
ดินตะกอนเหมืองแร่ฝั่งเมียนมา ก่อมลพิษลำน้ำกระบุรี จ.ระนอง
ระนอง 29 พ.ค. – น้ำสีขุ่นข้นคล้ายโคลน นานกว่า 2 ปี ผลกระทบการปล่อยดินตะกอนจากการทำเหมืองแร่ฝั่งเมียนมา ลงสู่ลำน้ำกระบุรี จ.ระนอง กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่กระทบชีวิตความเป็นอยู่ชาวชุมชน เพราะลำน้ำกระบุรี ถือเป็นเส้นเลือดใหญ่สำคัญที่หล่อเลี้ยงชาวชุมชนมายาวนาน ชาวบ้านร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือมานานกว่า 2 ปี แต่ไม่เป็นผล สภาพแม่น้ำกระบุรี ซึ่งกั้นพรมแดนระหว่างไทย-เมียนมา ทางฝั่ง จ.ระนอง อยู่ในสภาพสีแดงขุ่น ส่งผลกระทบกับประชาชนที่อาศัยอยู่ในหลายพื้นที่ริมแม่น้ำของ อ.กระบุรี โดยนางนฤมล บุญช่วย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปากจั่น พร้อมด้วยชาวบ้านในพื้นที่ นำทีมข่าวสำนักข่าวไทยลงพื้นที่ตรวจสอบความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น พร้อมระบุว่าสภาพสีน้ำที่เปลี่ยนไปจนสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่เวลานี้เป็นผลมาจากการทำเหมืองแร่ในฝั่งเมียนมา ที่มีการปล่อยตะกอนดินเลนลงสู่แม่น้ำกระบุรี โดยไม่มีการควบคุม ทำให้ชาวบ้าน โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.กระบุรี ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง ทั้งกระทบต่อวิถีการใช้ชีวิต ภาคการเกษตร และภาคการท่องเที่ยว ที่สำคัญยังเริ่มส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศริมชายฝั่ง โดยปัญหานี้ยืดเยื้อมานานกว่า 2 ปี และมีแนวโน้มทวีความรุนแรงต่อเนื่อง และกังวลว่าระยะยาวลำน้ำกระบุรี อาจต้องเผชิญกับปัญหามลพิษทางน้ำไม่ต่างจากแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย จ.เชียงใหม่ และเชียงราย ที่กำลังเผชิญปัญหาจากการทำเหมืองแร่ทองคำ อยู่ในเวลานี้ วันพรุ่งนี้ (30 พ.ค.) ทีมข่าวสำนักข่าวไทยจะเจาะลึกถึงประเด็นความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น […]