อพลเมืองสหรัฐ ขณะที่เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐเผยว่า สถานทูตสหรัฐประจำยูเครนยังคงเปิดทำการตามปกติ แต่ได้เน้นย้ำถึงประกาศเตือนจากทำเนียบขาวสหรัฐว่า การบุกรุกของรัสเซียอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และรัฐบาลสหรัฐไม่สามารถที่จะอพยพพลเมืองออกจากยูเครนได้ในสถานการณ์เช่นนี้. -สำนักข่าวไทย

รณรงค์ “ความรุนแรงในบ้าน ให้มันจบที่ครั้งแรก”

เครือข่ายผู้หญิงจัดเวที ส่งสัญญาณเตือน วันยุติความรุนแรงต่อสตรีสากล พบสถิติ 3 ใน 4 ถูกกระทำซ้ำ น้ำเมาตัวกระตุ้นหลัก ช่วงโควิดรุนแรงเพิ่มขึ้น ชวนผู้หญิงอย่าทน ต้องหยุดความรุนแรงตั้งแต่ครั้งแรก

สาวเกาหลีใต้ ออกจากงานหลังแต่งงานมากถึง 1 ใน 6

โซล 23 พ.ย.-สำนักงานสถิติเกาหลีแจ้งว่า สตรีเกาหลีใต้ที่แต่งงานแล้วลาออกจากงานมากกว่า 1 ใน 6 ในปีนี้เพื่อเลี้ยงลูกและดูแลครอบครัว ขณะที่อัตราจ้างงานสตรีแต่งงานแล้วเพิ่มขึ้น สะท้อนว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว ข้อมูลของสำนักงานสถิติระบุว่า สตรีวัย 15-54 ปีที่ลาออกจากงานหลังแต่งงานมีจำนวน 1 ล้าน 4 แสน 5 หมื่นคนในเดือนเมษายนปีนี้ ลดลงร้อยละ 3.8 จากเดือนเมษายนปีก่อน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 17.4 ของสตรีที่แต่งงานทั้งหมด 8 ล้าน 3 แสน 2 หมื่นคน ลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 17.6 ในเดือนเมษายนปีก่อน ตัวเลขที่ลดลงในปีนี้ สอดล้องกับตัวเลขสตรีแต่งงานที่ลดลงเช่นเดียวกัน ในบรรดาสตรีที่ตัดสินใจลาออกจากงานหลังจากแต่งงาน ร้อยละ 43.2 ให้เหตุผลว่า เพื่อทุ่มเทเวลาให้แก่การเลี้ยงลูก ร้อยละ 27.4 บอกว่า เป็นเพราะแต่งงานมีครอบครัวแล้ว และร้อยละ 22.1 บอกว่าเป็นเพราะตั้งครรภ์และคลอดบุตร สตรีกลุ่มอายุ 30-39 ปี เป็นกลุ่มที่ลาออกจากงานหลังแต่งงานมากที่สุด ตามด้วยสตรีกลุ่มอายุ 40-49 […]

ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวพุ่ง

ไทยพบปัญหาความรุนแรงในครอบครัวเป็นปัญหาสะสมมานาน แม้มีกฎหมายคุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งช่วยคุ้มครองและมีกลไกการแจ้งเบาะแสและช่วยเหลือ แต่จากสถิติพบว่าในช่วงนี้มีผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัวเพิ่มมากขึ้น

สถิติความรุนแรงในครอบครัว ช่วงโควิดพุ่งสูงเฉลี่ย 200 เรื่อง/เดือน

พม.เผยยอดรายงานผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัวพบว่าในช่วงโควิดพุ่งสูงเฉลี่ย 200 เรื่องต่อเดือน

ชันสูตรซ้ำ! ครอบครัวเชื่อตายเพราะวัคซีนเข็มแรก

ครอบครัวสาววัย 19 ปี ที่ฉีดแอสตราเซเนกาเข็มแรก ก่อนจะป่วยและเสียชีวิต วันนี้ส่งศพชันสูตรรอบ 2 ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ยืนยันผู้ตายร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว ไม่ฉีดผิวขาว ไม่กินยาลดความอ้วน มั่นใจตายเพราะฉีดวัคซีนเข็มแรก

1 3 4 5 6 7 21
...