สหรัฐขึ้นบัญชีสิงคโปร์ไม่ทราบสถานะโควิด

สิงคโปร์ 5 ม.ค. – ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี ประกาศให้สิงคโปร์จัดอยู่ในรายชื่อประเทศที่ไม่ทราบสถานะการระบาดของโรคโควิด-19 ในคำเตือนพลเมืองที่จะเดินทางไปยังประเทศดังกล่าว ซีดีซีระบุในประกาศแจ้งเตือนว่า ซีดีซีจัดให้สิงคโปร์อยู่ในประเทศที่ไม่ทราบสถานะการระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากไม่ทราบที่มาของสถานการณ์ระบาดในปัจจุบันของสิงคโปร์ แม้แต่ผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิดครบสองโดสก็อาจมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิดและแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้ ประกาศดังกล่าวยังแนะนำให้พลเมืองสหรัฐหลีกเลี่ยงการเดินทางไปสิงคโปร์ แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องทำเช่นนั้น ก็ควรเข้ารับการฉีดวัคซีนครบสองโดสก่อน ทั้งนี้ ยังมีประเทศอื่น ๆ ที่ได้รับการจัดให้เป็นประเทศที่ไม่ทราบสถานะเหมือนกับสิงคโปร์ เช่น อัฟกานิสถาน กัมพูชา เกาหลีเหนือ และซีเรีย เว็บไซต์ของซีดีซีระบุว่า ซีดีซีใช้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคโควิด-19 จากองค์การอนามัยโลกและแหล่งข้อมูลที่เป็นทางการอื่น ๆ เพื่อนำมาใช้กำหนดระดับการแจ้งเตือนในการเดินทางไปยังประเทศต่าง ๆ หากมีบางประเทศที่ไม่แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ซีดีซีก็จะปรับระดับแจ้งเตือนให้เป็น ‘ไม่ทราบสถานะ’ และผู้ที่จะเดินทางไปยังประเทศเหล่านี้ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำเช่นเดียวกับกลุ่มประเทศที่อยู่ในระดับ 4 ซึ่งเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิดสูงสุด กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์รายงานเมื่อวันอังคารว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 842 คน ในจำนวนนี้ มีผู้ป่วยติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 502 คน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 281,000 คน และผู้เสียชีวิต 832 คน.-สำนักข่าวไทย

ซีดีซีสหรัฐอนุมัติฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็ก 5-11 ปี

ลอสแอนเจลีส 3 พ.ย. – ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี ประกาศอนุมัติฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดของไฟเซอร์ให้เด็กอายุ 5-11 ปีอย่างเป็นทางการแล้ว ซีดีซีระบุในแถลงการณ์ในวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า ซีดีซีสนับสนุนให้ผู้ให้บริการด้านสุขภาพเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดของไฟเซอร์ให้กลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปีราว 28 ล้านคนในสหรัฐโดยเร็วที่สุด ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดในกลุ่มเด็กเล็กและวัยรุ่นมีอัตราเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่าในช่วง 6 สัปดาห์นับตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนสิงหาคมของปีนี้ ดังนั้น การฉีดวัคซีนและการใช้มาตรการป้องกันอื่น ๆ จะช่วยปกป้องเด็กจากโรคโควิด-19 ได้ด้วยวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้รับคำแนะนำให้ฉีดในกลุ่มวัยรุ่นและผู้ใหญ่ในสหรัฐมาก่อนแล้ว ทั้งนี้ วัคซีนของไฟเซอร์มีประสิทธิภาพป้องกันโรคโควิด-19 ได้สูงเกือบร้อยละ 91 ในเด็กอายุ 5-11 ปี ซึ่งอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับผลการทดลองในกลุ่มผู้ใหญ่ ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ได้ระบุในแถลงการณ์เพื่อสนับสนุนการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดในกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปีว่า การฉีดวัคซีนให้กลุ่มเด็กเล็กจะทำให้สหรัฐมีอัตราฉีดวัคซีนเพิ่มสูงขึ้นหลังเริ่มโครงการฉีดวัคซีนมาเป็นเวลา 9 เดือน ขณะนี้ มีชาวอเมริกันอายุ 12 ปีขึ้นไปได้รับการฉีดวัคซีนโดสแรกสูงกว่าร้อยละ 78 และวัคซีนของไฟเซอร์ก็ได้รับการตรวจสอบว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง.-สำนักข่าวไทย

...