fbpx

นายกฯ ถกประธาน FIFA ย้ำไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพร่วมจัดบอลโลก

นายกฯ หารือประธาน FIFA พร้อมสานต่อความร่วมมือด้านกีฬา ย้ำความพร้อมของไทยและอาเซียนในการเป็นเจ้าภาพร่วมจัดฟุตบอลโลกปี 2034

ประธานฟีฟ่าโต้เสียงวิจารณ์เจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022

โดฮา 19 พ.ย.- นายจันนี อินฟันตีโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า (FIFA) ตอบโต้นักวิจารณ์ตะวันตกว่า เสแสร้ง กรณีวิจารณ์เรื่องสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของกาตาร์ ประเทศเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 นายอินฟันตีโนแถลงข่าวที่กรุงโดฮา เมืองหลวงของกาตาร์ก่อนที่ฟุตบอลโลกจะเปิดฉากในวันพรุ่งนี้ว่า การพร่ำสอนเรื่องศีลธรรมด้านเดียวเป็นเพียงการเสแสร้ง เขาไม่อยากสอนบทเรียนชีวิตให้ใคร แต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้เป็นความไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง ชาวยุโรปควรขอโทษไปอีก 3,000 ปีข้างหน้าจากสิ่งที่ได้ทำมาตลอด 3,000 ปีที่ผ่านมา ก่อนที่จะไปเริ่มสอนศีลธรรมให้ผู้อื่น ประธานฟีฟ่าวัย 52 ปี ซึ่งเกิดที่สวิสเซอร์แลนด์ โดยมีบิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี ได้แสดงความสนับสนุนคนกลุ่มต่าง ๆ ที่มีความแตกต่างหลากหลายกันว่า วันนี้เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นชาวกาตาร์ เป็นชาวอาหรับ เป็นชาวแอฟริกัน เป็นเกย์ เป็นผู้ทุพพลภาพ และเป็นแรงงานย้ายถิ่น หลังจากกาตาร์ถูกวิจารณ์เรื่องปฏิบัติไม่ดีต่อกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ สตรี และแรงงานย้ายถิ่น ทางการกาตาร์ชี้แจงว่า ตกเป็นเป้าการเหยียดผิวและการปฏิบัติแบบสองมาตรฐาน ทั้งที่ได้ปฏิรูปเรื่องสภาพการทำงานและความปลอดภัยในการทำงาน จนได้รับยกย่องว่าก้าวหน้าที่สุดในกลุ่มประเทศริมอ่าวอาหรับหรืออ่าวเปอร์เซียแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ฟีฟ่าวอนหยุดยิงในยูเครนช่วงฟุตบอลโลก

นูซา ดัว 15 พ.ย.- ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า (FIFA) เรียกร้องให้มีการหยุดยิงนาน 1 เดือนในยูเครนในช่วงที่จะมีการแข่งขันฟุตบอลโลก โดยระบุว่ากีฬาสามารถทำให้คนมารวมกันได้ นายจันนี อินฟันตีโน ประธานฟีฟ่ากล่าวระหว่างมื้อเที่ยงของที่ประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่หรือจี 20 (G20) ที่บาหลีในวันนี้ว่า ฟุตบอลโลก 2022 ที่จะเปิดฉากในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ที่กาตาร์สามารถเป็นตัวกระตุ้นเชิงบวกให้แก่สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ดำเนินมาเกือบ 9 เดือน เขาขอร้องทุกคนให้พิจารณาเรื่องหยุดยิงชั่วคราวเป็นเวลา 1 เดือนในช่วงที่มีการแข่งขันจนถึงวันที่ 18 ธันวาคม หากไม่สามารถหยุดยิงได้เต็มรูปแบบ ก็ขอให้มีการเปิดเส้นทางมนุษยธรรมหรือมีสิ่งใดก็ตามที่อาจจะนำไปสู่การฟื้นการเจรจาอีกครั้ง ประธานฟีฟ่ากล่าวว่า ฟุตบอลเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนมารวมตัวกัน รัสเซียเพิ่งเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2018 ขณะที่ยูเครนก็กำลังร่วมกับสเปนและโปรตุเกสเสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2030 จึงทำให้มั่นใจว่าฟุตบอลสามารถแก้ไขปัญหาของโลกได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟุตบอลโลกที่จะเป็นเวทีเอกลักษณ์ เพราะคาดว่าจะมีคนมากถึง 5,000 ล้านคน หรือกว่าครึ่งหนึ่งของคนทั้งโลก ชมการถ่ายทอดสดมหกรรมกีฬานี้ ดังนั้นขอให้ใช้โอกาสนี้ทำทุกอย่างที่สามารถทำได้เพื่อสร้างจุดเริ่มต้นให้แก่การยุติความขัดแย้งทั้งปวง.-สำนักข่าวไทย

