protesters call for rich countries to pay up for poor countries

ประเทศกำลังพัฒนาไม่พอใจข้อตกลง COP29

บากู 24 พ.ย.- ที่ประชุมโลกร้อนบรรลุข้อตกลงให้เงินช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาปีละ 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 10.34 ล้านล้านบาท) ในการรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ประเทศผู้รับความช่วยเหลือระบุว่าไม่เพียงพอ การประชุมสมัชชาภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 29 หรือคอป 29 (COP29) เริ่มต้นมาตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายนที่กรุงบากูของอาเซอร์ไบจาน มีกำหนดเสร็จสิ้นในวันที่ 22 พฤศจิกายน แต่ยืดเยื้อมาจนถึงวันนี้ เนื่องจากตัวแทนจากเกือบ 200 ประเทศถกเถียงกันอย่างหนัก โดยเมื่อวานนี้ตัวแทนจากประเทศกำลังพัฒนาและประเทศเกาะบางแห่งเดินออกจากที่ประชุมด้วยความไม่พอใจ และหลังจากที่ประชุมสามารถบรรลุข้อตกลงได้ในวันนี้ ผู้ร่วมประชุมบางคนลุกขึ้นยืนปรบมือ ขณะที่บางคนตำหนิประเทศร่ำรวยว่า ยังพยายามไม่มากพอและวิจารณ์ประเทศเจ้าภาพว่ารีบเร่งตัดบทปิดการประชุม ทั้งที่ยังมีการถกเถียงเนื้อหาของข้อตกลงอยู่ ตัวแทนจากอินเดียกล่าวในการปิดสมัยประชุมว่า ข้อตกลงดังกล่าวเป็นเพียงภาพลวงตาที่ไม่สามารถแก้ไขความรุนแรงของปัญหาที่ทุกประเทศกำลังเผชิญอยู่ ดังนั้นอินเดียจึงขอคัดค้านการยอมรับข้อตกลงนี้ ด้านนายไซมอน สตีลล์ เลขาธิการกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือยูเอ็นเอฟซีซีซี (UNFCCC) ยอมรับว่า เป็นการเจรจาที่ยากเย็น แต่ก็ได้ข้อตกลงที่เปรียบเสมือนกรมธรรม์ประกันภัยให้แก่มนุษยชาติในการรับมือกับภาวะโลกร้อน อย่างไรก็ดี กรมธรรม์นี้จะมีผลบังคับใช้ต่อเมื่อมีการจ่ายเบี้ยประกันอย่างครบถ้วนและตรงต่อเวลาเท่านั้น ภายใต้ข้อตกลงนี้ประเทศร่ำรวยรับปากจะจัดสรรเงินช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาในการรับมือกับภาวะโลกร้อนปีละ 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 10.34 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2578 เพิ่มขึ้นจากข้อตกลงเดิมที่รับปากจะจัดสรรปีละ 100,000 […]

ฟิลิปปินส์-ญี่ปุ่นลงนามข้อตกลงกลาโหม

มะนิลา 8 ก.ค.- ฟิลิปปินส์และญี่ปุ่นลงนามข้อตกลงการเข้าถึงต่างตอบแทนหรืออาร์เอเอ (RAA) ที่จะให้ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถส่งกำลังพลไปยังดินแดนอีกฝ่ายได้ เลขาธิการด้านการสื่อสารของประธานาธิบดีฟิลิปปินส์แถลงวันนี้ว่า นายกิลแบร์โต เตียวโดโร รัฐมนตรีกลาโหมฟิลิปปินส์ และนางโยโกะ กามิกาวะ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น ได้ลงนามข้อตกลงที่กรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์ โดยมีประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ของฟิลิปปินส์ร่วมเป็นสักขีพยาน ข้อตกลงนี้จะสร้างกรอบในการอำนวยความสะดวกให้แก่ความร่วมมือทางทหาร เช่น เปิดทางให้กองกำลังที่มาเยือนสามารถนำกำลังพลและยุทโธกรณ์เข้าประเทศได้ง่ายขึ้น ข้อตกลงนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อรัฐสภาของ 2 ประเทศให้สัตยาบัน ถือเป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นทำอาร์เอเอในเอเชีย หลังจากที่มีอาร์เอเอกับออสเตรเลียและอังกฤษ และกำลังเจรจากับฝรั่งเศส รอยเตอร์มองว่า การมีกำลังพลญี่ปุ่นประจำการในฟิลิปปินส์อาจช่วยให้ฟิลิปปินส์สามารถต้านทานอิทธิพลของจีนในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นน่านน้ำที่จีนอ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อนกับหลายประเทศ ส่วนญี่ปุ่นไม่มีข้อพิพาทกับจีนในทะเลจีนใต้ แต่มีข้อพิพาทกับจีนในทะเลจีนตะวันออก.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกรัฐมตรีจีนเยือนนิวซีแลนด์กระชับความสัมพันธ์

สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานวันนี้ว่า จีนคาดหวังว่า สหภาพยุโรป หรือ อียู จะพิจารณาใหม่อีกครั้งเกี่ยวกับอัตราภาษีที่จะเก็บจากรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน และอยากให้อียูหยุดการเดินหน้าไปยังทิศทางที่ผิดในการปกป้องอุตสาหกรรมยานยนต์จากการแข่งขันกันในเชิงธุรกิจ

ผู้นำเกาหลีใต้อนุมัติระงับใช้ข้อตกลง 2 เกาหลีอย่างเต็มตัว

โซล 4 มิ.ย.- ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอลของเกาหลีใต้อนุมัติข้อเสนอให้ระงับการบังคับใช้ข้อตกลงลดความตึงเครียด 2 เกาหลีปี 2561 อย่างเต็มตัว หลังจากเกาหลีเหนือส่งลูกโป่งผูกขยะลอยข้ามพรมแดนเข้ามาในเกาหลีใต้เป็นจำนวนมาก ประธานาธิบดียุนลงนามอนุมัติข้อเสนอที่ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ หลังจากสภาความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีได้ตัดสินใจเมื่อวันจันทร์ว่า จะระงับการบังคับใช้ข้อตกลงทางทหารอย่างครอบคลุม (Comprehensive Military Agreement) เพื่อตอบโต้ที่เกาหลีเหนือส่งลูกโป่งเข้ามาเกือบ 1,000 ลูกนับจากวันที่ 29 พฤษภาคม และรบกวนการส่งสัญญาณจีพีเอสของเกาหลีใต้ นายกรัฐมนตรีฮัน ด็อก-ซูกล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า การยั่วยุไม่หยุดของเกาหลีเหนือไม่เพียงเป็นอันตรายต่อชีวิตและความปลอดภัยของประชาชน แต่ยังบ่อนทำลายสันติภาพของคาบสมุทรเกาหลีอย่างร้ายแรง การระงับการบังคับใช้ข้อตกลงทางทหารวันที่ 19 กันยายน 2561 เป็นความชอบธรรมตามกฎหมาย เปิดทางให้เกาหลีใต้สามารถฝึกซ้อมทางทหารใกล้เส้นปักปันเขตแดนทางทหาร และสามารถดำเนินการตอบโต้การยั่วยุของเกาหลีเหนือได้อย่างเพียงพอและทันที การระงับการบังคับใช้ข้อตกลงจะมีผลจนกว่าจะมีการฟื้นฟูความไว้วางใจระหว่าง 2 เกาหลี ด้านกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้แถลงหลังจากประธานาธิบดีลงนามอนุมัติว่า จะฟื้นกิจกรรมทางทหารตามปกติทั้งหมดใกล้เส้นปักปันเขตแดนทางทหารและหมู่เกาะพรมแดนทางตะวันตกเฉียงเหนือที่เคยถูกจำกัดจากข้อตกลงปี 2561 และจะดำเนินมาตรการทุกอย่างเพื่อปกป้องชีวิตและความปลอดภัยของประชาชนเกาหลีใต้ ก่อนหน้านี้เกาหลีใต้ได้ระงับการบังคับใช้ข้อตกลงนี้เป็นบางส่วนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 หลังจากเกาหลีเหนือปล่อยดาวเทียมจารกรรมเข้าสู่วงโคจรสำเร็จ ครั้งนั้นเกาหลีใต้ได้ยกเลิกการใช้เขตห้ามบินบริเวณพรมแดน ทำให้สามารถฟื้นการลาดตระเวนและสอดแนมบริเวณพรมแดน 2 เกาหลี.-814.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้จะระงับข้อตกลงปี 2561 กับเกาหลีเหนือ