ฟีฟ่า-อินโดนีเซียจะปรับปรุงความปลอดภัยสนามฟุตบอล

สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า (FIFA) และอินโดนีเซียเห็นพ้องกันเรื่องทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยตามสนามฟุตบอลทั่วอินโดนีเซีย หลังจากเกิดเหตุจลาจลและเบียดกันตายมากกว่า 130 คน

ผู้นำอินโดฯ เผยประธานฟีฟ่าอาสาแก้ปัญหาฟุตบอลให้

จาการ์ตา 5 ต.ค.- ประธานาธิบดีโจโก วิโดโดของอินโดนีเซียเผยว่า ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า (FIFA) ได้อาสาช่วยแก้ปัญหาฟุตบอลของอินโดนีเซียในระหว่างที่สนทนากันเรื่องโศกนาฏกรรมที่สนามฟุตบอลเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีวิโดโดเผยว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายจานนี อินฟานติโน ประธานฟีฟ่าเมื่อวันจันทร์ นายอินฟานติโนเผยว่า ฟีฟ่าสามารถช่วยแก้ปัญหาเรื่องการบริหารจัดการกีฬาฟุตบอลให้แก่อินโดนีเซียหากจำเป็น ต่อข้อถามเรื่องฟีฟ่าจะใช้มาตรการลงโทษอินโดนีเซียจากกรณีที่เกิดขึ้นหรือไม่ ประธานาธิบดีตอบว่าเป็นการตัดสินใจของฟีฟ่า เขาได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสนามฟุตบอลทั่วประเทศอย่างละเอียดแล้ว เพื่อสร้างความมั่นใจว่ามีการปฏิบัติตามระเบียบความปลอดภัย ก่อนหน้านี้ฟีฟ่ากล่าวถึงเหตุจลาจลที่สนามฟุตบอลเมืองมาลัง จังหวัดชวาตะวันออกว่า เป็นโศกนาฏกรรมที่เกินความเข้าใจ และขอให้สหพันธ์ฟุตบอลอินโดนีเซียนำเสนอรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด อินโดนีเซียได้ตั้งคณะสอบสวนหาข้อเท็จจริงที่ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านฟุตบอล นักวิชาการ และเจ้าหน้าที่กระทรวง ขณะที่ตำรวจกำลังสอบสวนตำรวจหลายสิบนายที่ต้องสงสัยว่ากระทำผิดจรรยาบรรณ โดยได้สั่งพักงานไปแล้ว 9 นาย ข้อมูลของทางการระบุว่า เหตุจลาจลที่เกิดขึ้นในนัดที่สโมสรอาเรมา เอฟซี แพ้คาบ้าน 2 ต่อ 3 ประตูให้แก่สโมสรเปอร์เซบายา สุราบายา มีผู้เสียชีวิต 131 คน ในจำนวนนี้เป็นเยาวชน 33 คน.-สำนักข่าวไทย

เผยแฟนบอลอินโดฯ หนีออกนอกสนามไม่ได้เพราะประตูล็อก

จาการ์ตา 5 ต.ค.- สมาคมฟุตบอลแห่งอินโดนีเซียเผยว่า ความล่าช้าในการเปิดประตูทางออกที่สนามฟุตบอลซึ่งเกิดจลาจลหลังจบการแข่งขันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นสาเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก สมาคมฯ แถลงเมื่อวันอังคารว่า ยอดผู้เสียชีวิตมีไม่ต่ำกว่า 130 คน สมาคมฯ มีคำสั่งแบนเป็นการถาวรกับประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ประสานงานความปลอดภัยของสโมสรอาเรมา เอฟซี ซึ่งเป็นเจ้าบ้านนัดที่เกิดเหตุแล้ว โทษฐานไม่ดูแลความปลอดภัยของสนามแข่งขันและไม่รีบสั่งเปิดประตูทางออกอย่างทันท่วงที ประตูทั้งหมดควรต้องเปิดล่วงหน้า 10 นาทีก่อนจบการแข่งขัน แต่ในวันที่เกิดเหตุ หลายประตูยังคงปิดอยู่ทั้งที่กรรมการเป่านกหวีดจบการแข่งขันไปแล้ว 7 นาที คนเปิดประตูมีไม่กี่คนและไปไม่ถึงหลายประตูในช่วงที่ผู้ชมเริ่มยื้อแย่งกันหนีแก๊สน้ำตาที่ตำรวจยิงสกัดแฟนฟุตบอลที่พยายามลงไปในสนาม ด้านตำรวจยังคงยืนยันในวันเดียวกันโดยอ้างภาพจากกล้องวงจรปิดที่ประตูทางออก 6 ประตูจากทั้งหมด 14 ประตู ซึ่งเป็นจุดที่มีคนเสียชีวิตมากที่สุดว่า ประตูไม่ได้ปิดแต่แคบมาก สามารถออกได้คราวละ 2 คน แต่มีคนพยายามหนีออกพร้อม ๆ กันจำนวนมาก ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้จัดการแข่งขัน สำนักข่าวเอพีรายงานอ้างภาพถ่ายจากสนามมาลัง จังหวัดชวาตะวันออกที่เกิดเหตุจลาจลว่า ประตูทางออก 1 ประตู ประกอบด้วยบานประตู 4 บาน สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า (FIFA) และสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียหรือเอเอฟซี (AFC) มีคำแนะนำไว้ว่า ควรต้องปิดประตูทางออกตลอดการแข่งขันเพื่อความปลอดภัย และห้ามใช้แก๊สน้ำตาเป็นเครื่องมือควบคุมฝูงชน อย่างไรก็ดี มาตรฐานความปลอดภัยนี้ไม่ได้บังคับใช้กับการแข่งขันภายในประเทศหรือลีกระดับประเทศ.-สำนักข่าวไทย