โซล 3 มิ.ย.- เกาหลีใต้จะระงับการบังคับใช้ข้อตกลงลดความตึงเครียดระหว่าง 2 เกาหลีปี 2561 จนกว่าจะกลับมามีความไว้วางใจร่วมกันอีกครั้ง เป็นการตอบโต้ที่เกาหลีเหนือส่งลูกโป่งผูกขยะจำนวนมากลอยข้ามพรมแดนเข้ามาในเกาหลีใต้ ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้แออกแถลงการณ์ในวันนี้ว่า สภาความมั่นคงซึ่งเป็นหน่วยงานที่ปรึกษาของประธานาธิบดีได้จัดการประชุมกับกระทรวงที่เกี่ยวข้องในวันนี้ เพื่อประเมินพฤติกรรมยั่วยุล่าสุดของเกาหลีเหนือ และเห็นพ้องว่าจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคาร ให้ระงับการบังคับใช้ข้อตกลงทางทหารอย่างครอบคลุมวันที่ 19 กันยายน 2561 จนกว่าจะกลับมามีความไว้วางใจระหว่าง 2 เกาหลี ที่ประชุมสภาความมั่นคงได้ข้อสรุปว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของเกาหลีเหนือได้ก่อให้เกิดอันตรายและภัยคุกคามอย่างแท้จริงต่อพลเมืองเกาหลีใต้ และส่งผลทางลบต่อการเตรียมพร้อมของกองทัพ การระงับการบังคับใช้ข้อตกลงปี 2561 จะเปิดทางให้กองทัพสามารถฝึกซ้อมใกล้เส้นแบ่งเขตแดนทางทหาร และสามารถตอบโต้การยั่วยุของเกาหลีเหนือได้อย่างเพียงพอและทันที เกาหลีเหนือได้ส่งลูกโป่งหิ้วขยะเข้าเกาหลีใต้ร่วม 1,000 ใบ นับตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้แถลงเมื่อวันที่ 2 มิถุนายนว่า รัฐบาลจะดำเนินมาตรการที่หนักหน่วงจนเกินรับไหวกับเกาหลีเหนือที่ส่งลูกโป่งผูกถุงขยะจำนวนมากและรบกวนการส่งสัญญาณจีพีเอส (GPS) ทำให้เกาหลีเหนือแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า จะระงับการส่งลูกโป่งไปเกาหลีใต้ แต่ก็พร้อมจะทำอีก หากกลุ่มนักเคลื่อนไหวในเกาหลีใต้ส่งลูกโป่งติดใบปลิวต่อต้านรัฐบาลเกาหลีเหนือลอยข้ามมาอีก.-814.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำยูเครนไปลงนามข้อตกลงทางทหารกับเบลเยียม

บรัสเซลส์ 28 พ.ค.- ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครน ลงนามข้อตกลงความมั่นคงทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีอเล็กซานเดอร์ เดอ ครู ของเบลเยียมที่กรุงบรัสเซลส์ในวันนี้ ซึ่งมีเรื่องการส่งมอบฝูงบินขับไล่เอฟ-16 จำนวน 30 ลำด้วย ประธานาธิบดีเซเลนสกีโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์วันนี้ว่า เอกสารข้อตกลงครอบคลุมเรื่องความช่วยเหลือทางทหารมูลค่าอย่างน้อย 977 ล้านยูโร (ราว 38,885 ล้านบาท) ที่เบลเยียมจะจัดสรรให้แก่ยูเครนในปีนี้ และเรื่องคำมั่นของเบลเยียมที่จะให้การสนับสนุนตลอดระยะเวลา 10 ปี ของข้อตกลงนี้ ส่วนเมื่อวานนี้ผู้นำยูเครนได้ไปเยือนสเปน ซึ่งรับปากจะจัดสรรการสนับสนุนทางทหารมูลค่า 1,000 ล้านยูโร (ราว 39,800 ล้านบาท) ในปีนี้ ตามข้อตกลงความมั่นคงระหว่างผู้นำยูเครนกับรัฐบาลสเปน ยูเครนได้ลงนามข้อตกลงความมั่นคงหลายฉบับกับหุ้นส่วนชาติตะวันตกหลายประเทศที่รับปากจะให้ความช่วยเหลือด้านความมั่นคงในระยะยาวแก่ยูเครนในรูปของการจัดสรรอาวุธและการฝึกอบรมกำลังพล.-814.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้หารือการเข้าร่วมเป็นภาคีข้อตกลงออคัส

เกาหลีใต้เข้าร่วมการเจรจาเกี่ยวกับการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกติกาสัญญาความมั่นคงไตรภาคีระหว่างประเทศออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐ หรือ ออคัส (AUKUS) หลังจากไม่กี่สัปดาห์ก่อนออคัสกล่าวว่า กำลังพิจารณาให้ญี่ปุ่นเข้าร่วมเป็นภาคีข้อตกลงนี้ด้วย

ประธานคอป 28 เร่งที่ประชุมมีร่างข้อตกลงภายในวันนี้

ประธานการประชุมโลกร้อนที่ดูไบ เร่งผู้เข้าร่วมการประชุมบรรลุร่างข้อตกลงภายในวันนี้ ก่อนที่การประชุมจะปิดฉากในอีก 4 วัน

เกาหลีเหนือเตือนสงครามคาบสมุทรเกาหลีรอเวลาเกิด

เปียงยาง 3 ธ.ค.- เกาหลีเหนือเตือนในวันนี้ว่า การปะทะทางกายภาพและสงครามบนคาบสมุทรเกาหลีได้กลายเป็นเรื่องที่รอเวลาจะเกิดขึ้น หลังจากมีการยกเลิกข้อตกลงลดความตึงเครียดทางทหาร 2 เกาหลี สำนักข่าวกลางเกาหลีหรือเคซีเอ็นเอ (KCNA) ของทางการเกาหลีเหนือ เผยแพร่บทความของนักวิจารณ์ทางทหารชาวเกาหลีเหนือที่กล่าวโทษเกาหลีใต้ว่า เป็นฝ่ายทำให้เกิดการยกเลิกข้อตกลงทางทหารแบบครอบคลุมปี 2561 ที่กำหนดให้ดำเนินมาตรการทางทหารอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน 2 เกาหลี การเคลื่อนไหวที่ไร้ความยั้งคิดของกลุ่มหุ่นเชิดผู้ทรยศ ทำให้การเผชิญหน้าทางทหารกลับมาร้ายแรงเหมือนช่วงก่อนมีข้อตกลง เนื่องจากข้อตกลงนี้เป็นสิ่งสุดท้ายที่จะป้องกันความขัดแย้งทางทหารที่เกิดขึ้นโดยไม่เจตนาบริเวณเส้นแบ่งเขตทางทหารที่มีกำลังทหารขนาดใหญ่เผชิญหน้ากันตึงเครียดที่สุดในโลก ดังนั้นการปะทะทางกายภาพและสงครามบนคาบสมุทรเกาหลีจึงกลายเป็นเรื่องที่รอเวลาจะเกิดขึ้น ไม่ใช่เรื่องความเป็นไปได้อีกต่อไป บทความระบุด้วยว่า การกระทำปรปักษ์ของกลุ่มหุ่นเชิดต่อต้านสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (หมายถึงเกาหลีเหนือ) จะนำมาซึ่งการทำลายล้างกองทัพหุ่นเชิดอย่างแสนสาหัส และการล่มสลายอย่างสิ้นเชิงของสาธารณรัฐเกาหลี (หมายถึงเกาหลีใต้) เกาหลีเหนือยกเลิกข้อตกลงดังกล่าวในเดือนพฤศจิกายน หลังจากเกาหลีใต้ประกาศยกเลิกข้อตกลงบางส่วน เพื่อประท้วงที่เกาหลีเหนือส่งดาวเทียมจารกรรมเข้าสู่วงโคจร จากนั้นเกาหลีเหนือได้ตั้งป้อมยามและนำอาวุธหนักมาประจำการบริเวณพรมแดนอีกครั้ง ขณะที่เกาหลีใต้ได้ส่งดาวเทียมจารกรรมดวงแรกเข้าสู่วงโคจรเมื่อวานนี้.-814.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีเหนือฟื้นป้อมยามชายแดนที่เคยรื้อออกไป

กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้แจ้งวันนี้ว่า เกาหลีเหนือได้ส่งทหารไปยังชายแดนด้านติดกับเกาหลีใต้ เพื่อสร้างป้อมยามขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากรื้อออกไปตามข้อตกลงลดความตึงเครียดทางทหารกับเกาหลีใต้เมื่อปี 2561