โลกฟุตบอลไว้อาลัยเหยื่อโศกนาฏกรรมที่อินโดนีเซีย

ปารีส 3 ต.ค.- สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า (FIFA) นำทีมแสดงความไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากเหตุจลาจลที่เกิดขึ้นหลังการแข่งขันที่อินโดนีเซียเมื่อค่ำวันเสาร์ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายร้อยคน ทางการอินโดนีเซียแจ้งยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดที่ 125 คน เป็นเด็ก 17 คน และมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 300 คน นายจานนี อินฟานติโน ประธานฟีฟ่าแถลงว่า เป็นวันแห่งความมืดมน และเป็นโศกนาฏกรรมที่เกินความเข้าใจ ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับญาติมิตรของผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมดังกล่าว ฟีฟ่าและชุมชนฟุตบอลโลกขอเป็นกำลังใจให้ผู้ได้รับผลกระทบ ประชาชนชาวอินโดนีเซีย สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียหรือเอเอฟซี (AFC) สมาคมฟุตบอลอินโดนีเซีย และลีกฟุตบอลอินโดนีเซีย ด้านลาลีกา ลีกฟุตบอลระดับสูงสุดของสเปนแถลงว่า จะสงบนิ่งไว้อาลัย 1 นาทีในการแข่งขัน 5 นัดของวันอาทิตย์และวันจันทร์ และอีก 10 นัดในสัปดาห์ถัดไป ขณะที่สโมสรฟุตบอลระดับพรีเมียร์ลีกของอังกฤษพากันทวีตแสดงความไว้อาลัยและให้กำลังใจ นายกิลัง วิดยา ปรามานา ประธานสโมสรอาเรมา เอฟซี ทีมเจ้าบ้านนัดที่เกิดโศกนาฏกรรมแถลงในเว็บไซต์ของสโมสรขอโทษชาวเมืองมาลังทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อแฟน ๆ ของอาเรมาที่บาดเจ็บและเสียชีวิต เขาได้สั่งการให้ทีมบริหารของสโมสรประสานกับศูนย์สาธารณสุขที่กำลังรักษาผู้บาดเจ็บแล้ว และสนับสนุนการสอบสวนของตำรวจอย่างเต็มที่ ขอให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้นจนกว่าจะพบต้นตอของปัญหาอย่างชัดเจน.-สำนักข่าวไทย