“ไบเดน” เชื่อจะมีข้อตกลงปล่อยตัวประกันในกาซา

วอชิงตัน 15 พ.ย.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐเชื่อว่า จะมีข้อตกลงกับกลุ่มฮามาสเรื่องปล่อยตัวประกันที่จับไว้ในฉนวนกาซา แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ประธานาธิบดีไบเดนตอบข้อถามผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐเรื่องข้อตกลงปล่อยตัวประกันที่กลุ่มฮามาสลักพาตัวไปตั้งแต่บุกโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมว่า เขาได้สนทนากับผู้เกี่ยวข้องทุกวัน และเชื่อว่ากำลังจะมีข้อตกลงกับฮามาสเรื่องปล่อยตัวประกัน แต่จะไม่เปิดเผยในรายละเอียด ต่อข้อถามว่ามีสิ่งที่จะบอกครอบครัวตัวประกันหรือไม่ ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า โปรดรอก่อน รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ ชาวอเมริกัน 9 คน และผู้มีถิ่นพำนักถาวรในสหรัฐ 1 คนอยู่ในกลุ่มตัวประกัน 240 คนที่ถูกฮามาสลักพาตัวไป ทำเนียบขาวแถลงว่า นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศได้หารือกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลเมื่อวันอังคารเรื่องความพยายามช่วยตัวประกัน และว่านายเบรตต์ แมคเกิร์ต ผู้ประสานงานสภาความมั่นคงแห่งชาติด้านตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือจะเดินทางไปภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยเฉพาะกาตาร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานทางการเมืองของกลุ่มฮามาส เพื่อหารือเรื่องตัวประกัน.-สำนักข่าวไทย

“ปูติน” ประชุมสุดยอดกับผู้นำแอฟริกา

มอสโก 27 ก.ค.- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียประชุมสุดยอดกับผู้นำประเทศในแอฟริกาที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในวันนี้ ขณะที่ทวีปนี้เตรียมรับผลกระทบจากการที่รัสเซียถอนตัวจากข้อตกลงให้ยูเครนส่งออกธัญพืช รัสเซียกล่าวหาชาติตะวันตกว่า พยายามขัดขวางไม่ให้ประเทศในแอฟริกาเข้าร่วมการประชุมสุดยอดครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นครั้งที่ 2 หลังจากมีการประชุมสุดยอดครั้งแรกที่เมืองโซชิ ทางใต้ของรัสเซียในปี 2562 ที่ปรึกษานโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีปูตินเผยว่า ประธานาธิบดีจะกล่าวในสารต้อนรับผู้นำ 17 ประเทศที่จะมาร่วมประชุมสุดยอดเป็นเวลา 2 วันเริ่มตั้งแต่วันนี้ว่า เป็นเรื่องสำคัญยิ่งที่ความร่วมมือระหว่างรัสเซียกับแอฟริกาได้พัฒนาไปสู่ระดับใหม่ในช่วงหลายปีมานี้ และรัสเซียต้องการจะพัฒนาให้ก้าวหน้าต่อไป ประธานาธิบดีปูตินจะกล่าวถึงวิสัยทัศน์ความสัมพันธ์รัสเซียและแอฟริกา และการสร้างระเบียบโลกใหม่ด้วย ส่วนในการประชุมสุดยอดคาดว่า ประเด็นหลักจะเป็นเรื่องที่รัสเซียไม่ต่ออายุข้อตกลงที่อนุญาตให้ยูเครนส่งออกธัญพืชผ่านทางทะเลดำไปยังตลาดโลก รวมถึงทวีปแอฟริกา ข้อตกลงนี้เปิดทางให้ยูเครนสามารถส่งออกธัญพืชประมาณ 33 ล้านตันออกจากท่าเรือยูเครนได้ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ช่วยให้ราคาอาคารโลกมีเสถียรภาพและเลี่ยงปัญหาขาดแคลนอาหาร รัสเซียพยายามให้ความมั่นใจกับประเทศในแอฟริกาว่า  เข้าใจถึงความกังวลเรื่องนี้ และพร้อมจะส่งออกธัญพืชให้ประเทศที่ต้องการโดยไม่คิดเงิน ขณะที่นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐขอให้ผู้นำในแอฟริกากดดันรัสเซียให้คำตอบเรื่องการส่งออกธัญพืชที่หยุดชะงัก ซึ่งทำให้ประเทศยากจนตกอยู่ในภาวะวิกฤต.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 13
...