จลาจลที่สนามฟุตบอลอินโดนีเซียตายเพิ่มเป็น 174 คนแล้ว

จาการ์ตา 2 ต.ค.- เหตุจลาจลที่สนามฟุตบอลอินโดนีเซียหลังจบการแข่งขันเมื่อคืนวันเสาร์มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 174 คนแล้ว ส่วนใหญ่เสียชีวิตเพราะถูกเบียดและเหยียบ หลังจากตำรวจยิงแก๊สน้ำตาสลายฝูงชนจนผู้คนวิ่งหนีกันอย่างโกลาหล เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อแฟนฟุตบอลทีมอาเรมา เอฟซี ของเมืองมาลัง ที่เป็นเจ้าบ้าน ผิดหวังที่ทีมพ่ายให้แก่ทีมเปอร์เซบายา สุราบายาไป 2 ต่อ 3 ประตู จึงพากันขว้างปาขวดน้ำและสิ่งของใส่นักฟุตบอลและเจ้าหน้าที่ แล้วลงไปประท้วงเต็มสนามคันจูรูฮัน เรียกร้องให้คณะบริหารของทีมชี้แจงว่า เหตุใดทีมที่ไม่เคยแพ้ในบ้านมาตลอด 23 ปี จึงจบเกมด้วยสกอร์ดังกล่าว เหตุจลาจลลุกลามออกไปนอกสนาม มีการเผาทำลายรถตำรวจอย่างน้อย 5 คัน ด้านตำรวจปราบจลาจลตอบโต้ด้วยการยิงแก๊สน้ำตา และมีการยิงไปยังผู้คนที่อัฒจรรย์ด้วย ทั้งที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า (FIFA) มีกฎห้ามใช้แก๊สน้ำตาในสนามฟุตบอล ทำให้คนในสนามแห่วิ่งหนีไปยังทางออกเพื่อหนีแก๊สน้ำตา จนเกิดการเบียดกันมีทั้งคนหายใจไม่ออกและคนถูกเหยียบ รายงานระบุว่า มีคนเสียชีวิตในสนามฟุตบอล 34 คน บางรายงานระบุว่ามีเด็กรวมอยู่ด้วย ผู้บัญชาการตำรวจชวาตะวันออกแถลงข่าวในเช้าวันนี้ว่า ตำรวจได้ดำเนินมาตรการป้องกันแล้ว ก่อนตัดสินใจใช้แก๊สน้ำตาในที่สุด เนื่องจากแฟนฟุตบอลเริ่มทำร้ายตำรวจ กระทำการอย่างไร้ขื่อแป และเผายวดยาน ผู้บาดเจ็บมากกว่า 300 คนถูกส่งไปรักษาตัวตามโรงพยาบาลใกล้เคียง แต่หลายคนเสียชีวิตระหว่างทางและระหว่างการรักษา ด้านรองผู้ว่าราชการจังหวัดชวาตะวันออกเผยกับคอมปาสทีวีว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 174 คนแล้ว […]

ย้อนรอยเส้นทางความรุนแรงของฟุตบอลอินโดนีเซีย

จาการ์ตา 2 ต.ค.- ภาพความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสนามฟุตบอลจังหวัดชวาตะวันออกของอินโดนีเซียเมื่อคืนวันเสาร์ที่มีผู้เสียชีวิตแล้ว 129 คน สะท้อนถึงความรุนแรงและความล้มเหลวที่ผ่านมาในการบริหารจัดการกีฬาฟุตบอลของอินโดนีเซีย รอยเตอร์ย้อนรอยเส้นทางกีฬาฟุตบอลของอินโดนีเซียว่า ฟุตบอลเป็นกีฬายอดนิยมที่สุดของประเทศนี้ที่มีประชากรมากเกือบ 275 ล้านคน แต่ไม่สามารถนำศักยภาพมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ และไม่เคยได้เข้ารอบคัดเลือกฟุตบอลโลก ยกเว้นปี 2481 ที่เข้ารอบในฐานะที่เป็นอาณานิคมของเนเธอร์แลนด์ในชื่อ หมู่เกาะอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์ กีฬาฟุตบอลของอินโดนีเซียมีปัญหารุมเร้าทั้งในสนามและนอกสนาม รัฐบาลเคยเข้าไปแทรกแซงจนถูกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า (FIFA) ลงโทษด้วยการสั่งห้ามทีมชาติอินโดนีเซียเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติทุกรายการในปี 2558 ก่อนที่ฟีฟ่าจะยกเลิกโทษแบนในอีกหนึ่งปีถัดมา หลังจากอินโดนีเซียดำเนินการปฏิรูปหลายอย่าง รอยเตอร์ระบุว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากการแข่งขันฟุตบอลในอินโดนีเซียยังคงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ เมื่อแฟนฟุตบอลของทีมที่เป็นคู่แข่งมาเจอกันและจบลงด้วยเหตุนองเลือด พร้อมกับอ้างรายงานของบรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงออสเตรเลียหรือเอบีซี (ABC) ว่า ช่วงปี 2537-2557 อินโดนีเซียมีแฟนฟุตบอลเสียชีวิตเพราะความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลทั้งหมด 74 คน อินโดนีเซียเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ในเดือนพฤษภาคม 2566 ซึ่งถูกเลื่อนมา 2 ปีเพราะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และได้สมัครขอเป็นเจ้าภาพฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023 แข่งกับกาตาร์และเกาหลีใต้ เนื่องจากจีนขอถอนตัวจากการเป็นเจ้าภาพ คาดว่าคณะกรรมการบริหารของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียหรือเอเอฟซี (AFC) จะประกาศชื่อประเทศที่จะได้เป็นเจ้าภาพในวันที่ 17 ตุลาคมนี้.-สำนักข่าวไทย

ฟุตบอลอาเซียน…สู่ฟุตบอลโลก

ห้ามพลาด!! กับพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อพัฒนาศักยภาพด้านฟุตบอลในอาเซียนไปสู่ระดับสากล ระหว่างเลขาธิการอาเซียนและประธาน FIFA

1 2
...